ในการแข่งขันอินโดนีเซีย โอเพ่น 2005 โปรชาวไทย ถาวร วิรัตน์จันทร์ ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการกอล์ฟเอเชีย เมื่อเขากลายเป็นโปรชาวไทยคนที่สองที่สามารถคว้าแชมป์ในรายการระดับยูโรเปี้ยนทัวร์ ได้หลังจากที่ ธงชัย ใจดีทำได้สำเร็จมาแล้วก่อนหน้านี้คนหนึ่ง
การแข่งขันวันสุดท้ายเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2005 โปรเล็กทำสกอร์เอาชนะ “ราฟาเอล ฌาคเกอลิน” โปรชาวฝรั่งเศสที่สนาม “แชงกาแรง กอล์ฟ คลับ” ไป 5 สโตรกนับเป็นผลงานที่ต้องบันทึกเอาไว้อีกหนึ่งรายการสำหรับโปรชาวไทยวัย 39 ปีที่ในฤดูกาล 2005 คว้าแชมป์ไปถึง 4 รายการ
สำหรับอินโดนีเซีย โอเพ่น ประจำปีนี้ความเข้มข้นของรายการยังคงอยู่เช่นเดิม แต่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในส่วนของผู้สนับสนุนที่กลายมาเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง เอชเอสบีซี และทำให้รายการนี้กลายเป็นทัวร์นาเม้นท์ ที่อยู่ในตารางการแข่งขันเดียวกับ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ อีกสองรายการ ได้แก่ เอชเอสบีซี แชมเปี้ยนส์ ที่เซี่ยงไฮ้ และ เอชเอสบีซี เวิลด์แมทช์เพลย์ ที่เวนท์เวิร์ธ คลับ
ในขณะที่สนามแข่งก็เปลี่ยนจากที่เดิมมาเป็นสนาม “อีเมอร์อัลด้า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่ คลับ” แต่ดูเหมือนว่า “โปรเล็ก” จะยังคงมั่นใจในวงสวิงของตนเอง และหวังจะกลับมาป้องกันแชมป์ให้ได้
โดยก่อนหน้าการแข่งขัน ถาวร วิรัตน์จันทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ชัยชนะในอินโดนีเซีย โอเพ่น เมื่อปีที่แล้วนับเป็นผลงานสำคัญในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพของผม และที่สำคัญชัยชนะในรายการนี้แล้วทำให้ความฝันที่จะคว้าชัยในยูโรเปี้ยนทัวร์เป็นจริง" แต่ดูเหมือนว่าการลงดวลวงสวิงเพื่อป้องกันแชมป์ในปีนี้ของ ถาวร ต้องพบกับงานหนักไม่น้อย เพราะโปรชาวไทยต้องลงสนามเฉือนสโตรกร่วมกับนักกอล์ฟชั้นนำทั้งจากเอเชีย และยุโรป
สำหรับโปรจากเอเชีย ที่เป็นคู่ต่อสู้หลักของถาวร ในครั้งนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลแต่เป็นนักกอล์ฟเพื่อนร่วมชาติอย่าง ธงชัย ใจดี โปรไทยอีกคนหนึ่งที่เคยคว้าแชมป์ในระดับยูโรเปี้ยนทัวร์ มาแล้วเช่นกัน สำหรับรายการนี้ “โปรช้าง” ต้องการแก้ตัวหลังจากที่พลาดท่าไม่สามารถป้องกันแชมป์สมัยที่สามในรายการมาเลเซียน โอเพ่นได้
ที่สำคัญชัยชนะในรายการนี้จะทำให้เกิดการปรับอันดับในพีจีเอทัวร์ ทำให้โอกาสที่ “โปรช้าง” จะได้ลงทำศึกกอล์ฟรายการเมเจอร์อย่างเดอะมาสเตอร์เพิ่มมากขึ้นโดยปัจจุบัน ธงชัย อยู่มืออันดับ 86 ของโลก และต้องเร่งเครื่องทำคะแนนติดท็อป 50 ของโลกถึงจะได้สิทธิลงเล่นโดยอัตโนมัติ
นอกจากคู่ปรับที่เป็นเพื่อนร่วมชาติแล้ว “ถาวร” ยังต้องพบกับจาง เหลียง เว่ย โปรชาวจีน ที่เคยสัมผัสชัยชนะในรายการยูโรเปี้ยน ทัวร์มาแล้วในปี 2003 กับรายการ คาลเท็กซ์ สิงค์โปร์ มาสเตอร์ส โดยการเอาชนะ เออร์นี่ย์ เอลส์ และในฤดูกาลนี้วงสวิงของ จาง เหลียง เว่ย ก็เข้าฝักไม่น้อยโอกาสที่จะได้คั่วตำแหน่งในกลุ่มผู้นำก็ยังพอมีอยู่บ้าง
ขณะเดียวกันรายการ อินโดนีเซีย โอเพ่นในครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงแต่โปรในเอเชีย เท่านั้นที่เข้าร่วมรายการแต่ยังมีโปรมือดีจากยูโรเปี้ยนทัวร์ที่เข้ารวมประชันวงสวิงเพื่อชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
โดยโปรชั้นนำจากยุโรปที่เข้าร่วมรายการนี้ได้แก่ สองอดีตแชมป์พีจีเอแชมเปี้ยนชิพ ที่เวนท์เวิร์ธ คลับ ประกอบไปด้วยโปรชาวสเปน อิกนาซิโอ การ์ริโด และ อันเดอร์ส แฮนเซ่น โปรชาวเดนมาร์ก รวมไปถึง สตีเฟ่น ดอดด์ จากเวลส์ ซึ่งผลงานในฤดูกาล 2005 ดอดด์ คว้าแชมป์ในรายการ ไชน่า โอเพ่น และ นิสสัน ไอริช โอเพ่น นอกจากนี้ยังช่วยให้ทีมชาติเวลส์ คว้าชัยชนะในการแข่งขันรายการ ดับเบิ้ลยูจีซี - อัลเกรฟ เวิลด์ คัพ ที่โปรตุเกส เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
สำหรับสนาม “อีเมอร์อัลด้า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่ คลับ” นั้นออกแบบโดยอาร์โนลด์ พาล์มเมอร์ เปิดให้บริการในปี 1994 ระยะ 7,082 หลา พาร์ 72 โดยผู้คว้าแชมป์ในรายการนี้จะได้คะแนนสะสมในเวิลด์แรงกิ้ง 20 แต้มในขณะเดียวกันจะได้รับเงินรางวัล 140,262 ยูโร (ประมาณ 7,013,100 บาท)
ในปีที่แล้วอินโดนีเซีย โอเพ่น คือรายการแรกของปีที่โปรเล็กประเดิมคว้าชัยมาได้ก่อนที่จะ เก็บแชมป์ในอีกสามรายการอันประกอบไปด้วย ไต้หวัน โอเพ่น, ฮีโร่ ฮอนด้า อินเดียน โอเพ่น และ คาร์ลสเบิร์ก มาสเตอร์ เวียดนาม ส่งให้ถาวร วิรัตน์จันทร์ กลายเป็นโปรหมายเลขหนึ่งของเอเชี่ยน ทัวร์ไปในทันที ฤดูกาลนี้โปรเล็ก จะย้ำรอยความสำเร็จเดิมได้หรือไม่นั้นจบจากรายการนี้คงได้รู้กัน