“ราชันแห่งราชา” โรเจอร์ เฟเดอเรอร์

นับตั้งแต่วงการลูกสักหลาดโลกต้องโบกมืออำลา “พีท แซมพราส” ยอดนักเทนนิสชาวสหรัฐฯไปในปี 2003 เวลานั้นเหล่าเกจิริมคอร์ตต่างจับตามองกันว่าใครจะขึ้นมาสร้างตำนานบทใหม่ให้กับแวดวงเอทีพีทัวร์ เวลานั้นชื่อของ เฟเดอเรอร์ ก็โดดเด่นขึ้นมาเมื่อนักเทนนิสหนุ่มวัย 22 ปีคว้าแชมป์วิมเบิลดัน มาครองเป็นแกรนด์สแลมแรกในชีวิตนักเทนนิสอาชีพ
หลังจากนั้น เฟด-เอ็กซ์ ก็ฉายแววนักเทนนิสอัจฉริยะเพิ่มมากขึ้นในปี 2004 ด้วยชัยชนะ 11 รายการในเอทีพีทัวร์ซึ่งหมายรวมไปถึงแกรนด์สแลมอย่าง วิมเบิลดันสมัยสอง ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น และ ยูเอส โอเพ่นสมัยแรก ปี 2005 เฟเดอเรอร์ ยังคงร้อนแรงไม่หยุดเขาคว้าโทรฟี่ไปเก็บที่บ้านได้ในตัวเลขเท่ากับฤดูกาล 2004 พร้อมกับคำท้าชิงจากนักเทนนิสหนุ่มจากสเปน ที่ชื่อ ราฟาเอล นาดาล แต่ความร้อนแรงของกระทิงหนุ่มก็ถูกเฟด-เอ็กซ์ ปราบได้เสียสนิท

เท่านั้นยังไม่พอ เฟด-เอ็กซ์ ยังคว้าแชมป์มาสเตอร์ คัพทัวร์นาเม้นต์รวมสุดยอดนักเทนนิสประจำปีไปครองอีกครั้งเป็นสมัยที่สามอย่างง่ายดาย ด้วยการสอนเชิงให้กับ เจมส์ เบลค นักเทนนิสที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาล 2006 แต่ท้ายที่สุดก็ไม่พ้นถูกมือเทพอย่าง เฟเดอเรอร์ คว่ำไปแบบสบายมือ 6-0, 6-3 และ 6-4

เป็นที่ยอมรับกันว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีคือศักราชของ เฟเดอเรอร์ นอกจากชื่อเสียงในการเก็บเกี่ยวชัยชนะ รวมไปถึงโทรฟี่ที่เจ้าตัวคงต้องซื้อชั้นวางที่บ้านใหม่และในวัย 25 ปีเต็มดูเหมือนว่า เฟด-เอ็กซ์ จะพุ่งสู่จุดสูงสุดของตนเองเมื่อสร้างและทำลายสถิติเก่ายาวเป็นหางว่าวเริ่มจากตัวเลขเงินรางวัลจากการแข่งขันที่ ยอดนักเทนนิสชาวสวิสฯ ทำได้เกิน 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เฟด-เอ็กซ์ ทำรายได้จากการแข่งขันในฤดูกาล 2006 รวม 8,343,885 เหรียญสหรัฐฯ ประมาณสามร้อยล้านบาท) นับเป็นนักเทนนิสคนแรกที่ทำเงินรางวัลได้สูงขนาดนี้ในฤดูกาลเดียว

นอกจากเงินรางวัลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในฤดูกาลเดียวแล้วเฟด-เอ็กซ์ ยังมีคะแนนสะสมในเอทีพีเพียงฤดูกาลเดียวสูงถึง 8,370 แต้ม แน่นอนว่าคะแนนสะสมดังกล่าวย่อมทำให้ตำแหน่งนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของโลกยังคงอยู่กับเฟเดอเรอร์ไปจนถึงวันที่ 26 ก.พ.ปี 2007 ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องทำลายสถิติของ จิมมี่ คอร์เนอร์ ที่เคยรั้งอันดับหนึ่งของโลกนานถึง 160 สัปดาห์

ไม่เพียงแต่ทำลายสถิติเดิม ยอดนักเทนนิสชาวสวิสฯ ยังเป็นผู้สร้างตำนานบทใหม่ขึ้นในวงการลูกสักหลาดเมื่อเขาเปิดศักราชเป็นนักเทนนิสรายแรกที่คว้าแชมป์ได้มากกว่า 10 รายการถึงสามฤดูกาลติดต่อกันโดยในปี 2004 เฟเดอเรอร์ คว้าแชมป์ไปทั้งหมด11 รายการ ปี 2005 เก็บถ้วยโทรฟี่กลับบ้านในจำนวนเดียวกัน ในขณะที่ปี 2006 เฟด-เอ็กซ์ สร้างปรากฎการณ์คว้าแชมป์ 12 รายการเพียงฤดูกาลเดียวได้สำเร็จ

ชัยชนะถึง 12 รายการของนักเทนนิสหนุ่มวัย 25 ปีผู้นี้ยังส่งผลให้เขาเป็นแรกเก็ตหนุ่มรายแรกนับตั้งแต่ปี 1995 ที่ทำสถิติดังกล่าวได้สำเร็จต่อจาก โธมัส มุสเตอร์ โดยแชมป์ 12 รายการในฤดูกาล 2006 ของ เฟเดอเรอร์ นั้นประกอบไปด้วย แกรนด์สแลมสามรายการ ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น วิมเบิลดัน และ ยูเอส โอเพ่น นอกจากนี้ยังมี มาสเตอร์ คัพ, โตรอนโต มาสเตอร์ส, อินเดียน เวลล์ส, มาดริด มาสเตอร์ส, ไมอามี่ มาสเตอร์ส, บาเซิล, โดฮา, ฮาลล์ และ โตเกียว แชมป์เปี้ยน

สถิติต่อมาของ เฟเดอเรอร์ในปีนี้คือการเป็นนักเทนนิสคนแรกนับจาก อีวาน เลนเดิล ที่ชนะมากกว่า 90 แมทช์ในฤดูกาลเดียว โดยเฟด-เอ็กซ์ นั้นคว้าชัยชนะถึง 92 แมทช์ด้วยกัน นอกจากนี้ยอดนักเทนนิสชาวสวิตเซอร์แลนด์ ยังเป็นคนแรกที่เปิดศักราชเข้าชิงแกรนด์สแลมได้ติดต่อกันถึง 6 ครั้ง และยังเป็นคนแรกที่คว้าแชมป์ วิมเบิลดัน และยูเอส โอพ่น ติดต่อกันถึงสามสมัย แน่นอนว่าผลงานดังกล่าวทำให้ เฟเดอเรอร์ ทำลายสถิติของ บิยอร์น บอร์ก ที่มีชัยบนคอร์ตหญ้าถึง 41 นัดในขณะที่ เฟด-เอ็กซ์ ทำได้ถึง 48 นัดหลังจากที่เขาคว้าแชมป์วิมเบิลดันสมัยที่ 4

การจารึกผลงานครั้งสุดท้ายของเฟเดอเรอร์ ในปีนี้คือเป็นยอดนักเทนนิสเช่นเดียวกันกับ ริชาร์ด เซียร์ส ชาวสหรัฐฯ และ ไบรตัน วิลล์ เรนชอว์ ที่สามารถคว้าชัยชนะในแกรนด์สแลมรายการที่เจ็ดได้สำเร็จหลังจากจบการแข่งขันออสเตรเลี่ยน โอเพ่นเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมาโดยสองนักเทนนิสชาวสหรัฐฯนั้นทำสถิติไว้ตั้งแต่ปี 1880 ถึงเวลานี้คงต้องยอมรับว่าไม่มีนักเทนนิสชายอาชีพรายใดจะโดดเด่นเกินหน้า โรเจอร์ เฟเดอเรอร์และชื่อนี้คงอยู่ในตำแหน่งมือหนึ่งของ เอทีพีทัวร์ อีกนาน อย่างน้อยก็จนกว่า ราฟาเอล นาดาล จะแกร่งพอจะทำแต้มทีห่างกันเกือบครึ่งให้ทันยอดนักเทนนิสจากสวิตเซอร์แลนด์ผู้นี้ได้