จากความร้อนแรงของราคาทองคำ ดูเหมือนว่าทำให้ตลาดผู้ค้าทองลอกเลียนแบบ หรือทองปลอม ร้อนแรงในช่วงนี้ โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ ทาง SME ผู้จัดการ ทำการสำรวจตลาดทองปลอมในช่วงที่ทองคำราคาพุ่งจนหลายคนเริ่มเอื้อมกันไม่ถึง หรือบางคนเริ่มไม่กล้าใส่ทองคำจริงออกจากบ้าน จนต้องหันมาสวมใส่ทองคำลอกเลียนแบบ หรือ ทองปลอม
ส่องตลาดทองปลอม ยุคราคาทองพุ่ง ไม่หยุด
ครั้งนี้ จะพามาส่องตลาดทองปลอมที่มีการขายบนโลกโซเชียลฯ ในขณะนี้ ว่า มีทองลอกเลียนแบบให้ได้เลือกซื้อกันกี่แบบ และแต่ละแบบมีจุดขาย และคุณภาพ ราคาเป็นอย่างไร
หลังจากได้มีโอกาสพูดคุย กับเจ้าของร้านจำหน่ายทองลอกเลียนแบบหรือทองปลอม และการเข้าไปส่องหน้าเพจไลฟ์สดของเหล่าบรรดา เจ้าของร้านทองปลอมบนโลกโซเชียลฯ ทำให้ได้พบความจริงเกี่ยวกับ ชนิดของทองลอกเลียนแบบ หรือ ทองปลอม ในยุคนี้ ว่ามีการพัฒนาไปมาก จนหลายคนไม่ต้องกังวลเลยว่า จะมีคนรู้ว่า คุณกำลังใส่ทองปลอมอยู่
นอกจากจะสามารถซื้อเครื่องประดับทองลอกเลียนแบบหรือทองปลอมมาสวมใส่ แทนทองจริงในรูปแบบที่คนอื่นจับไม่ได้แล้ว ที่สำคัญ ทางร้านทำทองลอกเลียนแบบ ยังออกใบรับประกันไม่ลอกไม่ดำ กันยาวๆ แบบ10ปีไปเลย และแบบนี้ ทองคำแท้คงจะมีเพื่อเก็บเอาไว้เกร็งกำไรหรือไม่ ฝากไว้ในตู้เชฟธนาคาร หรือ โรงรับจำนำ ในขณะที่การสวมใส่คงจะต้องเลือกใส่ทองแท้ ไม่ลอกไม่ดำ จำนำไม่ได้แทน
รูปแบบทองปลอม ยุคนี้พัฒนาไปอย่างไรบ้าง
วันนี้ พามารู้จักกับทองปลอม หรือทองลอกเลียนแบบที่ขายกันปัจจุบันมีกี่แบบ ราคาเท่าไหร่กันบ้าง
เริ่มรูปแบบแรก “ทองชุบ” หลายคนรู้จักกันดี เพราะมีการทำออกมาขายกันเป็นเวลาช้านาน ถือว่าทองปลอมรุ่นแรก ซึ่งตัว เนื้อทองทำจากวัสดุโลหะราคาถูก เช่น สแตนเลส ไมครอน หรือ วัสดุอื่นๆ ที่ราคาไม่แพง และนำมาชุบน้ำยาเคมีทางวิทยาศาสตร์ จนได้เป็นสีเหลืองทอง เหมือนกับทองคำจริง ซึ่งข้อเสียของทองชุบ เมื่อสัมผัสกับผิวหนังของคนหรือโดนอากาศ สีก็จะเริ่มซีดจาง หรือ บางคนที่เหงื่อออกเยอะ เมื่อสัมผัสกับเหงื่อ ทองก็ดำ หรือ เป็นสีคล้ำๆ ก็จะต้องนำไปชุบใหม่ ในอดีตจะเห็นร้านรับชุบทอง อยู่ตามตลาดเกือบทุกที่ของประเทศไทย แต่ปัจจุบันเริ่มหายากมาก เพราะนวัตกรรมใหม่ที่ทำให้ทองชุบไม่ได้รับความนิยม ส่วนราคาทองชุบจะไม่แพง เริ่มต้นตั้งแต่หลักสิบบาท ไปจนถึงหลักร้อยบาท ขึ้นอยู่กับขนาด และรูปแบบ
รูปแบบที่ 2 ทองทำจากวัสดุเหรียญสลึง เหรียญ 50 สตางค์ ผสมทองเหลืองและทองแดง เนื่องจากรูปแบบที่เป็นทองชุบในอดีต มีปัญหาใส่แล้วสีซีดจาง และดำ ผู้ผลิตยุคต่อมา จึงได้พัฒนาวัสดุที่ช่วยให้ไม่ลอกไม่ดำ “เจ้าของร้านช่างแดงทองแกะสลักไทย” ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าบิ๊กซี แจ้งวัฒนะ เล่าว่า เดิมทางร้านรับงานทำกรอบพระ สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน ทำจากสูตรเหรียญ 50 สตางค์ ไม่ลอก ไม่ดำ จุดเริ่มต้นมาจากลูกค้าที่ต้องการกรอบเลี่ยมพระที่เป็นทอง แต่ไม่ใช่ทองคำแท้ เพราะราคาสูง และทางเจ้าของร้านอยู่ในแวดวงเซียนพระ ก็เลยจะมีลูกค้าในกลุ่มนี้เยอะ
โดยปกติ ในวงการนักเล่นพระ มีพระหลายองค์ ถ้าใช้กรอบเลี่ยมทองทั้งหมด ต้องใช้เงินเยอะ ทางร้านก็เลยมองหาวัสดุอะไรที่ทำกรอบพระที่ออกมาเหมือนกรอบพระเลี่ยมทองให้มากที่สุด เพราะกรอบพระที่เราทำเป็นงานฝีมือ เน้นงานแกะสลัก ลวดลายไทย ซึ่งจะไปใช้ทองชุบ หรือ ทองปลอมคุณภาพถูกก็ไม่ใช่ เพราะงานแต่ละชิ้นที่ทางร้านทำออกมา ต้องใช้ความละเอียด และช่างทองฝีมือในการทำงานแกะสลักลาย
ทั้งนี้ ทางร้านมองหาวัสดุที่สร้างมูลค่าได้มากกว่าคำว่าทองปลอม จึงได้เป็นที่มาของการนำเหรียญ 50 สตางค์ ปี 2493 มาใช้ และ มาผสมกับวัสดุอื่นๆ เช่น ทองเหลือง และทองแดง ทำให้ราคาของเราไม่ใช่ราคาทองปลอม ทองชุบ หรือ ทองลอกเลียนแบบที่ขายกันตามท้องตลาด เพราะมีส่วนผสมของทองคำอยู่ด้วย เพื่อให้ได้งานในคุณภาพที่ใกล้เคียง เสมือนทองแท้มากที่สุด
เจ้าของร้าน เล่าต่อว่า ที่ผ่านมา จะรับงานตามออเดอร์ ลูกค้าที่ต้องการทองลวดลายแบบไหน ก็สามารถนำแบบทองที่มีอยู่มาให้เราทำให้ในแบบนั้น ๆได้ ลูกค้าของเราหลายคน นำทองคำแท้ที่มีอยู่มาให้เราช่วยลอกแบบลายให้ เพราะบางคนมีความจำเป็นต้องนำทองไปไว้โรงรับจำนำ เวลากลับบ้านต่างจังหวัด ก็ไม่อยากให้ครอบครัวถาม ก็มาสั่งทำจากร้านของเรา ในช่วงสิ้นปีแบบนี้ ทุกปีจะมีลูกค้ามาสั่งทำทอง เยอะกว่าช่วงปกติหลายเท่า เพราะต้องกลับบ้านต่างจังหวัดกัน อยากสวมใส่ทองไปอวดญาติ
ในส่วนของราคาทองของเราอยู่ที่ประมาณ หลักพันบาท 2-3 พันบาท หรือ ถ้าเป็นเส้นใหญ่ ราคาเพิ่มขึ้นหลายพันบาท เพราะเรามีส่วนผสมของทองอยู่ด้วย เช่น ทองแดง ราคาเพิ่มขึ้น ตามราคาทองคำ ทำให้ราคาทองของเรา แม้ว่าจะไม่ใช่ทองคำแท้ แต่ราคาสูงตามราคาทองแดง ไปด้วย ซึ่งในอดีตก่อนราคาทองแท้จะปรับสูงขนาดนี้ ราคาของร้านเราเริ่มต้นที่ 800 -900 -1,000 บาท พอราคาทองคำเพิ่ม ราคาของเราเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งลูกค้าที่เคยซื้อไปสวมใส่รู้สึกว่าเหมือนทองคำแท้ และ ไม่ลอก ไม่ซีด ไม่ดำ ก็จะกลับมาซื้อซ้ำ เน้นงานเกรดคุณภาพพรีเมียม ตั้งแต่ขั้นตอนผลิต ไปจนถึงวัสดุที่ใช้ ราคาค่อนข้างสูง
รูปแบบที่ 3 ทองลอกเลียนแบบที่มีส่วนผสมของทองอณูไมครอน ของ ร้านทองวิจิตร Thongvijit เป็นอีกหนึ่งร้านที่หลายคนสะดุดตากับภาพที่เห็น จากการพรีเซนต์ขายบนโลกออนไลน์ โดยจุดขายร้านนี้ เน้นเสมือนจริง ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตที่ใช้ช่างทำทองที่มีประสบการณ์กับการทำทองในร้านทองมานาน และวัสดุที่ร้านนี้ เลือกใช้ มีส่วนผสมของทองอณูไมครอน ซึ่งละเอียดกว่างานไมครอน หรือ งานทองเหลือง เป็นงานใช้การเคลือบพิเศษ ซึ่งน้ำหนัก สีและลวดลาย เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับงานแท้มาก จนอาจจะไม่สามารถแยกออกด้วยตาเปล่าได้ ต้องใช้เครื่องมือในการแยก และทองทุกเส้นยังตอกตรายี่ห้อ ด้วยให้เหมือนทองจริงทุกขั้นตอน ร้านนี้ รับประกัน 1 ปี และมีบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน ราคา ขายตามน้ำหนักทองจริง คือ 2 สลึง ราคา 590 บาท 1 บาท ราคา 690 บาท แพงสุด น้ำหนัก 20 บาท ราคาเพียง 2,900 บาท
รูปแบบที่ 4 ทองทำจากทองเหลือง ใช้เทคนิคเลเซอร์ไฟฟ้า ของ “เจ๊ลี่ เจ้าแม่ทองเหลืองเลเซอร์” และ” เบตทองเทียบแท้ by ลูกเจ๊ลี่” ผู้ผลิตจากจังหวัดลำปาง เป็นอีกหนึ่งร้านที่มีการไลฟ์สดขายทอง และเรียกทองของตัวเอง ว่า “ทองโคลนนิ่ง” เพราะมั่นใจว่า ทองของเค้า เหมือนทองจริงมากที่สุด แล้ว โดยมีการขูดทองโชว์ให้เห็นหน้าไลฟ์สด และผ่าทองออกมาให้เห็นข้างใน ที่เป็นสีทองจริงๆ ให้ลูกค้าเชื่อใจว่า สีทองที่เห็นอยู่ในเนื้อโลหะด้วยเทคนิคยิงเลเซอร์ ไม่ใช่งานชุบ ทางร้านรับประกันลอกดำนาน 10 ปี พร้อมใบรับประกัน ถ้าลอกสามารถเปลี่ยนได้ทันที
เจ๊ลี่ เจ้าแม่ทองเหลืองเลเซอร์ เล่าในไลฟ์สด ว่า ร้านของตัวเอง ขายทองพร้อมใบรับประกันสินค้านาน 10 ปี และเปลี่ยนสินค้าให้ลูกค้าทันที ถ้ามีปัญหาลอกหรือ ดำ และที่เรียกว่า ทองโคลนนิ่ง เพราะกระบวนการผลิตมีโรงงานผลิตเป็นของเราเอง งานทุกชิ้นผลิตจากช่างทำมือ ทำให้มั่นใจว่า ทองของเราเป็นทองปลอมที่เหมือนจริงที่สุดแล้ว ส่วนราคาใกล้เคียงกับทุกๆ ร้าน เริ่มต้น 500 กว่าบาท ไปจนถึงหลักพันบาท ขายตามน้ำหนักของทอง
ทองปลอม ร้อนแรง ช่วยให้ช่างทองยังคงมีงานทำ
ในช่วงนี้ จะมีร้านทองโคลนนิ่ง หรือ ทองเสมือนจริง เหล่านี้ ออกมาขายกันทางโซเชียลฯ เป็นจำนวนมาก แต่ละร้านเน้น งานไม่ลอกไม่ดำ เสมือนทองจริง ใส่กันเพลินไปหลายปี และที่สำคัญ คือ ฝีมือการทำละเอียด ระดับช่างทองมืออาชีพ ซึ่งช่างทำทองเหล่านี้ มาจากช่างทำทอง ที่เคยทำให้กับร้านทองคำแท้มาก่อน แต่พอราคาทองเพิ่มขึ้น คนซื้อทองน้อยลงไป ช่างเหล่านี้ ผันตัวเอง หันมาเป็นช่างทำทองให้กับร้านทองปลอม ทองลอกเลียนแบบ หรือ ทองโคลนนิ่ง เหล่านี้ ยังคงสร้างงานสร้างอาชีพให้กับช่างทอง ไม่ตกงานมีงานทำกันต่อไป
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


