xs
xsm
sm
md
lg

“สิงคโปร์ VS ไทย” ดาร์บี้แมตช์อุษาคเนย์ ภาค 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


การเดินทางสู่สิงคโปร์เพื่อโม่แข้งศึกฟุตบอล “อาเซียนคัพ” นัดชิงชนะเลิศ เลกแรก ในเย็นวันพุธนี้ นอกจากจะมีถ้วยรางวัลอันทรงเกียรติเป็นเดิมพันแล้ว ยังถือเป็นการพิสูจน์ศักดิ์ศรีและช่วงชิงความเป็นเจ้าลูกหนังระดับอาเซียน ซึ่งในระยะหลังทีม “ลอดช่อง” แชมป์เก่าพยายามทุกวิถีทางที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหมายเลข 1 ในวงการฟุตบอลแถบนี้ให้ได้

ศึกครั้งนี้จะระเบิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ยังคุกรุ่นโดยมีตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลอาเซียนคัพเป็นเดิมพัน พิสูจน์กันแบบเหย้า-เยือน 2 นัดที่บ้านสิงคโปร์ก่อน จากนั้นเป็นทีของเราที่จะได้ใช้สนามศุภชลาศัย ปิดประตูตีแมวในวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์

การได้ดวลกันครั้งนี้เหมือนโชคชะตาลิขิต เพราะสิงคโปร์กว่าจะผ่านเข้าชิงได้ต้องอาศัยการดวลจุดโทษพิชิต “เสือเหลือง” มาเลเซียเข้ามา ส่วนไทยนั้นผิวปากเพลงสบายๆ เข้ามา เพราะนัดแรกตุนประตูจากการบุกไปเยือนเวียดนาม 2-0

ความสำคัญอยู่ที่เลกแรกวันนี้ซึ่งไทยเดินทางไปเยือนด้วยสภาพน่าห่วง ผู้เล่นบาดเจ็บกันเพียบโดยเฉพาะกองหน้าตัวสำคัญอย่าง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งหมอนรองกระดูกเข่าขวาฉีกลงเล่นไม่ได้แน่ๆ เลยไม่ขอเดินทางไปด้วย นอกจากนั้น ดัสกร ทองเหลา, สุธี สุขสมกิจ, กิตติศักดิ์ ระวังป่า และนิรุจน์ สุระเสียง ก็ยังต้องลุ้นทดสอบความฟิตจนถึงนาทีสุดท้ายว่าจะลงได้หรือไม่

เกมนี้อาจจะไม่ใช่งานง่ายนักของทีมไทย เพราะสิงคโปร์เองในฐานะแชมป์เก่ามีความมั่นใจและพกความแค้นมาอย่างเต็มเปี่ยม จากความพ่ายแพ้ไทยในฟุตบอลคิงส์คัพมาหมาดๆ เมื่อเดือนที่แล้ว ดังนั้น เจ้าบ้านจึงต้องการโค่นแชมป์ 3 สมัยอย่างเราให้ได้เพื่อกู้หน้าคืนกลับมา

สิงคโปร์เองได้สร้างทีม “ลอดช่อง” ชุดใหม่เพื่อให้ประสบความสำเร็จให้ได้เร็วที่สุด แบบไม่สนว่าจะใช้แมวสีอะไร ขอให้จับหนูได้เป็นพอ ไปลงทุนจ้างนักเตะโอนสัญชาติมาหลายคน แถมใช้เงินดึงหัวหน้าโค้ชต่างชาติจากยุโรปตะวันออกอย่าง แรดดี้ อัฟราโมวิช มาอีกด้วย โดยหัวหน้าโค้ชชาวเซิร์บได้กล่าวถึงเกมที่จะเจอกับไทยวันพุธนี้ว่า “เกมนี้ไม่เหมือนในคิงส์คัพ เพราะผมจะมีโอกาสได้เลือกตัวผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม และนักเตะของเราก็ดูจะพร้อมกว่าที่ผ่านมา แถมยังได้เปรียบที่ได้พักมากกว่าไทยด้วย”

ขณะที่ฝ่ายไทยทั้งหัวหน้าโค้ช ชาญวิทย์ ผลชีวิน และผู้จัดการทีมธวัชชัย สัจจกุล ให้สัมภาษณ์คล้ายๆ กันว่า การบุกไปเอาชนะสิงคโปร์ถึงถิ่นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพนักเตะของเราที่บาดเจ็บและไม่สมบูรณ์หลายคนแบบนี้ น่าจะต้องเล่นแบบรัดกุมเพื่อผลเสมอแล้วมาชี้ชะตาในเลกที่สองมากกว่า

อย่างไรก็ดี “อาจารย์หรั่ง” ถือเป็นโค้ชที่มีประสบการณ์และวางแผนตามสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดีที่สุดคนหนึ่ง ดังนั้นกับนัดชิงชนะเลิศเหย้า-เยือนแบบนี้ หัวหน้าโค้ชไทยน่าจะรู้ว่าควรจะทำอย่างไร เพื่อทำให้ไทยได้กลับมาเล่นที่สนามศุภชลาศัยฯอย่างได้เปรียบที่สุด

หลังจากยกที่ 1 และยก 2 ทั้งซีเกมส์ และคิงส์คัพ สิงคโปร์ผิดหวังติดต่อกันมาแล้ว ทีมชาติไทยจะทำให้พวกเขาอกหักคำรบสามได้สำเร็จหรือไม่?
ดาเนี่ยล เบนเน็ตต์ นักเตะลอดช่องเข้าสกัดผู้เล่นมาเลเซีย
ดัสกร ทองเหลา ต้องลุ้นสภาพความฟิตก่อนลงสนาม


กำลังโหลดความคิดเห็น