‘สุวัจน์’มั่นใจเจ้าภาพม.โลก ก้าวสำคัญสู่การจัดโอลิมปิก

ก่อนหน้านี้กีฬามหาวิทยาลัยโลกอาจไม่ค่อยได้รับความสนใจจากแฟนกีฬาชาวไทยนัก แต่ในครั้งนี้ที่เมืองอิซเมียร์ ประเทศตุรกี ทัพนักกีฬาไทยปิดฉากด้วยผลงาน 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง จากนักกีฬาเทควันโด จนทำให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 31 ของตารางเหรียญรางวัล นับว่าเป็นผลงานที่จุดกระแสให้สังคมไทยเริ่มตื่นตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหรียญรางวัลที่คว้ามาได้นั้นถือเป็นกีฬาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยนักกีฬาที่คว้าเหรียญทองเทควันโด ชายในครั้งนี้ได้แก่ ปฏิวัติ ทองสลับ ในขณะที่ “น้องวิว” เยาวภา บุรพลชัยคว้า1 เหรียญเงิน และลักษมี อยู่มั่นคง คว้า 1 เหรียญทองแดง

พิธีต้อนรับทัพนักกีฬาไทย ที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านเกิดเมื่อเช้าวานนี้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกครั้งที่ 24 ได้เดินทางไปให้การต้อนรับนักกีฬาพร้อมเปิดเผยว่า "การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกครั้งนี้ถือเป็นทัวร์นาเม้นท์ที่สำคัญ เพราะมีนักกีฬาดังๆที่แข่งในระดับโอลิมปิกมาร่วมแข่งกันมากมายในรายการนี้ และต้องยอมรับว่าทุกวันนี้วงการกีฬาบ้านเรามีการพัฒนาขึ้นมาก ผลงาน 3 เหรียญรางวัลในการแข่งขันนับว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว”

พร้อมกันนี้นายสุวัจน์ยังแสดงความเชื่อมั่นในการเป็นเจ้าภาพม.โลกอีกสองปีข้างหน้าโดยกล่าวว่า “ผลงานของนักกีฬาไทยในการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นเรื่องน่าพอใจมาก เราตั้งความหวังไว้ว่าการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกที่เมืองไทยจะต้องเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และทัพนักกีฬาไทยต้องได้เหรียญทองมากที่สุด ที่สำคัญมาตรฐานการจัดการเรื่องการแข่งขันของประเทศไทยต้องดีที่สุดด้วย"

แน่นอนว่าการได้รับเกียรติจากคณะกรรมการสหพันธ์กีฬามหาวิทยาลัยโลก (International University Sports Federation) หรือ FISU ให้ทำหน้าที่เจ้าภาพของการแข่งขันในปี พ.ศ. 2550 ทางฝ่ายไทยย่อมมองไปถึงก้าวสำคัญในอนาคต อย่างเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งนายสุวัจน์ เผยว่า

"การรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพกีฬามหาวิทยาลัยโลกของประเทศไทย จะมีผลดีต่อการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในกีฬาโอลิมปิก เมื่อเป็นเช่นนั้นพวกเราคนไทยทุกคนจะต้องร่วมกันสร้างมาตรฐานในการจัดกีฬามหาวิทยาลัยโลกที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ เพื่อให้เป็นผลงานของประเทศ หากในโอกาสต่อไปรัฐบาลไทยสนใจที่จะเสนอตัวในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ก็จะได้รับเสียงสนับสนุนจากชาติสมาชิกที่ได้เห็นผลงานของเราในการเป็นเจ้าภาพของกีฬามหาวิทยาลัยโลกมาแล้ว"

ทางด้าน 3 นักกีฬาที่สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาได้ในครั้งนี้และถือเป็นกำลังสำคัญในอีกสองปีข้างหน้าก่อนจะถึงกีฬามหาวิทยาลัยโลกที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยปฏิวัติ นักศึกษาหนุ่มวัย 19 ปีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่สามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันเทควันโด เปิดเผยความรู้สึกว่า รู้สึกดีใจมากที่คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกครั้ง พร้อมกับขอบคุณผู้สนับสนุนและมีส่วนเกี่ยวข้องจากฝ่ายต่างๆ ในส่วนของเงินรางวัลอัดฉีดเป็นจำนวน 2 ล้านบาทที่กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติจะมอบให้นั้น ปฏิวัติ กล่าวว่าจะนำเงินดังกล่าวไปช่วยเหลือครอบครัว อยากให้พ่อแม่สบายขึ้นมากกว่านี้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร คิดว่าคงเก็บไว้ก่อน

สำหรับเป้าหมายต่อไปในอนาคตของเด็กหนุ่มจากจังหวัดตรังรายนี้ตั้งเป้าไว้ที่การลงแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก "ผมจะพยายามซ้อมให้เต็มที่ เพื่อที่จะไปแข่งขันในซีเกมส์ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็ค่อยไปดูอีกที ขอซ้อมอย่างเดียว แต่ความหวังจริงๆ ก็อยากจะไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ผมจะพยายามให้ดีที่สุด"

ขณะที่ "น้องวิว" เยาวภา บุรพลชัย เจ้าของเหรียญทองแดงกีฬาโอลิมปิก 2004 และสามารถคว้าเหรียญเงินจากกีฬาเทควันโดในกีฬามหาวิทยาลัยโลกมาครองได้กล่าวแสดงความเสียดายที่พลาดเหรียญเงินในครั้งนี้

"ส่วนตัวแล้วก็เสียดายค่ะที่พลาดเหรียญทอง ยอมรับว่าตัวเองยังมีข้อบกพร่องผิดพลาดอยู่ จะพยายามแก้ไขจุดนั้นให้ได้ เพื่อพัฒนาต่อไปอีกค่ะ" ซึ่งในส่วนของน้องวิวนั้น นายสุวัจน์ เปิดเผยว่านอกจากจะได้เงินอัดฉีดเป็นจำนวน 1 ล้านบาท จากการคว้าเหรียญเงินในครั้งนี้และ จะได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากการคว้าเหรียญทองแดงในกีฬามหาวิทยาลัยโลกครั้งที่แล้วอีก 1 แสนบาทด้วย ที่ทางภาครัฐยังติดค้างอยู่

สำหรับ ลักษมี อยู่มั่นคง นักเทควันโดสาวที่สามารถคว้าเหรียญทองแดงมาได้ในครั้งนี้ กล่าวว่า "รู้สึกดีใจมาก เพราะเป็นการติดทีมชาติครั้งแรก และสามารถคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้เลยก็นับว่าโชคดีพอสมควร" สำหรับลักษมีจะได้รับเงินอัดฉีดเป็นเงินรางวัลอีก 5 แสนบาท

ต่อจากนี้ประเทศไทยเหลือเวลาเตรียมตัวอีก 2 ปีก่อนจะเป็นเจ้าภาพช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้ ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันต้องทำหน้าที่อย่างหนัก เพื่อเรียกความสนใจของแฟนกีฬาชาวไทยให้หันมาให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่เจ้าภาพในครั้งนี้ให้ได้ มิเช่นนั้นแล้วความหวังที่จะให้กีฬามหาวิทยาลัยโลก เป็นก้าวแรกไปสู่เจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ คงเป็นได้เพียงแค่ฝันกลางแดดอีกครั้งหนึ่งเท่านั้น