xs
xsm
sm
md
lg

ข้าวเกรียบผักเหลียง ของดีเมืองระนอง รวมตัวผู้สูงอายุ สร้างอาชีพ สร้างรายได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประเทศไทย ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ คือ การได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างมีความสุข และถ้าสร้างรายได้โดยไม่เป็นภาระแก่ลูกหลานด้วย ยิ่งทำให้ผู้สูงอายุเห็นคุณค่าในตัวเอง และใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายชีวิต อย่างมีความสุข วันนี้ ได้มีโอกาสพูดคุย กับกลุ่มผู้สูงอายุ จังหวัดระนอง ที่ได้รวมตัวกัน ทำข้าวเกรียบผักเหลียง ของฝาก ของดี จังหวัดระนอง


สอนอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ

นางจุลนิษฐ์ ซังธาดา ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบผักเหลียง ตำบลบางนอน อำเภอเมือง จังหวัดระนอง เล่าว่า ตนเอง รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุในพื้นที่ จำนวน 15 ราย ได้จัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบผักเหลียงขึ้นมา จุดเริ่มต้นมา จากสำนักส่งเสริม และสนับสนุนวิชาการ 10 สุุราษฎร์ธานี สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ส่งทีมงาน อาจารย์จากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีระนอง เข้ามาสอนอาชีพให้กับผู้สูงอายุในพื้นที่ เพื่อจะให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ได้มีกิจกรรมทำ มีอาชีพมีรายได้ดูแลตัวเองในช่วงสูงวัย ไม่สามารถออกไปทำงานหนักได้

โดยครั้งนั้น อาจารย์จะมาสอนทำข้าวเกรียบแต่มองว่า ข้าวเกรียบกุ้ง ข้าวเกรียบปลามีคนทำเยอะแล้ว อยากได้ข้าวเกรียบที่ไม่เหมือนคนอื่นๆ ก็เลยออกมาเป็นข้าวเกรียบผักเหลียง และทำไมต้องเป็นผักเหลียง เพราะผักเหลียงผักพื้นเมือง ของภาคใต้ ที่คนทั่วประเทศรู้จักและชื่นชอบ และที่จังหวัดระนองของเรามีผักเหลียง มีรสชาติดีไม่แพ้ จังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ ซึ่งคนระนองมองว่าผักเหลียงเป็นราชินีผักของเมืองระนอง ที่ใครมาระนอง ก็จะมักซื้อผักเหลียงติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝาก และการนำผักเหลียงมาแปรรูปเป็นข้าวเกรียบ จะได้ของฝากจากผักเหลียงในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่ใช่แค่ผักสด และได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผักเหลียง ช่วยให้เกษตรกรปลูกผักเหลียงได้มีช่องทางในการจำหน่ายมากขึ้นด้วย


เปิดศูนย์เรียนรู้ สำหรับผู้สูงอายุ

ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบผักเหลียง จ.ระนอง เล่าว่า ตอนที่ทางกระทรวงพม.ได้ส่งอาจารย์ จากวิทยาลัยเกษตรฯ ระนอง เข้ามาสอนเพื่อสร้างอาชีพให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ มีผู้สูงอายุ สนใจเข้าอบรมในตอนนั้นกว่า 35 คน แต่พอทำงานจริงเหลือแค่ 15 ราย มาจนถึงปัจจุบัน เหลือผู้สูงอายุที่ทำงานกับเราอยู่ประมาณ 10 คน บางคนที่เลิกไป เพราะไม่พร้อมด้านสุขภาพ ไม่ได้มาทำงาน ตรงนี้

นอกจากนี้ ทางสำนักส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 สุุราษฎร์ธานี กระทรวง พม. ต้องการให้ผู้สูงอายุบางนอน เป็นต้นแบบพัฒนาคุณภาพผู้สูงอายุ จึงได้ตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ฯ ของเรา เป็น ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุตำบลบางนอน ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุจากทั่วประเทศให้สามารถเข้ามาดูงาน โดยทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชน บางนอน ฯ ยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้ และการทำข้าวเกรียบผักเหลียงให้กับผู้สนใจทุกคนที่มาดูงาน ไม่เฉพาะผู้สูงอายุ


เหมาะคนต้องการละเว้นกิน เนื้อสัตว์

สำหรับข้าวเกรียบผักเหลียง เป็นข้าวเกรียบผักที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการกินเนื้อสัตว์หรือกลุ่มมังสวิรัติ สามารถรับประทานได้ ส่วนคนที่กินเจ ยังกินสูตรนี้ไม่ได้ เพราะมีส่วนผสมของกระเทียมอยู่ด้วย ส่วนรสชาติของข้าวเกรียบผักเหลียง รสชาติ แตกต่างไปจากข้าวเกรียบกุ้ง ข้าวเกรียบปลา เพราะเป็นผัก โดยมีการปรุงรสชาติ เค็มและหวาน เหมือนข้าวเกรียบ แต่ไม่ได้ใส่ผงชูรส ซึ่งมั่นใจในรสชาติ เพราะถ้าไม่อร่อย ก็คงจะไม่ได้ขายมาได้นานกว่า 3 ปี แบบนี้

ในส่วนผสมของการทำข้าวเกรียบผักเหลียงมีการใส่ผักเหลียงในปริมาณสัดส่วน 40 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือส่วนผสมของแป้ง เหมือนข้าวเกรียบทั่วไป ซึ่งผักเหลียงที่ใส่ลงไปในข้าวเกรียบจะยังมองเห็นเท็คเจอร์ ส่วนต้นทุนในการทำผักเหลียง จะสูงกว่า ข้าวเกรียบแบบอื่นๆ เพราะตัวผักเหลียงเองราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน แบบนี้ ผักจะแตกใบอ่อน ไม่มีใบแก่ การทำข้าวเกรียบจะต้องใช้ผักเหลียงใบแก่เท่านั้น ราคาก็จะสูงกว่าช่วงปกติ

ความแตกต่างของข้าวเกรียบผักเหลียงกับข้าวเกรียบกุ้ง หรือ ปลา คือ ในเรื่องของความกรอบ ข้าวเกรียบผักจะมีความกรอบมาก และด้วยความมีความกรอบมาก ทำให้เวลาขนส่งไปขายนอกพื้นที่ต่างจังหวัด จะต้องมีการแพ็กที่ดี ถ้าแพ็กไม่ดี ข้าวเกรียบเสียหายได้ ที่ผ่านมา ยังไม่ได้มีการส่งไปขายนอกพื้นที่ผ่านการขนส่งมากนัก


ช่องทางการจำหน่าย

ในส่วนของช่องทางการขายหลัก ตอนนี้ มีวางขายในร้านของฝากจังหวัดระนอง เพียงแห่งเดียว และเน้นมีออกบูท กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ที่ให้พื้นที่ไปออกตามจังหวัดต่างๆ ส่วนขายประจำมีที่ตลาดเกษตร จังหวัดระนอง ขายเฉพาะวันจันทร์ และวันศุกร์ สัปดาห์ละ 2 วัน รายได้ต่อเดือน 10,000-30,000 บาท ส่วนผู้สูงอายุที่มาทำงาน ไม่ได้มาทำทุกวัน เหมือนมาทำกิจกรรมร่วมกัน มีรายได้คนละ 600-700 บาท ต่อเดือน

ทั้งนี้ ในส่วนของราคาข้าวเกรียบผักเหลียงที่จำหน่าย อยู่ที่ห่อละ 35 บาท ปริมาณ 70 กรัม 3 ห่อ 100 บาท ส่วนคนที่จะมารับไปขาย ขายส่งห่อละ 28 บาท ซึ่งปกติ ผู้สูงอายุที่ทำงานที่กลุ่ม ไม่ถนัดเรื่องการขาย ตนเองก็เลยรับหน้าที่ดูแลเรื่องการตลาด การขายเพียงคนเดียว เวลาไปออกบูท กลุ่มผู้สูงอายุไม่สามารถเดินทางไปออกบูทกับเราได้


ปัญหาของผู้สูงอายุ การทำตลาด

สำหรับปัญหาของกลุ่มผู้สูงอายุ ไม่ใช่เรื่องการผลิต การผลิตทำกันได้ เพราะเป็นงานที่ไม่หนัก แต่ปัญหาของผู้สูงอายุ การเดินทางหรือ การออกตลาด ที่ไม่สามารถเดินทางไกลๆ ได้ เพราะผู้สูงอายุที่ทำงานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ของเราอายุมาก 70 ปี กันแล้ว

จุลนิษฐ์ เล่าว่า ที่ผ่านมา นอกจากการทำข้าวเกรียบแบบทอดแล้วออกมาจำหน่าย ทางกลุ่มก็เคยนำข้าวเกรียบที่ยังไม่ทอดขายให้กับลูกค้าที่ต้องการส่งไปที่ประเทศสิงคโปร์ แต่ปรากฎว่า ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วทอดไม่ได้ เพราะการทอดข้าวเกรียบไม่ได้ง่าย ถ้าทอดไม่เป็นจะทอดไม่ได้ ซึ่งก่อนหน้านั้นได้สอนเทคนิควิธีการทอดให้ลูกค้าแล้ว แต่ก็ยังทอดไม่ได้ ข้าวเกรียบผักจะทอดยากกว่าข้าวเกรียบกุ้ง และปลา ส่วนข้าวเกรียบผัก เมื่อทอดแล้วจะเก็บไว้กินได้กรอบแบบนี้ นานเป็นเดือน ส่วนรสชาติไม่ได้อร่อยเหมือนกับการทอดใหม่ ๆ มองว่าเป็นเรื่องปกติ ของใหม่รสชาติดีกว่า

สำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบผักเหลียง จ.ระนอง เป็นต้นแบบพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ที่ปัจจุบัน เพิ่มมากขึ้น การดูแลหน่วยงานภาครัฐ ช่วยเหลือได้ไม่ทั่วถึงดีเท่าที่ควร ผู้สูงอายุ ต้องช่วยเหลือตัวเอง เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระให้กับคนในครอบครัวและสังคม และการรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมช่วยให้ผู้สูงอายุ คลายเหงา มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและสุขภาพใจที่ดี

ติดต่อ โทร.08-4992-2951

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น