ศูนย์ข่าวภูเก็ต-คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเงินสำรวจจ่ายช่วยเหลือเหยื่อสึนามิ หายขอขยายเวลาสอบออกไปอีก 8วัน เผยมีเอกสารต้องตรวจสอบอีกมาก ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องสอบไปแล้วกว่า 10 ปากยังไม่พบพิรุธการหายไปของเงิน
นายศุภชัย ยุวบูรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จกรณีเงินสำรองจ่ายช่วยผู้ประสบภัยสึนามิของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ตหายไปจำนวน 2,050,000 บาท เมื่อกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาว่า การสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเงินสำรวจจ่ายช่วยผู้ประสบภัยสึนามิหายนั้นจะครบกำหนดระยะเวลาในการสอบสวนวันพรุ่งนี้ (3 มี.ค.)
โดยขณะนี้ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 ปาก ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินจำนวน 45 ล้านที่ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนำไปจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ผ่านมายังไม่พบพิรุธในการเบิกจ่ายเงินว่าหายไปอย่างไร แต่จะทำการสอบสวนอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนและเกิดความเป็นธรรมกับทุกคน และขณะนี้ได้เชิญเสมียนตราจังหวัดภูเก็ตมาร่วมในการตรวจสอบในเรื่องของเอกสารการเบิกจ่ายเงินด้วย เพื่อให้การตรวจสอบมีประเด็นที่ชัดเจนขึ้น
แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มุ่งไปในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ไม่ว่าจะมีเรื่องของการยักยอกหรือเรื่องของการสูญหาย เพราะในเรื่องของการสูญหายนั้นเมื่อมีการแจ้งความก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินการ ส่วนเรื่องของการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้นเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการที่จะต้องทำการตรวจสอบ
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนพยานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องพบว่าผู้ที่มีหน้าที่ในการนำเงินไปจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยมีประมาณ 5-6 คน ส่วนผู้ที่ถือกุญแจนั้นมี 3 คน คือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน หัวหน้า และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบอีก 1 คน และการเบิกจ่ายเงินนั้นบางครั้งก็เข้าไปเบิกคนเดียวบ้างครั้งเข้าไปเบิกสองคน เนื่องจากการเบิกจ่ายเงินในครั้งนี้มีข้อจำกัดในหลายๆ เรื่อง
ทั้งเรื่องของความเร่งรีบ จำนวนคนที่มาขอรับการช่วยเหลือ บางครั้งเงินที่นำไปไม่พอจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านก็ต้องหยิบยืมและมาเบิกคืนให้ภายหลัง ซึ่งจากการตรวจสอบพบหลักฐานการจ่ายเงินจำนวนมาก โดยหลักฐานต่างๆ ที่ได้มาจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนที่จะสรุปผลการตรวจสอบเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด
อย่างไรก็ตาม การสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเงินหายคิดว่าไม่สามารถจะสรุปได้ในวันที่ 3 มี.ค.นี้ ทางคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงจึงได้เสนอไปทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตขอขยายเวลาในการสอบสวนออกไปอีก 8 วัน โดยให้การสอบสวนสิ้นสุดในวันที่ 11 มี.ค.
เชื่อว่าถึงเวลานั้นผลการสอบสวนทั้งหมดจะออกมาสมบูรณ์และจะสามารถระบุได้ว่าเงินที่หายนั้นหายไปอย่างไรและอยู่ที่ไหน