“รอน เดนนิส” บอสใหญ่แห่งค่ายแม็คลาเรน ออกอาการฟิวส์ขาด หลังจากทราบบทลงโทษของทีม ที่ถูกสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (ดับเบิลยูเอ็มเอสซี) สั่งปรับเงินสูงเป็นประวัติศาสตร์ 50 ล้านปอนด์ (3,500 ล้านบาท) และตัดแต้มในการแข่งขันประเภททีมนักขับทั้งหมด พร้อมทั้งกล่าวปฏิเสธว่า แม็คลาเรน ไม่เคยนำข้อมูลทางความลับของทีมคู่แข่งมาใช้ในการแข่งขันเลย
หนังสือพิมพ์เดอะซัน รายงานว่า รอน เดนนิส นายใหญ่แห่งทีมแม็คลาเรน-เมอร์ซิเดส เก็บอารมณ์โมโหเอาไว้ไม่อยู่ หลังทราบบทลงโทษในคดีฉาวของทีม เมื่อวานนี้ว่า ทีมต้องจ่ายค่าปรับอ่วมถึง 50 ล้านปอนด์ (3,500 ล้านบาท) และแม้ว่า แม็คลาเรน จะได้รับการการันตีเงินรางวัลจำนวน 20 ล้านปอนด์ในการคว้าแชมป์ ทำให้ เดนนิส เหลือค่าปรับที่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเพียง 30 ล้านปอนด์ ทว่ามันก็ไม่คุ้มเมื่อเทียบกับชื่อเสียงที่ต้องเสียไปของทีม
“สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือ เราจะต้องลงทำการแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้ รวมถึงในอีกไม่กี่สนามที่เหลือ และในฤดูกาลต่อๆไป อย่างไรก็ตาม ผมยอมรับไม่ได้ว่า มันเป็นบทลงโทษที่เราสมควรได้รับ หรือ ในเรื่องชื่อเสียงที่ถูกทำลายป่นปี้ของเรา” บอสแม็คลาเรน เผย
“หลักฐานที่ทางเรามอบให้กับทางสหพันธ์ฯในวันนี้ มันชัดเจนว่า เราไม่ได้ใช้ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อความได้เปรียบในการแข่งขันเลย”
“เราไม่เคยปฏิเสธว่า 1 ในทีมงานของเราครอบครองข้อมูลทางความลับของเฟอร์รารี่ ไว้เป็นการส่วนตัว ทว่าประเด็นของมันคือ แม็คลาเรนใช้ข้อมูลเหล่านั้นหรือไม่?” นายใหญ่แม็คลาเรน กล่าวแบบเซ็งๆ “ทุกวันนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้”
ขณะที่ทางเฟอร์รารี่ ก็ได้ออกมาแสดงความพอใจกับผลการตัดสินในครั้งนี้ว่า "เฟอร์รารี่รู้สึกพอใจที่ในที่สุดความจริงทั้งหมดก็เปิดเผยออกมา"
อย่างไรก็ตาม ทางแม็คลาเรน ได้เตรียมยื่นเรื่องขออุทธรณ์เป็นที่แน่นอนแล้ว จากการเปิดเผยของ นอร์เบิร์ต ฮอก หัวหน้าฝ่ายเครื่องยนต์ของแม็คลาเรน-เมอร์ซิเดส ที่บอกว่า “เราจะสู้เพื่อความยุติธรรม”