xs
xsm
sm
md
lg

ปล่อยชะนีคืนสู่ป่าเขาพระแทว 1ครอบครัววันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ภูเก็ตปล่อยชะนีคืนสู่ป่า 1 ครอบครัว เชื่อสามารถเพิ่มจำนวนประชากร ในเขตห้ามสัตว์ป่าเขาพระแทวได้ เผยขณะนี้มีจำนวนเพียง 12 ตัวเท่านั้น

เช้าวันนี้ (10 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่อาสาสมัครโครงการคืนชะนีสู่ป่า มูลนิธิช่วยสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย กว่า 20 คน ทั้งอาสาสมัครคนไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้ง นายแซม และนางนอร์ก้าร์ อาสาสมัครคู่รักชาวต่างชาติ ที่เพิ่งแต่งงานเลียนแบบชะนี เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ได้ร่วมกันออกเดินทางไปปล่อยครอบครัวชะนี “โยกี้” ซึ่งเป็นครอบครัวชะนี ที่มูลนิธิฯให้ความช่วยเหลือดูแล จนมีครอบครัวและพร้อมที่จะออกไปมีชีวิตในป่า จำนวน 4 ตัว

สำหรับครอบครัวชะนีโยกี้ มีสมาชิกในครอบครัวจำนวน 4 ตัว คือเจ้าเบิร์ด ชะนีเพศผู้อายุ 16 ปี ,ป๋อมแป๋ม ชะนีเพศเมียอายุ 15 ปี ,สบาย ชะนีเพศผู้ อายุ 4 ปี ซึ่งเป็นลูกตัวแรกของครอบครัวชะนีโยกี้ และโยกี้ชะนีเพศผู้อายุ 1ปี 4 เดือน ลูกตัวล่าสุดของครอบครัวนี้

การปล่อยชะนีครอบครัวโยกี้คืนสู่ป่าในครั้งนี้ มูลนิธิฯได้นำกรงของชะนีไปไว้ในป่าลึกเข้าไปในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว ห่างจากโครงการคืนชะนีสู่ป่า จังหวัดภูเก็ต ประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อสร้างความคุ้นเคยในการอาศัยอยู่ในป่า ให้กับครอบครัวชะนี ซึ่งในช่วงนี้เจ้าหน้าที่จะเฝ้าติดตามพฤติกรรมของชะนีตลอด เพื่อสังเกต ว่ามีความพร้อมที่จะมีชีวิตอยู่ในป่าหรือไม่

อย่างไรก็ตาม จากการที่เจ้าหน้าที่นำกรงไปไว้ในป่าประมาณครึ่งชั่วโมง พร้อมวางอาหารไว้นอกกรง ชะนีเบิร์ด ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว ได้เดินออกจากกรงเป็นตัวแรก ตามด้วยชะนะสบาย ซึ่งไม่กล้าที่จะเดินออกห่างกรงมากนัก ส่วนแม่ชะนีป๋อมแป๋ม และโยกี้ยังไม่กล้าที่จะออกจากกรง

นายสัตวแพทย์สุวิทย์ พันนาดี หัวหน้าโครงการคืนชะนีสู่ป่า กล่าวว่า หลังจากที่นำชะนีมาไว้ในป่าแล้ว เจ้าหน้าที่จะคอยติดตามดูพฤติกรรมครอบครัวชะนีโยกี้ตลอดเวลา เพื่อสังเกตความพร้อมของชะนีว่าสามารถหากินอาหารในปลาได้หรือไม่ ซึ่งอาสาสมัครจะเฝ้าติดตามพฤติกรรมห่างกับกรงชะนี เพื่อคอยให้อาหาร

ทั้งนี้การเฝ้าติดตามจะทำประมาณ 1 ปี จนกว่าชะนีจะปรับตัวได้ในป่า การปล่อยครอบครัวชะนีโยกี้กลับสู่ป่าครั้งนี้ เป็นการเพิ่มจำนวนประชากรชะนี ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็น 12 ตัว สำหรับจำนวนชะนีที่อยู่ในป่าในขณะนี้ ยังถือว่ามีจำนวนน้อยมาก แต่เชื้อว่าในอนาคตจะมีจำนวนมากกว่านี้แน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น