ปัตตานี - จับตัวคนส่งลูกระเบิด M79 ได้แล้วที่ปัตตานีขณะเดินทางไปทำธุระส่วนตัว สารภาพสิ้นเป็นคนจัดหา นำส่งทางพัสดุโดยใช้ชื่อปลอม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าปัดไม่ได้หลุดมาจากกองทัพบก
วันนี้ (23 ต.ค.) ความคืบหน้ากรณีบริษัทขนส่งเอกชนตรวจพบลูกกระสุนปืน M79 ขนาด 40 มิลลิเมตร ขณะคัดแยกพัสดุ ที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ล่าสุด พ.อ.เอกวริทธิ์ ชอบชูผล รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายกีซัม วุธางกูร ซึ่งให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้จัดส่งลูกกระสุนดังกล่าว โดยได้เชิญตัวเข้าสู่กระบวนการซักถาม เพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม
พ.อ.เอกวริทธิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้จากการให้การเบื้องต้น ได้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม–สิงหาคม 2568 นายกีซัมได้รับการติดต่อจากบุคคลรายหนึ่ง ที่รู้จักกันมาก่อนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า ต้องการจัดหาลูกกระสุนปืนขนาด 40 มิลลิเมตร นายกีซัมจึงติดต่อไปยังผู้จัดหารายหนึ่ง เพื่อดำเนินการจัดหาให้ โดยตกลงราคาซื้อขายกันผ่านช่องทางออนไลน์
พ.อ.เอกวริทธิ์ กล่าวว่า ต่อมา วันที่ 14 ตุลาคม 2568 ผู้จัดหารายดังกล่าวแจ้งว่า จัดหาลูกกระสุนได้แล้ว แต่ยังไม่สะดวกส่งมอบของ จนกระทั่งวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้มีการนัดหมายให้ไปรับของที่บริเวณร้านสะดวกซื้อ ภายในสถานีบริการน้ำมัน แยกมลายู-บางกอก ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ในช่วงเวลาประมาณใกล้เที่ยงคืน โดยก่อนเดินทางไปรับของ นายกีซัมได้ติดต่อกลับไปยังผู้ว่าจ้าง เพื่อแจ้งราคาลูกกระสุนและขอให้โอนเงินค่าซื้อขายเข้าบัญชีของญาติ จากนั้น นายกีซัมจึงเดินทางไปรับของตามนัด และได้โอนเงินให้ผู้จัดหาผ่านบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ก่อนนำลูกกระสุนกลับมาที่บ้านพักในจังหวัดนราธิวาส
พ.อ.เอกวริทธิ์ กล่าวว่า วันที่ 21 ตุลาคม 2568 นายกีซัมได้นำลูกกระสุนดังกล่าวบรรจุพัสดุและส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชน โดยใช้ชื่อและที่อยู่ปลอมทั้งผู้ส่งและผู้รับ รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ซื้อล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ เพื่อปกปิดตัวตนและติดตามการจัดส่งพัสดุด้วยตนเอง จากนั้นในวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ระหว่างที่นายกีซัมเดินทางไปทำธุระส่วนตัว ในพื้นที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ทหารได้แสดงตัวเข้าควบคุม และนำตัวไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร เพื่อดำเนินการซักถามเบื้องต้น ก่อนส่งต่อไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามเชิงลึก และขยายผลทางคดีต่อไป
“จากการตรวจสอบเบื้องต้นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ลูกกระสุนล็อตดังกล่าวไม่ได้อยู่ในบัญชีสิ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในกองทัพบก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนเชิงลึก เพื่อสืบหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม รวมถึงตรวจสอบแหล่งที่มาว่ามาจากแหล่งใด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างรอบคอบและโปร่งใส” พ.อ.เอกวริทธิ์ กล่าว


