ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ผู้ว่าฯภูเก็ตลงพื้นที่เร่งแก้ปัญหาประชาชน “ซอยกิ่งแก้ว”ไร้ที่อยู่อาศัย หลังนายกฯรับเรื่องร้องเรียน และสั่งให้จังหวัดแก้ไขปัญหาด่วน พร้อมเตรียมเสนอขอมติครม. ถอนสภาพป่าชายเลนให้ชาวบ้านอาศัยกว่า 500 ไร่
จากกรณีที่ชาวบ้านในซอยกิ่งแก้วอุทิศ ม.3 ต.รัษฏา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ยื่นหนังสือต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2547 เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค ให้กับประชาชนที่อยู่อาศัย ในเขตพื้นที่ป่าชายเลนคลองบางชีเหล้า-ท่าจีน จำนวน 500 กว่าไร่
ทั้งนี้ ได้ระบุว่าชุมชนซอยกิ่งแก้วอุทิศ เป็นชุมชนใหญ่มีประชาชนอาศัยอยู่ในพื้นที่ประมาณ 800 ครอบครัว มีประชากร 2,000-3,000 คน อาศัยอยู่นานกว่า 20 ปี และเรื่องนี้ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังจังหวัดหลายครั้งแล้ว แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ในระดับจังหวัด
หลังจากที่ประชาชนได้ยื่นหนังสือ นายกฯได้รับปากกับประชาชนว่า จะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้ดำเนินการ และจะต้องให้ประชาชนอาศัยอยู่ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ล่าสุด นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อม นายสุทัศน์ หงษ์บุตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรัษฏา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่บริเวณซอยกิ่งแก้วอุทิศ เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
ในการประชุม ชาวบ้านอ้างว่า ที่ดินที่อาศัยอยู่นั้น เป็นที่ดินที่ผ่านการทำเหมืองแร่มาแล้ว และเป็นที่ดินที่มีหลักฐาน สค.1 ชื่อของนางสดศรี อุดมทรัพย์ ซึ่งชาวบ้านได้นำเอกสารดังกล่าวไปขอออกเอกสารสิทธิที่ที่ดินจังหวัด แต่ไม่สามารถขอออกเอกสารสิทธิได้ โดยที่ดินจังหวัดชี้ว่า เป็นเอกสารที่ดินของบุคคลอื่น ไม่สามารถที่จะนำมาขอออกเอกสารสิทธิได้
นอกจากนั้น ขณะนี้ยังมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ถูกผู้อ้างตัวครบครองที่ดินบางรายแจ้งความดำเนินคดีว่าบุกรุกที่ดินส่วนบุคคล
นายอุดมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการอยู่อาศัยของประชาชน ในพื้นที่ซอยกิ่งแก้วอุทิศ เพื่อให้พื้นที่สามารถพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ก็จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำเรื่องเสนอมาเป็นลำดับขั้น ตั้งแต่ อบต. อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนถึงจังหวัด เพื่อขอมติครม.ถอนสภาพป่าในจุดที่มีปัญหา เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปอาศัยได้ ส่วนเรื่องของเอกสารสิทธิคงเป็นไปไม่ได้ ที่จะออกให้กับประชาชน เพราะพื้นที่ของรัฐก็ต้องเป็นของรัฐ
สำหรับ พื้นที่บริเวณดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่มีการประกาศเป็นเขตป่าชายเลน คลองบางชีเหล่า-คลองท่าจีน ไปเมื่อปี 2501 มีเนื้อที่ทั้งหมด 3,937 ไร่ ขณะนี้มีการบุกรุกของประชาชนไปแล้ว 500 ไร่
จากกรณีที่ชาวบ้านในซอยกิ่งแก้วอุทิศ ม.3 ต.รัษฏา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ยื่นหนังสือต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2547 เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค ให้กับประชาชนที่อยู่อาศัย ในเขตพื้นที่ป่าชายเลนคลองบางชีเหล้า-ท่าจีน จำนวน 500 กว่าไร่
ทั้งนี้ ได้ระบุว่าชุมชนซอยกิ่งแก้วอุทิศ เป็นชุมชนใหญ่มีประชาชนอาศัยอยู่ในพื้นที่ประมาณ 800 ครอบครัว มีประชากร 2,000-3,000 คน อาศัยอยู่นานกว่า 20 ปี และเรื่องนี้ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังจังหวัดหลายครั้งแล้ว แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ในระดับจังหวัด
หลังจากที่ประชาชนได้ยื่นหนังสือ นายกฯได้รับปากกับประชาชนว่า จะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้ดำเนินการ และจะต้องให้ประชาชนอาศัยอยู่ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ล่าสุด นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อม นายสุทัศน์ หงษ์บุตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรัษฏา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่บริเวณซอยกิ่งแก้วอุทิศ เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
ในการประชุม ชาวบ้านอ้างว่า ที่ดินที่อาศัยอยู่นั้น เป็นที่ดินที่ผ่านการทำเหมืองแร่มาแล้ว และเป็นที่ดินที่มีหลักฐาน สค.1 ชื่อของนางสดศรี อุดมทรัพย์ ซึ่งชาวบ้านได้นำเอกสารดังกล่าวไปขอออกเอกสารสิทธิที่ที่ดินจังหวัด แต่ไม่สามารถขอออกเอกสารสิทธิได้ โดยที่ดินจังหวัดชี้ว่า เป็นเอกสารที่ดินของบุคคลอื่น ไม่สามารถที่จะนำมาขอออกเอกสารสิทธิได้
นอกจากนั้น ขณะนี้ยังมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ถูกผู้อ้างตัวครบครองที่ดินบางรายแจ้งความดำเนินคดีว่าบุกรุกที่ดินส่วนบุคคล
นายอุดมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการอยู่อาศัยของประชาชน ในพื้นที่ซอยกิ่งแก้วอุทิศ เพื่อให้พื้นที่สามารถพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ก็จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำเรื่องเสนอมาเป็นลำดับขั้น ตั้งแต่ อบต. อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนถึงจังหวัด เพื่อขอมติครม.ถอนสภาพป่าในจุดที่มีปัญหา เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปอาศัยได้ ส่วนเรื่องของเอกสารสิทธิคงเป็นไปไม่ได้ ที่จะออกให้กับประชาชน เพราะพื้นที่ของรัฐก็ต้องเป็นของรัฐ
สำหรับ พื้นที่บริเวณดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่มีการประกาศเป็นเขตป่าชายเลน คลองบางชีเหล่า-คลองท่าจีน ไปเมื่อปี 2501 มีเนื้อที่ทั้งหมด 3,937 ไร่ ขณะนี้มีการบุกรุกของประชาชนไปแล้ว 500 ไร่