ชัยชนะที่สามารถจารึกชื่อของตนเองบนถ้วย “คลาเรต จัก” ได้สำเร็จเป็นครั้งที่สาม และ กลายเป็นแชมป์เมเจอร์รายการที่ 11 ของ “พญาเสือ” เชื่อกันว่านี่คือจุดเริ่มต้นของช่วงเวลาที่ 4 ของ “ไทเกอร์ วู้ดส์” โปรกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกในการก้าวสู่ความยิ่งใหญ่เทียบชั้น แจ็ก นิคคลอส เจ้าของสถิติ 18 เมเจอร์ที่ยังหานักกอล์ฟอาชีพคนใดลบสถิติดังกล่าวได้
จากก้าวแรกของไทเกอร์ วู้ดส์ ที่เริ่มต้นเมื่อตั้งแต่ครั้งยังเป็นโปรวัยรุ่นที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ และสร้างความตื่นตะลึงให้กับแฟนกอล์ฟทั่วโลก พร้อมกับผลงานที่ “เจ้าเสือน้อย” ทำสกอร์สถิติ 12 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตจากการแข่งขันรายการเดอะมาสเตอร์สเมื่อมีอายุได้เพียง 21 ปีในปี 1997
หลังจากช่วงชีวิตในฐานะโปรวัยหนุ่มต้องหยุดชะงักไปพักใหญ่เพื่อแก้วงสวิงโปรลูกครึ่งอเมริกัน-ไทย ก็ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในฐานะนักกอล์ฟอาชีพเมื่อคว้าแชมป์รายการเมเจอร์มาครองได้ถึง 7 รายการในระยะเวลาเพียงแค่ 5 ปีซึ่งรวมไปถึงการคว้าแชมป์เมเจอร์ครบทั้ง 4 รายการ หลังจากประสบความสำเร็จในการแข่งขันยูเอส โอเพ่นในปี 2000 และทำให้ชื่อเสียงของไทเกอร์ ขึ้นสู่จุดสูงสุด ซึ่งสื่อมวลชนเรียกความสำเร็จของไทเกอร์ วู้ดส์ ในช่วงเวลาดังกล่าวว่า "ไทเกอร์ สแลม"
ก้าวที่สองของไทเกอร์ วู้ดส์ นั้น เกิดขึ้นในช่วงปี 2003-2004 เป็นช่วงเวลาที่ วู้ดส์ ไม่ได้มีผลงานที่น่าหวือหวานักเพราะอยู่ในช่วงการปรับปรุงวงสวิงครั้งใหญ่เพื่อที่จะต่อสู้ได้อย่างยั่งยืนสำหรับการแข่งขันในอนาคต
ภายหลังจากปรับเปลี่ยนโครงสร้างวงสวิงใหม่ วู้ดส์ เริ่มต้นก้าวที่สามด้วยการคว้าชัยชนะครั้งที่สี่ในรายการเดอะเมเจอร์ เมื่อปี 2005 และคว้าชัยชนะในการแข่งขัน “ดิ โอเพ่น” ที่ “เซนต์ แอนดรูว์ส” เป็นสมัยที่สอง ความสำเร็จในปีที่ผ่านมาทำให้ “ไทเกอร์ วู้ดส์” คว้าแชมป์เมเจอร์ได้ทั้งสิ้น 10 รายการก่อนที่จะมีอายุครบ 30 ปีเป็นความสำเร็จในเมเจอร์ที่มากกว่า แจ็ค นิคคลอส ถึง 3 ครั้งในวัยเดียวกัน ทั้งนี้ นิคคลอส คือเจ้าของสถิติแชมป์ 18 เมเจอร์ ที่วู้ดส์ กำลังไล่ล่าอยู่ ณ เวลานี้
แต่ดูเหมือนความสำเร็จของวู้ดส์ จะถูกท้าทายจากเรื่องเศร้าในชีวิตเมื่อ เอิร์ล วู้ดส์ บิดาอันเป็นที่รัก และ เป็นครูฝึกสอนกอล์ฟคนแรกของวู้ดส์ ต้องเสียชีวิตลงเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมาด้วยโรคมะเร็ง เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียใจเป็นอย่างยิ่งให้กับ วู้ดส์ และครอบครัว ทำให้โปรหมายเลขหนึ่งของโลกต้องขอหยุดพักนานถึงหนึ่งเดือน
ไทเกอร์ วู้ดส์ ที่สุขุมและเติบโตขึ้น ลงสนามอีกครั้งหลังจากหยุดพักทำใจในการแข่งขัน ยูเอส โอเพ่น ซึ่งผลงานเมเจอร์ ดังกล่าว วู้ดส์ ไม่ผ่านการตัดตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มเทิร์นโปร แต่สำหรับ ดิ โอเพ่น ที่รอยัล ลิเวอร์พูล ฮอยเลค วู้ดส์ แสดงความแข็งแกร่งอันแท้จริงของตนเองออกมา และเริ่มต้นช่วงที่ สี่ของชีวิตเมื่อคว้าแชมป์เมเจอร์ ดิ โอเพ่นมาครองได้สำเร็จ ในช่วงอายุ 30 ปี
วู้ดส์ ให้สัมภาษณ์ หลังการแข่งขันว่า "การแข่งขันเพื่อคว้าชัยชนะในรายการระดับเมเจอร์ นั้นมีความสำคัญมาก และถ้าทำได้สำเร็จมันคือสิ่งที่เราจะจดจำไปตลอดชีวิต" ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้การก้าวไปสู่ความสำเร็จเทียบกับ แจ็ค นิคคลอสของวู้ดส์ ใกล้เข้าไปอีกหนึ่งก้าว โดยนิคคลอส เมื่อวัย 30 ปีก็ต้องสูญเสียบิดาไปเช่นกัน ซึ่งในเวลานั้น นิคคลอสมีลูกแล้ว 4 คน
ก่อนที่ความยิ่งใหญ่ของเจ้าหมีทองคำจะถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าชัยชนะ 18 เมเจอร์ นิคคลอสคว้าแชมป์เมเจอร์ที่ 11 เเมื่อเขามีบุตรแล้ว 5 คนโดยนับจากเมเจอร์แรกในปี 1970 จนกระทั่งถึงปี 1986 ซึ่ง นิคคลอส คว้าแชมป์เมเจอร์ครั้งที่ 11 เมื่อมีอายุได้ 46 ปี
สำหรับ วู้ดส์ที่แต่งงานกับ อีลิน นอร์เดอเกรน เมื่อปี 2004 ยังไม่มีบุตร ซึ่งดูจะทำให้ “พญาเสือ” ไม่มีอุปสรรคในการไล่ล่าเพื่อประสบความสำเร็จให้เทียบเท่ากับ นิคคลอส และการคว้าแชมป์ที่ ฮอยเลค เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม 49 เปรียบเสมือนกับการก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครั้งของ วู้ดส์
ช่วงที่สี่ของชีวิตไทเกอร์ วู้ดส์ นับจากนี้มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะคว้าชัยชนะในเมเจอร์ได้อีก 8 รายการ หากเป็นเช่นนั้นจริง วู้ดส์ จะอำลาวงการที่ รอยัล เบิร์คดาลในปี 2008 เพราะเมื่อถึงเวลานั้นโปรหมายเลขหนึ่งของโลกน่าจะประสบความสำเร็จในการทำลายสถิติของ นิคคลอส ด้วยวัยเพียง 32 ปี และหลังจากนั้นน่าจะเป็นเวลาที่ วู้ดส์ เริ่มต้นสร้างครอบครัวอย่างจริงจัง
เมเจอร์ทั้ง 11 รายการของ “ไทเกอร์ วู้ดส์”
- ปี 1997 แชมป์เดอะ มาสเตอร์ ที่ออกัสตา
- ปี 1999 แชมป์เมเจอร์รายการยูเอสพีจีเอ ที่ ฮาเซลไทน์
- ปี 2000 แชมป์เมเจอร์ รายการยูเอส โอเพ่น ที่เพบเบิล บีช
- ปี 2000 แชมป์ ดิ โอเพ่น ที่เซนต์แอนดูรว์ส
- ปี 2000 รายการยูเอสพีจีเอ ที่วาลฮาลลา
- ปี 2001 เดอะ มาสเตอร์ ที่ออกัสต้า
- ปี 2002 เดอะ มาสเตอร์ ที่ออกัสต้า
- ปี 2002 ยูเอส โอเพ่น ที่สนาม เบธเพจ
- ปี 2005 เดอะมาสเตอร์ที่ ออกัสต้า
-ปี 2005 ดิ โอเพ่นที่เซนต์แอนดูรว์
- ปี 2006 ดิ โอเพ่น ที่ฮอยเลค
