ศูนย์ข่าวภูเก็ต-"ภูเก็ต เป๋าฮื้อ ฟาร์ม" ผู้เพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อเชิงพาณิชย์ ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย ทุ่มอีก 40 ล้านบาท ตั้งศูนย์ผลิตลูกหอยเป๋าฮื้อที่พังงาปีละ 70 ล้านตัว โดยปีนี้ตั้งเป้าส่งลูกหอยไปไต้หวัน 20 ล้านตัว
นายสัตวแพทย์สิทธิศักดิ์ เหมืองสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูเก็ต เป๋าฮื้อ ฟาร์ม จำกัด ผู้เพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อเชิงพาณิชย์ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย เปิดเผยถึงการเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อของบริษัท ว่า หลังจากที่บริษัท ได้วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อ มา 7 ปี ด้วยเงินลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท ขณะนี้ภูเก็ตเป๋าฮื้อฟาร์ม สามารถผลิตลูกหอยเป๋าฮื้อส่งออกไปต่างประเทศ และเลี้ยงเพื่อการแปรรูปได้ระดับหนึ่ง
ปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อ และส่งลูกหอยเป๋าฮื้อออกไปยังประเทศไต้หวันได้ 5-7 ล้านตัว และปี 2548 บริษัทได้ตั้งเป้าที่จะส่งลูกหอยเป๋าฮื้อไปไต้หวันอีก 20 ล้านตัว ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการของไต้หวันที่ต้องการสูงถึง 400 กว่าล้านตัวต่อปี และยังมีตลาดจีนที่มีความต้องการสูงกว่าตลาดไต้หวันอีก 2-3 เท่าตัว จึงทำให้ช่องทางการส่งออกลูกหอยเป๋าฮื้อไปไต้หวันและจีนมีสูงมาก
จากความต้องการลูกหอยเป๋าฮื้อจำนวนมาก บริษัทจึงได้ลงทุนเพิ่มอีก 40 ล้านบาท ตั้งศูนย์ผลิตลูกหอยเป๋าฮื้อที่บริเวณบ้านหล่อยูง จ.พังงา บนเนื้อที่ 50 ไร่ ผลติลูกหอยเป๋าฮื้อได้ปีละ 70 ล้านตัว โดยจะเริ่มเลี้ยงประมาณปลายปีนี้และใช้เวลาเพาะเลี้ยงประมาณ 3-4 เดือน ก็สามารถที่จะส่งออกได้แล้ว ส่วนตลาดจีนขณะนี้ยังไม่มีการส่งออก โดยอยู่ในขั้นตอนการศึกษารายละเอียดต่างๆ
นอกจากนี้ ศูนย์ผลิตลูกหอยที่พังงา ยังจะที่ผลิตลูกหอยส่งให้กับเกษตรกร ที่สนใจเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อ เพื่อขายอีกด้วย โดยขณะนี้บริษัทสงขลาเป๋าฮื้อฟาร์ม ซึ่งบริษัท ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อ ได้สั่งซื้อลูกหอยจากฟาร์มไปเลี้ยงแล้วเป็นรายแรก ปีละประมาณ 500,000 ตัว คาดว่าในอนาคต จะมีเกษตรกรสนใจเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตลาดยังมีความต้องการสูง
"อีก 3-4 ปีข้างหน้าเราได้วางเป้าหมายไว้ชัดเจน ว่าจะผลิตหอยเป๋าฮื้อให้ได้ 100 ล้านตัว หรือประมาณ 20,000 ตันต่อปี เพื่อส่งออกและเลี้ยงเป็นเนื้อหอยเป๋าฮื้อส่งออกไปต่างประเทศ ที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และในปี 2015 เราต้องการที่จะให้ภูเก็ตเป๋าฮื้อฟาร์มเป็นผู้นำการผลิตซีฟูด ที่มีมูลค่าสูงและผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานต่างๆเพื่อความปลอดภัยในการบริโภค" นายสัตวแพทย์สิทธิศักดิ์ กล่าวและว่า
สำหรับการเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อที่เป็นเนื้อหอย บริษัทเลี้ยงเพื่อรองรับความต้องการในภัตตาคารภูเก็ตเป๋าฮื้อฟาร์มเป็นหลัก ขณะเดียวกัน บริษัทยังผลิต ผลิตภัณฑ์จากหอยเป๋าฮื้ออีก 3 ประเภท คือ ซอสหอยเป๋าฮื้ออาบาเน่ ,ซอสPhuketo และซอสปรุงรสอาบาเน่ เพื่อขายให้กับนักท่องเที่ยวด้วย และในปีหน้าบริษัทได้วางแผนที่จะแปรรูปหอยเป๋าฮื้อสด เป็นหอยเป๋าฮื้อนึ่งซีอิ๊วส่งไปยังตลาดญี่ปุ่น เนื่องจากตลาดญี่ปุ่นนิยมบริโภคหอยเป๋าฮื้อนึ่งซีอิ๊วมาก