xs
xsm
sm
md
lg

ประมงพื้นบ้าน บ้านในไร่บุกศาลากลางพังงา ร้องผู้ว่าฯช่วย เดือดร้อนจากประกาศข้อห้ามสิ่งปลูกสร้างล่วงน้ำของกรมเจ้าท่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พังงา – ชาวประมงพื้นบ้านในไร่ จ.พังงา เดือดร้อนหนัก รวมตัวบุกศาลากลาง ชูป้ายตะโกนเรียกร้องให้ผู้ว่าฯ ช่วยเหลือ หลังได้รับผลกระทบจากประกาศข้อห้ามปลูกสร้างล่วงล้ำตามกฎหมาย ของกรมเจ้าท่า


วันนี้ ( 24 ต.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ราชการจังหวัดพังงา อ.เมือง จ.พังงา ชาวบ้านบ้านในไร่ หมู่ที่ 7 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กว่า 20 ครัวเรือน ได้เดินชูป้ายข้อความเรียกหาผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาให้ช่วยชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการบังคับใช้กฎหมาย กำหนดแนวเขตลำน้ำ หรือ ประกาศข้อห้ามปลูกสร้างล่วงล้ำตามกฎหมาย ต่อมาเมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17 ) พ.ศ.2560 ซึ่งชาวบ้านที่นี้ได้อาศัยทำกินมาเป็นเวลานานหลายปีกับการทำประมงพื้นบ้าน แต่เมื่อกฎหมายออกมาก็ได้รับความเดือดร้อนจากการอยู่อาศัยและประกอบอาชีพในพื้นที่บริเวณริมน้ำมาหลายสิบปี โดยส่วนใหญ่เป็นราษฎรดั้งเดิมที่สืบทอดวิถีชีวิตและอาชีพประมงพื้นบ้านจากบรรพบุรุษ เช่นการวางลอบ ดักปลา ดักปู และเลี้ยงปลาในกระชัง ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของครอบครัว ซึ่งในอดีตยังไม่มีการกำหนดแนวเขตลำน้ำหรือประกาศข้อห้ามปลูกสร้างล่วงล้ำตามกฎหมาย

ต่อมาเมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17 ) พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ชาวบ้านได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่พักชั่วคราวเป็นที่เก็บอุปกรณ์แหล่งทำมาหากินถูกพิจารณาเป็นสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ และอาจต้องรื้อถอนตามกฎหมาย ทำให้เกิดความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในด้านที่อยู่อาศัยความมั่นคงของครอบครัว และการดำรงชีพ เนื่องจากสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวมิได้มีเจตนาลุกล้ำหรือกีดขวางทางน้ำแต่อย่างใดและได้อาศัยอยู่มาก่อนกฎหมายบังคับใช้หลายปี


นายสรศักดิ์ อินทปัด ชาวบ้านหมู่ 7 บ้านในไร่ กล่าวว่า ชาวบ้านได้เดินทางมายังศูนย์ราชการจังหวัดพังงา เพื่อยื่นหนังสือให้กับทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ช่วยเหลือหลังจากเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่ายังคงลงพื้นที่และยืนยันให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ดังนั้น พวกเราชาวบ้านจึงขอความอนุเคราะห์จากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ให้ช่วยประสานและพิจารณาความช่วยเหลือพร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาเสนอแนวทางให้ชุมชนสามารถอยู่อาศัยดำรงชีวิตและประกอบอาชีพดั้งเดิมอยู่ในพื้นที่ได้อย่างมั่นคงปลอดภัยและสอดคล้องกับกฎหมายนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาและรักษาวิถีชุมชนริมฝั่งน้ำโดยคำนึงถึงหลักความเป็นธรรมและสิทธิมนุษย์ขั้นพื้นฐานของประชาชนผู้เดือดร้อ


ด้านนายสุรศักดิ์ แจ้งจุล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพังงา กล่าวว่า จากที่ชาวบ้านเดินทางมายื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงาเรื่องขอความเป็นธรรม ในเรื่องของการบุกรุกที่สาธารณะชายตลิ่งตามมาตรา 117 พรบ.เดินเรือในน่านน้ำไทยสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทางกรมเจ้าท่าจังหวัดพังงา ได้รับหนังสือจากทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงาว่าให้ดำเนินการในอำนาจหน้าที่ ซึ่งหลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับหนังสือก็ได้ดำเนินการเข้าไปตรวจสอบบริเวณพื้นที่บ้านในไร่หมู่ที่ 7 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง พร้อมทั้งให้ผู้ที่อาศัยบริเวณดังกล่าวมาให้ปากคำตามข้อเท็จจริง 

แต่ตอนนี้ทางชาวบ้านได้ขอร้องให้ทางเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าจังหวัดพังงาไปดูแนวเขตว่าจุดไหนอยู่ในแนวเขตของตลิ่งในอำนาจหน้าที่ของกรมเจ้าท่า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ลงไปดูก็ได้ทำหมายไว้แล้ว โดยจากที่ลงไปพบว่า 23 จุด ที่ชาวบ้านได้เรียกร้องให้ชะลอในการดำเนินการและให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณริมตลิ่งทราบ ในคำสั่ง คสช.32/2560 ว่าทางชาวบ้านไม่ทราบเรื่องเรื่องของการยื่นเรื่องซึ่งจริงๆแล้วทางท่านอธิบดีกรมเจ้าท่าได้ออกหนังสือไปถึงทุกจังหวัดทั้งประเทศไทยให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ทุกจังหวัดทุกอำเภอท้องถิ่นท้องที่ให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่มาขออนุญาตสิ่งล่วงล้ำลำน้ำตามคสช.แต่ตอนนี้ คสช.ได้ยกเลิกไปแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น