ผู้จัดการรายวัน - ม็อบโรงไฟฟ้าประจวบฯ ชุมนุมต้านโรงไฟฟ้า ส่งผลให้ประชาพิจารณ์แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าล่มตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเหตุทางโรงแรมสยามซิตี้ขอร้องให้ก.พลังงานยกเลิกเพื่อความปลอดภัยต่อผู้ที่เข้าพัก "ปิยสวัสดิ์"ยอมถอยลงนามสัญญาไม่มีโรงไฟฟ้าที่ทับสะแกแต่ยันเดินหน้าประมูลไอพีพีต่อ
เมื่อเวลา 07.00 น. เช้าวันนี้ (7 ก.พ.) กลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วยกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติฯ บ้านกรูด กลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก และกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน, นิวเคลียร์ทับสะแก ประมาณ 700 คน ในชุดเสื้อสีเขียวพร้อมธงและป้ายผ้าจำนวนมาก เดินทางเข้ากรุงเทพด้วยขบวนรถบัส 9 คัน มาปักหลักชุมนุมบริเวณหน้าโรงแรมสยามซิตี้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่กระทรวงพลังงานจัดเวทีสัมมนาและรับฟังความเห็นการพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าและแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพี 2007 โดยตามกำหนดการเดิมจะมีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธานเปิดงานในเวลา 08.40 น.

นางจินตนา แก้วขาว แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติฯบ้านกรูด ระบุว่า การเข้ากรุงมาในวันนี้ ชาวบ้านจากประจวบฯ ต้องการเข้ามามีส่วนในการชี้แจงประเด็นต่างๆ ในเวทีที่กระทรวงพลังงานเป็นเจ้าภาพ โดยก่อนหน้านี้ทางกระทรวงฯ ได้ทำหนังสือเชิญให้มาและพวกตนก็ได้ตอบรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในฐานะผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในแผนการสร้างโรงไฟฟ้าที่บางสะพานและทับสะแกซึ่งระบุอยู่ในแผนพีดีพีฉบับใหม่
“เรายืนยันมาโดยตลอดว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินมีเป้าหมายเพียงเพื่อที่จะผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนอุตสาหกรรมหนักอย่างครบวงจร โดยพยายามจะเอาการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นตัวตั้งในการวางแผนสร้างโรงไฟฟ้า แต่บทเรียนจากโรงไฟฟ้าหินกรูดและบ่อนอกซึ่งเกิดขึ้นมาโดยการประมาณการณ์เศรษฐกิจเหมือนกัน แต่เมื่อเจอวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 ซึ่งเศรษฐกิจไม่โตตามที่คาดไว้ นำไปสู่ค่าโง่กว่า 4 แสนล้านบาท ยังเป็นปัญหาอยู่จนถึงทุกวันนี้”
เธอยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ที่จริงแล้วกำหนดการสัมมนาในวันนี้ เลื่อนมาจากวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นผลมาจากข้อสรุปจากงานศึกษาซึ่งอยู่ในเอกสารประกอบการประชุมในครั้งนั้นชี้ว่าการประมาณการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคตต่ำเกินไป ไม่สอดคล้องกับความต้องการให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าของผู้บริหารบางคน จึงมีการสั่งการให้มีการศึกษาเพิ่มเติมแล้วมาเลื่อนมาประชุมสัมมนากันในวันนี้

ระหว่างการชุมนุมปักหลังของกลุ่มชาวบ้าน พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ ผบ.น.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดูแลความเรียบร้อยของการชุมนุมทั้งในและนอกโรงแรมกว่า 90 นาย
***โรงแรมทนไม่ไหวต่อรองล้มเวที
ในขณะที่อีกด้านหนึ่งนักลงทุน นักวิชาการ และผู้เข้าร่วมสัมมนาหลายสิบคน ได้เข้าไปลงทะเบียนตั้งแต่ 8.00 น. โดยบางรายยังเข้าไปนั่งรอในห้องประชุมกมลทิพย์อันเป็นห้องที่จัดสัมมนาเพื่อรอกำหนดการเปิดงาน ในขณะที่บางส่วนจับกลุ่มพูดคุยอยู่ทั่วบริเวณโรงแรม โดยมีแขกของโรงแรมชาวต่างชาติเดินผ่านไปผ่านมาอยู่เป็นระยะ
ปรากฏว่าการชุมนุมของกลุ่มชาวบ้านส่งผลให้ทางผู้บริหารโรงแรมสยามซิตี้ต้องขอร้องให้กระทรวงพลังงานยกเลิกการจัดสัมมนาดังกล่าว เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยผู้ที่เข้าพักในด้านในเวลาประมาณ 8.30 น.ส่งผลให้งานสัมมนาต้องเลื่อนไปไม่มีกำหนด นอกจากนี้ทางโรงแรมยังยืนยันกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่ามีการยกเลิกการประชุมสัมมนาจริงๆ พร้อมทั้งระบุว่าจะไม่ติดใจเอาโทษฟ้องร้องกลุ่มชาวบ้าน โดยการทำเป็นหนังสือรับรองโดยนางสุรภี ลีรเศรษฐากร ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมและนางกรณ์อุมา พงษ์น้อย ประธานกลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอกเซ็นรับรอง
ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ด้านนายปิยสวัสดิ์ เมื่อทราบข่าวว่าการประชุมสัมมนาต้องยกเลิกลงชั่วคราวก็ไม่เดินทางเข้ามายังโรงแรมแต่อย่างใด
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า คงจะต้องหารือกับผู้บริหารกระทรวงพลังงานว่าจะจัดประชาพิจารณ์ได้อีกเมื่อใด อย่างไรก็ตาม เวทีครั้งนี้กระทรวงฯได้เปิดทางเลือกให้ซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าจะสร้างโรงไฟฟ้าที่ใดกันแน่ซึ่งทุกอย่างก็รอฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ซึ่งการที่จะไม่เกิดโรงไฟฟ้าทุกชนิดเลยเป็นไปไม่ได้ในเมื่อเศรษฐกิจไทยก็ยังขยายตัวทุกปีแต่จะเป็นที่ไหนก็พร้อมจะรับฟังอยู่แล้วขอให้พูดมา
***โฆสิตลงรับหนังสือ ปัดประจวบฯผุดนิคมฯ
หลังการประชุมสัมมนาดังกล่าวเป็นอันต้องเลื่อนออกไป เวลา 11.15 น. กลุ่มชาวบ้านได้เดินทางต่อไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกคัดค้านการสร้างนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมออกมารับหนังสือและกล่าวว่า ยังไม่ได้รับทราบเรื่องที่จะมีการตั้งนิคมอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าในประจวบฯ แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากจะมีการก่อสร้างโครงการใดๆ ในพื้นที่ประชาชนจะต้องมีส่วนร่วม และหากประชาชนไม่เห็นด้วยก็สร้างไม่ได้
หลังจากนายโฆสิตรับหนังสือทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางโดยรถบัสไปยังกระทรวงพลังงาน เพื่อยื่นหนังสือต่อนายปิยสวัสดิ์ แต่เมื่อถึงกระทรวงพลังงานบริเวณแยกกษัตริย์ศึกเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูใหญ่หน้ากระทรวงเพื่อกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปปักหลักภายใน พร้อมทั้งแจ้งว่ารัฐมนตรีไม่อยู่จึงส่งตัวแทนมารับ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอม จึงทำการปิดถนนพระราม 1 หน้ากระทรวง ส่งผลให้การจราจรติดขัดทันที
ต่อมาเวลาประมาณ 14.00 น. นายปิยสวัสดิ์ เดินทางกลับมาจากทำเนียบรัฐบาลเข้ากระทรวงพลังงานทางประตูหลัง ภายใต้การอารักขาอย่างแน่นหนาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ0 150 นาย ในขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงเปิดประตูให้ผู้ชุมนุมเข้ามาในเขตของกระทรวง เพื่อมอบหนังสือคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินทับสะแก นิคมอุตสาหกรรมบางสะพาน และโรงไฟฟ้าถ่านหิน นิวเคลียร์ ก๊าซขนาดใหญ่และนิคมอุตสาหกรรมใดๆ ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยยื่นคำขาดให้นายปิยะสวัสดิ์เซ็นหนังสือเห็นด้วยกับการคัดค้านของกลุ่มชาวบ้านและรับรองว่ากระทรวงพลังงานจะไม่สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทั้งจังหวัด
***ปิยสวัสดิ์เซ็นมัดปัดลงโรงไฟฟ้าที่ทับสะแก
ขณะที่นายปิยสวัสดิ์ ได้ปีนขึ้นรถเครื่องเสียงของกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ อาทิเช่น ตนไม่มีอำนาจในการห้ามไม่ให้เอกชนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า ทำได้เพียงแต่แนะนำว่าไม่ควรจะลงทุนสร้างในเขตประจวบฯ ในขณะเดียวกัน กฟผ.ซึ่งอยู่ในกำกับของกระทรวงพลังงานนั้นมีที่ดินอยู่ที่ทับสะแกเท่านั้น ตนเห็นด้วยกับการคัดค้านของชาวบ้านและยืนยันว่าโรงไฟฟ้าจะไม่สามารถสร้างได้หากชาวบ้านในพื้นที่ไม่ยินยอม อย่างไรก็ตาม การโต้เถียงระหว่างนายปิยะสวัสดิ์กับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด
นายปิยสวัสดิ์ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงชี้แจงบนรถไฮปาร์กของชาวบ้าน แต่ตกลงกันไม่ได้รัฐมนตรีจึงขอตัวกลับเข้าห้องทำงาน แต่ชาวบ้านได้พยายามเข้าขัดขวางในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัดกั้น เหตุการณ์ชุลมุนอยู่อึดใจเกือบเกิดเหตุรุนแรง นายปิยะสวัสดิ์สามารถฝ่าวงล้อมของกลุ่มผู้ชุมนุมไปได้อย่างหวุดหวิดโดยท่ามกลางการอารักขาเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุชุลมุมไม่นานนายปิยสวัสดิ์ได้เชิญตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 10 คนเข้าหารือที่ห้องประชุมในกระทรวงเพื่อร่วมกับร่างเนื้อหาในหนังสือรับรองดังกล่าว และท้ายที่สุดจึงนั่งโต๊ะเจรจาและเมื่อเวลา 16.00 น. มีการลงนามในหนังสือซึ่งมีเนื้อหาว่า กระทรวงพลังงาน ไม่มีนโยบายจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินของ กฟผ. ที่อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และจะฟังความคิดเห็นจากประชาชนและนักวิชาการอย่างรอบด้านในการจัดทำแผนพลังงาน
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน กล่าวภายหลังว่า การประมูลโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่(ไอพีพี) รอบใหม่จะเป็นไปตามระยะเวลาเดิมที่กำหนดไว้ แม้ว่าการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในครั้งนี้จะต้องเลื่อนไป
เมื่อเวลา 07.00 น. เช้าวันนี้ (7 ก.พ.) กลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วยกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติฯ บ้านกรูด กลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก และกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน, นิวเคลียร์ทับสะแก ประมาณ 700 คน ในชุดเสื้อสีเขียวพร้อมธงและป้ายผ้าจำนวนมาก เดินทางเข้ากรุงเทพด้วยขบวนรถบัส 9 คัน มาปักหลักชุมนุมบริเวณหน้าโรงแรมสยามซิตี้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่กระทรวงพลังงานจัดเวทีสัมมนาและรับฟังความเห็นการพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าและแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพี 2007 โดยตามกำหนดการเดิมจะมีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธานเปิดงานในเวลา 08.40 น.
นางจินตนา แก้วขาว แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติฯบ้านกรูด ระบุว่า การเข้ากรุงมาในวันนี้ ชาวบ้านจากประจวบฯ ต้องการเข้ามามีส่วนในการชี้แจงประเด็นต่างๆ ในเวทีที่กระทรวงพลังงานเป็นเจ้าภาพ โดยก่อนหน้านี้ทางกระทรวงฯ ได้ทำหนังสือเชิญให้มาและพวกตนก็ได้ตอบรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในฐานะผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในแผนการสร้างโรงไฟฟ้าที่บางสะพานและทับสะแกซึ่งระบุอยู่ในแผนพีดีพีฉบับใหม่
“เรายืนยันมาโดยตลอดว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินมีเป้าหมายเพียงเพื่อที่จะผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนอุตสาหกรรมหนักอย่างครบวงจร โดยพยายามจะเอาการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นตัวตั้งในการวางแผนสร้างโรงไฟฟ้า แต่บทเรียนจากโรงไฟฟ้าหินกรูดและบ่อนอกซึ่งเกิดขึ้นมาโดยการประมาณการณ์เศรษฐกิจเหมือนกัน แต่เมื่อเจอวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 ซึ่งเศรษฐกิจไม่โตตามที่คาดไว้ นำไปสู่ค่าโง่กว่า 4 แสนล้านบาท ยังเป็นปัญหาอยู่จนถึงทุกวันนี้”
เธอยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ที่จริงแล้วกำหนดการสัมมนาในวันนี้ เลื่อนมาจากวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นผลมาจากข้อสรุปจากงานศึกษาซึ่งอยู่ในเอกสารประกอบการประชุมในครั้งนั้นชี้ว่าการประมาณการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคตต่ำเกินไป ไม่สอดคล้องกับความต้องการให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าของผู้บริหารบางคน จึงมีการสั่งการให้มีการศึกษาเพิ่มเติมแล้วมาเลื่อนมาประชุมสัมมนากันในวันนี้
ระหว่างการชุมนุมปักหลังของกลุ่มชาวบ้าน พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ ผบ.น.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดูแลความเรียบร้อยของการชุมนุมทั้งในและนอกโรงแรมกว่า 90 นาย
***โรงแรมทนไม่ไหวต่อรองล้มเวที
ในขณะที่อีกด้านหนึ่งนักลงทุน นักวิชาการ และผู้เข้าร่วมสัมมนาหลายสิบคน ได้เข้าไปลงทะเบียนตั้งแต่ 8.00 น. โดยบางรายยังเข้าไปนั่งรอในห้องประชุมกมลทิพย์อันเป็นห้องที่จัดสัมมนาเพื่อรอกำหนดการเปิดงาน ในขณะที่บางส่วนจับกลุ่มพูดคุยอยู่ทั่วบริเวณโรงแรม โดยมีแขกของโรงแรมชาวต่างชาติเดินผ่านไปผ่านมาอยู่เป็นระยะ
ปรากฏว่าการชุมนุมของกลุ่มชาวบ้านส่งผลให้ทางผู้บริหารโรงแรมสยามซิตี้ต้องขอร้องให้กระทรวงพลังงานยกเลิกการจัดสัมมนาดังกล่าว เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยผู้ที่เข้าพักในด้านในเวลาประมาณ 8.30 น.ส่งผลให้งานสัมมนาต้องเลื่อนไปไม่มีกำหนด นอกจากนี้ทางโรงแรมยังยืนยันกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่ามีการยกเลิกการประชุมสัมมนาจริงๆ พร้อมทั้งระบุว่าจะไม่ติดใจเอาโทษฟ้องร้องกลุ่มชาวบ้าน โดยการทำเป็นหนังสือรับรองโดยนางสุรภี ลีรเศรษฐากร ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมและนางกรณ์อุมา พงษ์น้อย ประธานกลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอกเซ็นรับรอง
ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ด้านนายปิยสวัสดิ์ เมื่อทราบข่าวว่าการประชุมสัมมนาต้องยกเลิกลงชั่วคราวก็ไม่เดินทางเข้ามายังโรงแรมแต่อย่างใด
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า คงจะต้องหารือกับผู้บริหารกระทรวงพลังงานว่าจะจัดประชาพิจารณ์ได้อีกเมื่อใด อย่างไรก็ตาม เวทีครั้งนี้กระทรวงฯได้เปิดทางเลือกให้ซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าจะสร้างโรงไฟฟ้าที่ใดกันแน่ซึ่งทุกอย่างก็รอฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ซึ่งการที่จะไม่เกิดโรงไฟฟ้าทุกชนิดเลยเป็นไปไม่ได้ในเมื่อเศรษฐกิจไทยก็ยังขยายตัวทุกปีแต่จะเป็นที่ไหนก็พร้อมจะรับฟังอยู่แล้วขอให้พูดมา
***โฆสิตลงรับหนังสือ ปัดประจวบฯผุดนิคมฯ
หลังการประชุมสัมมนาดังกล่าวเป็นอันต้องเลื่อนออกไป เวลา 11.15 น. กลุ่มชาวบ้านได้เดินทางต่อไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกคัดค้านการสร้างนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมออกมารับหนังสือและกล่าวว่า ยังไม่ได้รับทราบเรื่องที่จะมีการตั้งนิคมอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าในประจวบฯ แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากจะมีการก่อสร้างโครงการใดๆ ในพื้นที่ประชาชนจะต้องมีส่วนร่วม และหากประชาชนไม่เห็นด้วยก็สร้างไม่ได้
หลังจากนายโฆสิตรับหนังสือทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางโดยรถบัสไปยังกระทรวงพลังงาน เพื่อยื่นหนังสือต่อนายปิยสวัสดิ์ แต่เมื่อถึงกระทรวงพลังงานบริเวณแยกกษัตริย์ศึกเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูใหญ่หน้ากระทรวงเพื่อกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปปักหลักภายใน พร้อมทั้งแจ้งว่ารัฐมนตรีไม่อยู่จึงส่งตัวแทนมารับ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอม จึงทำการปิดถนนพระราม 1 หน้ากระทรวง ส่งผลให้การจราจรติดขัดทันที
ต่อมาเวลาประมาณ 14.00 น. นายปิยสวัสดิ์ เดินทางกลับมาจากทำเนียบรัฐบาลเข้ากระทรวงพลังงานทางประตูหลัง ภายใต้การอารักขาอย่างแน่นหนาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ0 150 นาย ในขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงเปิดประตูให้ผู้ชุมนุมเข้ามาในเขตของกระทรวง เพื่อมอบหนังสือคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินทับสะแก นิคมอุตสาหกรรมบางสะพาน และโรงไฟฟ้าถ่านหิน นิวเคลียร์ ก๊าซขนาดใหญ่และนิคมอุตสาหกรรมใดๆ ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยยื่นคำขาดให้นายปิยะสวัสดิ์เซ็นหนังสือเห็นด้วยกับการคัดค้านของกลุ่มชาวบ้านและรับรองว่ากระทรวงพลังงานจะไม่สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทั้งจังหวัด
***ปิยสวัสดิ์เซ็นมัดปัดลงโรงไฟฟ้าที่ทับสะแก
ขณะที่นายปิยสวัสดิ์ ได้ปีนขึ้นรถเครื่องเสียงของกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ อาทิเช่น ตนไม่มีอำนาจในการห้ามไม่ให้เอกชนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า ทำได้เพียงแต่แนะนำว่าไม่ควรจะลงทุนสร้างในเขตประจวบฯ ในขณะเดียวกัน กฟผ.ซึ่งอยู่ในกำกับของกระทรวงพลังงานนั้นมีที่ดินอยู่ที่ทับสะแกเท่านั้น ตนเห็นด้วยกับการคัดค้านของชาวบ้านและยืนยันว่าโรงไฟฟ้าจะไม่สามารถสร้างได้หากชาวบ้านในพื้นที่ไม่ยินยอม อย่างไรก็ตาม การโต้เถียงระหว่างนายปิยะสวัสดิ์กับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด
นายปิยสวัสดิ์ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงชี้แจงบนรถไฮปาร์กของชาวบ้าน แต่ตกลงกันไม่ได้รัฐมนตรีจึงขอตัวกลับเข้าห้องทำงาน แต่ชาวบ้านได้พยายามเข้าขัดขวางในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัดกั้น เหตุการณ์ชุลมุนอยู่อึดใจเกือบเกิดเหตุรุนแรง นายปิยะสวัสดิ์สามารถฝ่าวงล้อมของกลุ่มผู้ชุมนุมไปได้อย่างหวุดหวิดโดยท่ามกลางการอารักขาเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุชุลมุมไม่นานนายปิยสวัสดิ์ได้เชิญตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 10 คนเข้าหารือที่ห้องประชุมในกระทรวงเพื่อร่วมกับร่างเนื้อหาในหนังสือรับรองดังกล่าว และท้ายที่สุดจึงนั่งโต๊ะเจรจาและเมื่อเวลา 16.00 น. มีการลงนามในหนังสือซึ่งมีเนื้อหาว่า กระทรวงพลังงาน ไม่มีนโยบายจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินของ กฟผ. ที่อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และจะฟังความคิดเห็นจากประชาชนและนักวิชาการอย่างรอบด้านในการจัดทำแผนพลังงาน
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน กล่าวภายหลังว่า การประมูลโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่(ไอพีพี) รอบใหม่จะเป็นไปตามระยะเวลาเดิมที่กำหนดไว้ แม้ว่าการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในครั้งนี้จะต้องเลื่อนไป