การแข่งขันเทนนิส ไทยแลนด์โอเพ่น ประจำปี 2006 ซึ่งเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา นับเป็นเทนนิสเอทีพี ทัวร์รายการเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ปัจจุบันมีเงินรางวัลรวมสูงถึง 525,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 21ล้านบาท) และ ในปีนี้ ไทยแลนด์ โอเพ่น กลายเป็นทัวร์นาเม้นท์ที่มีความสำคัญสำหรับนักเทนนิสท้อปเทนหลายรายที่เข้ารวมดวลแร็กเก็ต เพราะผลจากการแข่งขันรายการนี้คือบันไดสำคัญสำหรับการชิงสิทธิเข้าร่วมเทนนิส มาสเตอร์ คัพ ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นรายการที่มีศักดิ์ศรีเทียบได้กับ แกรนด์สแลมรายการที่ 5 ของฤดูกาลเลยทีเดียว
โดยการแข่งขันมาสเตอร์คัพ ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ที่จะถึงนี้เป็นรายการที่ให้สิทธิ์นักเทนนิสซึ่งมีคะแนนสะสมในระบบแชมเปี้ยนเรซ ในอันดับหนึ่งถึงแปด หรือนักเทนนิสที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันเท่านั้น ซึ่งถึงเวลานี้นักเทนนิสที่มีรายชื่อได้เข้าร่วมอย่างแน่นอนแล้วมีอยู่สองรายอันได้แก่ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสเทพ ที่ปีนี้คว้าแกรนด์สแลมมาครองได้ถึงสามรายการจาก ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น วิมเบิลดัน และ ยูเอส โอเพ่น รวมไปถึงมือวางอันดับสองอย่าง ราฟาเอล นาดาล ที่คว้าแชมป์ เฟรนช์โอเพ่น บนสนามโรลังด์ การ์รอส ก็ได้สิทธิไปมาสเตอร์คัพ แล้วเช่นกัน
สำหรับนักเทนนิสที่อยู่ในโผมีลุ้นได้ไปปักกิ่งในเดือน พฤศจิกายน นี้และเข้าร่วมการแข่งขันไทยแลนด์โอเพ่น ได้แก่ อิวาน ลูบิซิช มาร์กอส แบกห์ดาติส และ เจมส์ เบลค โดยนักเทนนิสในสามรายนี้ ลูบิซิช ที่เพิ่งจะแย่งอันดับสามในตารางแชมเปี้ยนเรซมาจาก แอนดี้ ร็อดดิก น่าจะตีตั๋วได้ไป ปักกิ่งแล้วค่อนข้างแน่นอน และการแข่งขันไทยแลนด์โอเพ่น จอมหวดชาว โครแอต ก็มีสิทธิลุ้นแชมป์ไม่น้อยเพราะสถิติชัยชนะในสนามอินดอร์เมื่อฤดูกาล 2005 ถึง 35 นัดนั้นมิใช่สิ่งที่คู่ต่อสู้จะประมาทได้
นอกจากนี้ ลูบิซิช ยังเป็นนักเทนนิสชาวโครเอเชีย ที่ทำผลงานติดอยู่ในท้อปเทนของเอทีพีทัวร์มาโดยตลอด โดยก่อนหน้านี้มีเพียงโกรัน อิวานิเซวิค ที่สามารถติดอยู่ในท้อปเทนของ เอทีพีทัวร์ตั้งแต่ปี 1992- 96 สำหรับเส้นทางของ ลูบิซิช ในไทยแลนด์ โอเพ่นหลังผ่านรอบแรกเขามีโอกาสพบกับ เบนจามิน เบคเกอร์ ในรอบที่สอง และมีสิทธิ์ลุ้นดวลแร็กเก็ตกับ ร็อบบี้ จิเนปรีในรอบก่อนรองชนะเลิศ
สำหรับเจมส์ เบลค นักเทนนิสหนุ่มหุ่นเซ็กซี่ชาวสหรัฐฯถูกจัดให้เป็นมือวางอันดับสามของรายการโดยอยู่ในสายเดียวกับ ฮวน คาร์ลอส เฟอร์เรโร่ มือวางอันดับ 6 จากสเปนเมื่อเปรียบรูปเกมแล้วเบลค มีสิทธิ์ลุ้นเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ซึ่งมีโอกาสเกิน 50 เปอร์เซนต์ที่ต้องชนกับ แบกห์ดาติส เพื่อผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ล่าสุดดูเหมือนว่า โอกาสของ เบลค จะมีมากขึ้นเมื่อนักหวดหนุ่มวัย 21 ปีจากไซปรัสประกาศถอนตัวจากการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ แต่มีความเป็นไปได้ว่า แบกห์ดาติส จะยังคงมีโอกาสลุ้นไปมาสเตอร์คัพอยู่ เพราะต่อจากนี้ยังมีทัวร์นาเม้นท์ให้เก็บคะแนนอีกอย่างน้อย สามถึงสี่รายการ
ไม่เพียงแต่นักเทนนิสในระดับท้อปเทนที่ขอลุ้นเก็บคะแนนในไทยแลนด์โอเพ่น เพื่อชิงสิทธิไปมาสเตอร์คัพ เท่านั้นแต่หนุ่มวัย 19 ปีจากสก๊อตแลนด์อย่าง แอนดี้ เมอร์เรย์ ที่ปี 2005 คว้าตำแหน่งรองแชมป์ก็หวังจะเก็บคะแนนจากเอทีพีทัวร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน โดยรอบแรกดาวรุ่ง จากสก๊อตแลนด์ ต้องลงสนามพบกับ ทิม เฮนแมน นักเทนนิสรุ่นพี่ ที่ยังไม่เคยเอาชนะเมอร์เรย์ ได้เลยจากการพบกันสามครั้ง หากผ่านเข้ารอบลึกๆได้ โอกาสที่เมอร์เรย์จะคว้าแชมป์ก็มีไม่น้อยหากแกร่งพอที่จะต้านมือดีอย่าง ลูบิซิช ซึ่งหนุ่มวัย 19 ปีจากสก๊อตแลนด์ ก็พกเอาความมั่นใจมาเต็มกระเป๋าเพราะให้สัมภาษณ์ก่อนลงสนามแข่งที่กรุงเทพฯไว้แล้วว่า ต้องการทำอันดับให้ติดหนึ่งใน 8 ของแชมเปี้ยนเรซ และไม่ต้องการได้สิทธิมาสเตอร์คัพ จากการสละสิทธิ์ของนักเทนนิสที่บาดเจ็บ
ในส่วนของนักเทนนิสไทยที่ลงสนามไทยแลนด์ โอเพ่นครั้งนี้ยังคงเป็น “เจ้าบอล” ภราดร ศรีชาพันธุ์ และ ดนัย อุดมโชค ทั้งนี้ “ซูเปอร์บอล” จะลงสนามรอบแรกพบกับ เฟลิเซียโน่ โลเปซ มือ 80 ของโลกจากสเปนในขณะ ที่ดนัย จะพบกับ จอร์จ บาเซิ่ล โดยภายหลังจากทราบผลการแบ่งสาย ภราดร ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมกับอ้อนทิ้งท้ายให้แฟนเทนนิสชาวไทยร่วมให้กำลังใจว่า “ ผลงานในไทยแลนด์ โอเพ่น ของผมมักจะเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็อยากให้กองเชียร์ชาวไทยมาเชียร์มาให้กำลังใจกันมากๆเพราะจะทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นสำหรับการดวลกับ เฟลิเซียโน่ โลเปซ เราเคยเจอกันมาสามหนและผมก็ไม่เคยเอาชนะเขาได้เลย อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมแพ้แน่นอน”
