xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) พลิกวิกฤติโรงพิมพ์สู่โรงกล่องกระดาษรักษ์โลก “กู๊ดบ็อกซ์แพ็ค” ดีไซน์ตอบโจทย์ราคาโดนใจเข้าถึงได้ง่าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปัจจุบันเราจะฟังความเห็นลูกค้าเป็นส่วนมากก็คือถ้าลูกค้าบางคนก็บอกว่าเออช่วงนี้เทรนด์นี้มาหรือต้องการอะไรจริง ๆ ชุดหิ้วปิ่นโตมีลูกค้าบอกเราว่าทำไมไม่จัดเซ็ตล่ะ ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อว่ามีคนเอานี้ไปให้จริงเหรอ แต่พอเราทำขายขึ้นมาเอ๊อขายดี! แล้วก็มีหลายแบรนด์ที่แบบว่าลอกตามเรา


แล้วพอมันเป็นกระแสอย่างเงี้ยคนก็ ขายดี คือเหมือนกระแสนอกจาก “อาหาร” อยู่แล้วคือขายความแพ็กเกจจิ้งครึ่งหนึ่งเลยนะเพราะว่า ที่เป็นกระแสกันคือแบบว่าแพ็กเกจจิ้งดูสวยแปลกดีอะไรเงี้ยซึ่งก็เขาเรียกว่าอะไรหนึ่งก็คือเราฟังลูกค้า สองก็คือมันมาจากภายในที่เราคิดเองว่าช่วงนี้ “ลายไทย” กำลังมานะหรือ บางทีเราอาจจะลอง launch ลายนึงตัวเดียวไปก่อน และถ้าคนตอบรับดีเราก็ทำเป็นคอลเล็กชันเซ็ตออกมาเพื่อที่จะเหมือน วางทีเดียวมันดูสวยงามแล้วลูกค้าใช้ด้วยกันหมดอะไรเงี้ย คือการทำแพ็กเกจจิ้งมันไม่ใช่แค่ว่าอยู่เฉย ๆ ทำแบบตัวนิ่ง ๆ หรืออะไรเราต้องทันกระแส มันเป็นสินค้าแฟชั่นระดับหนึ่งนะคะเออเหมือนกับว่าเราก็ต้องตามให้มันทันแล้วเราก็ต้องเป็นผู้นำในการออกสินค้าใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้ตามเขาเห็นแล้วให้มันเป็นกระแสเนาะแล้วก็คนก็จะนึกถึงเรา” วราเจตน์ ทุกูลพาณิชย์ หรือคุณการ์ด เจ้าของบริษัท กู๊ด บ็อกซ์ แพ็ค จำกัด ทายาทรุ่นที่ 2 ผู้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนธุรกิจ “โรงพิมพ์” ที่ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์มาอย่างรุ่งเรืองมาก ๆ ในยุคสมัยของคุณพ่อ แต่ทว่าเมื่อถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านยุคของ analog สู่ digital เกิดการ disruption ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจที่ดำเนินมาในรูปแบบเดิม สู่การผลิตใหม่โดยอาศัยการต่อยอดจากเครื่องจักรเดิมแต่เปลี่ยนรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่ได้ เพื่อตอบรับให้เข้ากับกระแสตลาดออนไลน์ที่กำลังมาได้ทันเวลาพอดี ถึงตอนนี้อายุธุรกิจของกู๊ดบ็อกซ์แพ็คย่างสู่ปีที่ 9 แล้ว


การเปลี่ยนผ่านของยุค “สื่อสิ่งพิมพ์” มาสู่ธุรกิจ “แพ็กเกจจิ้ง” แนวรักษ์โลก
“คุณพ่อทำธุรกิจสิ่งพิมพ์ค่ะมายาวนานกว่า 30 ปี เริ่มตั้งแต่ทำโบรชัวร์-ปฏิทินทำงาน OEM ให้ลูกค้าค่ะ ก็คือลูกค้ามีความต้องการยังไงเนาะเราก็จะจัดสรรให้ เช่น อยากทำกล่องเครื่องสำอาง อยากทำกล่องขนม อยากทำใบปลิวเราก็จะทำการออกแบบ คิดราคาตามที่ลูกค้าต้องการ เลือกกระดาษแล้วก็ได้รูปทรงที่ลูกค้าต้องการอย่างเงี้ย เราก็จัดทำให้ส่งให้ลูกค้า” แต่ทีนี้ในธุรกิจตรงนี้มันอาจจะเป็นขาลงเนาะเพราะว่าคนใช้งานอาจจะไม่ได้มาก ตั้งแต่ปฏิทินหรือโบรชัวร์ เราก็เลยมองหาธุรกิจ ก็เลยเกิดมาเป็นบริษัท กู๊ด บ็อกซ์ แพ็ค“เป็นการจัดจำหน่ายสินค้าที่ทางเราออกแบบเอง แล้วก็ผลิตเองเกือบทั้งหมด คือเราสามารถใส่ไอเดียและก็ทำต้นทุนได้ราคาถูกค่ะเพราะว่าเราเป็นโรงงานเอง ก็เลยกลายเป็นสินค้ากว่า 1,000 SKU ที่เราทำขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์” เพราะว่าเทรนด์ตอนนั้นมันมาแล้วก็คือทุกอย่างมันออนไลน์หมดเลย facebook ก็มา Shopee และก็อีกหลาย ๆ แพลตฟอร์มเริ่มมาแล้ว แล้วเราก็มองว่าคนจะใช้สื่อที่เป็น Leaflet อะไรพวกนี้น้อยลง คนก็ไปยิงแอดมากเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นทั้ง “นามบัตร” คนก็ไม่ค่อยได้ใช้กันแล้ว(เพราะมีการแอดไลน์กันแทน) หรือโบรชัวร์ก็ต้นทุนทำครั้งหนึ่งก็หลายหมื่น-แสน คนก็ทำน้อยลง เขาก็ไปทางยิงแอดมากขึ้น ปฏิทินอย่างเงี้ยมีใครที่นั่งดูที่โต๊ะก็น้อยลง คือทุกอย่างมันน้อยลง ๆ เรื่อย ๆ แต่ว่าในทางกลับกันที่สวนทางมากขึ้น Packaging มีความต้องการมากขึ้นเพราะว่า เหมือนลูกค้าเริ่มรับรู้กันว่าการทำแพ็กเกจจิ้งที่สวยงามมันจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้ “เราก็เลยมูฟจากสิ่งพิมพ์ที่เป็นปฏิทิน โบรชัวร์ มาทำเป็นแพ็กเกจจิ้ง แพ็กเกจจิ้งเนี่ยเราก็ที่บอกว่าเรารับทำ OEM service ด้วย ก็อันนี้เราถนัดแล้วก็มาทำสินค้าที่พร้อมส่งเพื่อให้ผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุนเยอะ ปกติถ้าสั่งทำทีมันก็จะหมื่นกว่าบาทอะไรเงี้ยเริ่มต้นเลยนะคะ แต่ของเราสั่งแค่แพ็คเดียวก็ส่งได้เลย”




ความเชี่ยวชาญผสานกับ “การฟังเสียงลูกค้า” เขาต้องการอะไร?
มันเป็นเป็นสายธุรกิจเดียวกัน “เครื่องจักร” มันสามารถมูฟมาทำได้ อาจจะต้องลงทุนเครื่องต่อ ๆ มาเพิ่มขึ้น แต่ว่าเครื่องพิมพ์อย่างเงี้ยตัวหนึ่งราคามันก็หลายสิบล้าน มันยังสามารถพิมพ์แพ็กเกจจิ้งตรงนี้ได้อยู่ แต่เราต้องลงทุนเครื่องอย่างอื่นเพิ่ม เช่น เครื่องปะกล่อง เครื่องติดกาว ฯลฯ อะไรอย่างเงี้ยในส่วนของแพ็กเกจจิ้ง ซึ่งเรามีความรู้ความสามารถตรงนี้อยู่แล้ว การทำตรงนี้แล้วลงทุนเพิ่มมันก็ทำให้เราต่อยอดแล้วก็เติบโตได้ไว มีความเชี่ยวชาญมากกว่าคนอื่น“ของเราจุดขายก็คือกระดาษสามารถย่อยสลายได้ 100% พิมพ์ด้วยหมึก Soy ink ก็คือเป็น “หมึกถั่วเหลือง” สัมผัสอาหารได้ กระดาษจริง ๆ ก็เป็นกระดาษฟู้ดเกรดสัมผัสอาหารได้เนาะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราแตกต่างจากไม่ว่าจะเป็น โฟม หรือพลาสติกอย่างเงี้ย เราสามารถพิมพ์ลวดลายลงไปที่กล่องได้อีกในราคาต้นทุนไม่แพงเท่าตัวอื่น ๆ”ในการทำร้านอาหารร้านหนึ่ง ๆ นอกจากผู้ประกอบการต้องทำ Branding ทำสื่อทำอะไรแล้วในแพ็กเกจจิ้งมันก็เป็น “สื่อ” ถึงแบรนด์ส่วนหนึ่งที่จะทำให้ เหมือนอาหารมีคุณค่าหรือขายง่ายขึ้น แล้วก็ลูกค้าจดจำได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นกระดาษก็เข้ามาตอบโจทย์ในส่วนของแบบพิมพ์ลาย และก็รักษ์โลก“คอนเซ็ปต์อย่างเงี้ยก็คือคาเฟ่และร้านอาหารส่วนมาก(สมัยใหม่) เขาก็จะแบบว่า concern อยากให้แบบว่าธุรกิจดูรักษ์โลก แล้วก็เหมือนกับว่า Sustainable หน่อยทำให้คนที่เข้ามาเลือกใช้อย่างเงี้ย เขาก็จะได้เห็นตัวตนของแบรนด์อะไรเงี้ยค่ะ ซึ่งก็คอนข้างตอบโจทย์ในร้านค้าสมัยใหม่ที่ต้องการให้สินค้าดูรักษ์โลก และก็พรีเมียมมากขึ้น”




รูปแบบก็มีทีมออกแบบ ออกแบบสินค้าให้ดูแตกต่าง น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเซ็ต “ลายใบตอง” หรือเซ็ต “ลายคราม” ที่ขายดี ลูกค้าก็ติดอกติดใจเอาไปแบบใช้ในงานไทย ๆ อย่างเงี้ยค่ะ ซึ่งกว่าจะได้มาเราก็เหมือนมีทีมคอยคุยกับลูกค้า ลูกค้าอยากได้อะไรบ้าง ทุกความเห็นหรือฟีดแบ็กของลูกค้าเราจะเอามาพัฒนาเสมอ เราจะถามทีมแอดมินว่าลูกค้ามีถามหาอะไรบ้างไหม เราก็จะมาพัฒนาสินค้าด้วยความที่เราเป็นโรงงานเองข้อดีคือ เราทำเองได้เลยเราไม่จำเป็นต้องแบบว่าเออไปจ้างที่อื่นแล้วก็ไปบอกเขาว่าทำอะไร เราสามารถให้อาร์ทเวิร์กเราวางแบบให้ฝ่ายตัดตัวอย่างขึ้นมอล์คอัพดูว่าได้ไหม ลองใส่สินค้า บางทีเราทำเสร็จหมดเลยออกมอล์คอัพพร้อมรูปแบบส่งไปให้ลูกค้าดู ประมาณ 10 เจ้าแล้วให้ลูกค้าคอนเฟิร์มมาว่า เออสวยชอบไหม หรืออะไรอย่างเงี้ย คือเราชอบทำน่ะเออ คือเหมือนกับว่าเราฟังเสียงลูกค้า ลูกค้าก็ซื้อเรา เออดีกว่าเรามานั่งแบบว่าเหมือนทำเองไปเองแล้วสุดท้ายก็ขายไม่ได้อีก ลูกค้าก็ไม่ตอบโจทย์อะไรอย่างเงี้ย เราก็ใช้วิธีเออให้ลูกค้าช่วยเลือกของ “ของเรา” ก็ข้อดีแหละพอเราทำเองเรารู้เองเยอะ เราก็สามารถเล่นลูกเล่นตรงนี้ได้ การทำกล่องมันมีรูปแบบเยอะมากเราสามารถตรงนี้จะปะกาว ตรงนี้ปะหน้าต่าง ตรงนี้ทำตัวล็อคให้มันแน่นขึ้นมากขึ้นได้ไหม เราสามารถเปลี่ยนกว่าสินค้าชิ้นนึงจะออกมา เราทำบางทีถึงขั้นน่ะ 10 ตัวอย่างเลย เพื่อแก้ล็อคตัวนี้ให้ดี ทำต้นทุนตัดกระดาษตัวนี้ให้คุ้มหน่อยจะได้ไม่ขายราคาแพงมากขึ้นอะไรเงี้ย ก็เลยเป็นข้อดีทำให้สินค้าออกมาค่อนข้างจะตอบโจทย์ผู้บริโภค และก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา”




ตอบโจทย์ตลาด “ระดับกลาง-พรีเมียม” หรือคนที่ต้องการสร้างแบรนด์
ก็คือลูกค้าไม่ว่าจะต้องการ ลงทุนแค่นิดนึงแพ็คนึงแหละ อย่างเงี้ยก็คือหันมาซื้อสินค้า “ราคาปลีก” จากเราได้เลยเราก็มีสินค้าพร้อมส่งหน้าเว็บ แต่ถ้าสมมติลูกค้าขายไปสักพักแล้วอยากสร้าง Branding แล้วขั้นต่ำเราเริ่มแค่ 1,000 ใบ1,000 ใบเราเซอร์วิสทั้งออกแบบให้ลูกค้าด้วย แล้วก็ขึ้นมอล์คอัพให้ลูกค้าด้วย แล้วก็จัดส่งฟรีให้อีกในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะฉะนั้นเซอร์วิสเราค่อนข้างจะครบแล้วเราก็เชี่ยวชาญ”สิ่งที่เราเชี่ยวชาญอยู่แล้วคือลูกค้าใช้ของเราอยู่แล้ว เราก็จะรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ลูกค้าสามารถมาคุยกับเราได้เลยว่าตรงนี้นะฉันซื้อตัวนี้อยู่นะแต่ว่า อยากปรับไซซ์หรือว่าปรับลายให้มันสวยงามมากขึ้น เราก็ออกแบบให้ได้หมดเลย“ก็ได้ตั้งแต่ร้านคาเฟ่เนาะ ร้านคาเฟ่ก็ใช้ถุงกระดาษ กล่องขนม แล้วก็ร้านอาหารบางทีบางคนก็ขายเดลิเวอรี่ด้วย เราก็มีจัดเซ็ตเป็นถุงกระดาษหรือเป็นถ้วยกระดาษ กล่องกระดาษอะไรอย่างเงี้ยได้ แล้วก็จริง ๆ เราก็รับทำพวกกล่องเครื่องสำอาง กล่องใด ๆ ที่มันเป็นอินเนอร์ก็ค่อนข้างจะ ได้รับการตอบรับดี”และก็นอกจากนี้เราก็มีสินค้าที่อาจจะนึกไม่ถึงเนาะ บางคนเหมือนอยากทำบุญไหว้พระอย่างเงี้ย เรามีชุดสังฆทาน(ชุดปิ่นโต) ลูกค้าสามารถใส่ของสังฆทานก็ได้หรือว่าจะใส่อาหารก็ได้ เพื่อไปถวายพระ อันนี้ก็คือเป็นลายครามสวยงาม บางทีก็นึกไม่ถึงแต่ว่าสามารถไปได้ทุกอุตสาหกรรมจริง ๆ บางทีลูกค้าไม่ได้เปิดร้านอยากจะทำขนมให้เพื่อน ก็มีเยอะก็มาซื้อแพ็กเกจจิ้งเราแล้วก็เอาไปให้เพื่อน หรือจะเป็นบริษัทต่าง ๆ จัดงานปีใหม่หรือจัด Giftset ซื้อถุงกระดาษเราไปใส่ของแล้วก็ให้ ก็ง่ายไม่ต้องพิมพ์อะไรเลย แค่ใส่ถุงแล้วก็อาจจะผูกโบว์เป็นชื่อบริษัทหรือติดสติกเกอร์ชื่อบริษัท ไม่จำเป็นต้องพิมพ์งานใหม่เลย“แล้วก็บริษัทใหญ่ ๆ เนาะที่ทำร้านแบบแฟรนไชส์หรืออะไรเงี้ยพวกนี้ก็คือค่อนข้างจะมูฟมาทำกระดาษมากขึ้น เพราะว่าถ้าเขาขายในห้างฯ มันก็ต้องมีภาพลักษณ์ที่ดูดี ของเราก็จะเป็นสินค้าค่อนข้างพรีเมียม “กลาง-พรีเมียม” เพราะฉะนั้นก็ตัดกันที่กลุ่มลูกค้าเนาะว่าลูกค้าอยากจะไปทางไหนอะไรอย่างเงี้ยค่ะ ซึ่งเราก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้”




ครบเครื่องเรื่องบรรจุภัณฑ์กระดาษ รักษ์โลกรับเทรนด์ “แฟชั่น” ด้วย
แต่ก่อนเราเคยทำเทรนด์เกี่ยวกับ “ลายหมี” อะไรอย่างเงี้ยที่เขากำลังฮิต ๆ กันอยู่หรือมี เรื่องเกี่ยวกับ “มูเตลู” อย่างเงี้ยเราก็มีทำ เป็นแบบว่าเซ็ตคอลเล็กชันมูเตลู“คือเราพยายามทำตามกระแสเรื่อย ๆ กระแสรักษ์โลกเราก็มี บางทีเราก็ไปจอยกับคอแล็บกับองค์กรอาร์ทฟอร์ออลเป็นแบบว่า ค่ายที่เสริมสร้างศิลปให้คนพิการอะไรเงี้ย เราก็เอารูปภาพที่ผู้พิการวาดขึ้นมาค่ะ เอามาลงบนกล่องอย่างเงี้ย แล้วเราก็เอารายได้ส่วนหนึ่งบริจาคให้เขาในขณะที่ตรงนี้เราก็จัดจำหน่ายไปตามปกติ เพื่อที่จะแบบว่าเหมือนบางคนอยากจะซัพพอร์ตซื้อของด้วยซัพพอร์ตตรงนี้ด้วย เงินก็เราไม่ได้เอากำไรในส่วนนี้ กำไรส่วนนี้ก็คือบริจาคทางมูลนิธิฯ ทั้งหมด ก็เลยวินวินเนอะเพราะว่าผู้ประกอบการก็ต้องใช้เราก็ช่วยมูลนิธิเพื่อให้เขาได้มีเงินในการพัฒนาและสร้างค่ายให้น้อง ๆ เพื่อให้เขามีศิลปะช่วยการเรียนรู้อะไรเงี้ย ซึ่งมันก็สนุกหมายถึงก็ค่อนข้างสนุกในการแบบว่าคิดตรงนี้” บางคนไม่มีไอเดียอะไรมาเลยเขาก็แบบว่า อยากทำอันนี้ เราก็จะแคะเขาออกมาหนึ่งคืออยากใส่ขนมอะไรบอกมา เราก็จะวัดให้ว่ากล่องนี้ แล้วจิ้มมาอยากได้ทรงประมาณไหน แบบอยากได้ประมาณไหน สุดท้ายคือเราก็จะทำมอล์คอัพให้เขาดูว่า โอเคไหม แล้วเราก็ทำต้นทุนให้เขาดูว่า เกินงบที่เขาต้องการไหม ก็จนจบเลยแล้วก็ส่งให้เขาเลย ก็ค่อนข้างที่จะตอบโจทย์ลูกค้าตั้งแต่ต้นยันปลายเลย




ซื้อปลีก “แพ็คเดียว” แบบไหนก็ได้หรือ “ขายส่ง” แต่ไม่อยากสต็อกก็มีจำนวนให้
สั่งขั้นต่ำแค่แพ็คเดียวแต่ละอย่างได้หมด ปกติที่อื่นเขาต้องสั่งเป็นลังหรืออะไรเงี้ย แล้วก็ของเรา 500 บาทส่งฟรีทั่วประเทศ “ก็คือลูกค้าไม่ต้องสต็อกเยอะเลยสมมติ 500 บาทก็ซื้ออันนี้ 2-3 แพ็ค แล้วก็เอาไปขายก่อน สมมติมีเงินพอแล้วหมุนเสร็จปุ๊บก็มาซื้อเราอีก และก็ไปอีกอะไรเงี้ย คือในส่วนนี้ก็คือเราค่อนข้างจะซัพพอร์ตค่าส่งอันนี้ให้ เพื่อให้ลูกค้าได้ไม่ต้องสต็อกของสินค้าแพ็กเกจจิ้งเยอะ”ของเราก็มีหน้าเว็บสินค้า ลูกค้าเข้าไปดูได้เลย ก็คือซื้อแพ็คะนึงราคาปลีก หรือซื้อยกลังเราก็มีราคาส่ง(แบบยกลัง) ให้อีก แต่ถ้าสมมติร้านค้าเป็นร้านค้าขายส่งเราก็มีเรทราคาเพื่อส่งให้ลูกค้าจัดจำหน่ายหน้าร้านอีก เราทั้งขายปลีก-ขายส่ง“คือของเราเน้นหลัก ๆ คือเราเป็นโรงงาน ขายทั้งออนไลน์และก็ขายผ่านตัวแทน ทั้งออฟฟิศเมทอะไรอย่างเงี้ยคือเราก็ลงสินค้าครบทุกที่ มีหน้าเว็บไซต์แล้วก็ไลน์ส่วนตัวเรา มีเพื่อให้ลูกค้าได้สั่งของและก็ติดตามเราได้ทางโซเชียลมีเดียได้ทั้งหมด ในขณะเดียวกันเราก็ทำกระแส(ยิงแอด) เพื่อให้สินค้านั้นได้รู้จักกันมากขึ้น เพื่อให้ตัวแทนขายสินค้าเราได้ด้วย ซึ่งตัวแทนเราก็มีตามจังหวัดต่าง ๆ และก็ในกรุงเทพฯ เรามีมากกว่า 100 เจ้า เพราะว่าเขาต้องการสินค้าเราไปลงในการเหมือนเสริมพอร์ตเขาในการขายแพ็กเกจจิ้ง หรือบางทีเขาอาจจะขายพวกแบบวัตถุดิบทำอาหาร ทำเบเกอรี่อย่างเงี้ยต้องการแพ็กเกจจิ้งไปให้ลูกค้าเขา เราก็ขายส่งเช่นกันค่ะนอกจากนี้เราก็มี “โชว์รูม” ตรงนี้เราจะเป็นเหมือนให้ลูกค้ามาดูสินค้า ปรึกษาทั้งงานผลิตและก็ดูสินค้าทั่วไป แต่หลัก ๆ เราก็จะเหมือนเน้นขายออนไลน์และก็ขายส่งเป็นส่วนมาก”




สร้างความพรีเมียมที่แตกต่างด้วยบรรจุภัณฑ์กระดาษ “รักษ์โลก”
คุณการ์ด-วราเจตน์ ทุกูลพาณิชย์ เจ้าของบริษัท กู๊ด บ็อกซ์ แพ็ค จำกัด บอกด้วยว่า ของเราก็เริ่มต้นตั้งแต่แบบว่าเหมือนออกแบบสินค้าแล้วก็ลงขายช่องทางออนไลน์แล้วก็ค่อย ๆ เติบโตขึ้นมา ช่วงโควิดฯ ก็ค่อนข้างทำให้เติบโตได้ดีเพราะว่าลูกค้าต้องการแพ็กเกจจิ้งกันเยอะ คนเหมือนกับเหมือนไปไหนไม่ได้ก็เปิดร้านที่บ้านทำบราวนี่ออนไลน์อะไรแบบนี้ ก็เลยแบบว่าค่อนข้างจะไปได้ดี และก็หลัง ๆ มามีกระแส “รักษ์โลก” เปลี่ยนจากพลาสติกเป็นกระดาษอย่างเงี้ย คนก็มาตามหามากขึ้น บริษัทใหญ่ ๆ อย่างเงี้ยเปลี่ยนจากถุงพลาสติกเป็นกระดาษกันอะไรเงี้ยก็มี“แต่ตรง ๆ เลยก็คือของประเทศไทยอาจจะยังเขาเรียกว่าอะไร มองต้นทุนแพ็กเกจจิ้งเป็นหลัก ซึ่งพลาสติกกับโฟมก็ค่อนข้างจะถูกกว่ากระดาษเยอะอยู่แล้ว ด้วยความที่เขาใช้มากกว่าหรือต้นทุนมันมาถูกกว่า”ก็ปัจจุบันก็คือมีเทรนด์ที่จะไปทางกระดาษมากขึ้น แต่ต้องอาศัยระยะเวลาอาจจะ 5 ปี 10 ปี ที่คนจะแบบว่าเหมือนยอมที่จะจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อมาซื้อแพ็กเกจจิ้งทำให้มันดูดี รักษ์โลก หรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะ“ก็ถามว่าปัจจุบันคนก็ยังใช้พลาสติกกันเยอะเราก็พยายามเหมือนส่งเสริมตลาดหรือให้มาใช้กระดาษเพราะว่า พลาสติกมันก็ทุกเจ้าใช้พลาสติกเหมือนกันอาหารก็ขายไม่ได้ต่างกัน เพราะฉะนั้นการที่คุณอยากจะแตกต่าง คุณก็ต้องเหมือนทำแพ็กเกจจิ้งให้มันดูดีหรือพิมพ์ลายลงไปเพื่อทำให้มันดูรักษ์โลก ดูแตกต่าง แล้วแบรนด์ของคุณจะ Position เป็นพรีเมียมแมสหรืออะไรอย่างเงี้ยก็จะได้มากเพิ่มขึ้น”




เพราะฉะนั้นมันขึ้นอยู่กับกลุ่มตลาด กลุ่มลูกค้าอีกทีหนึ่ง ที่ทางเจ้าของแบรนด์เขามองเห็นว่าแบบจะไปทางไหน ซึ่งปัจจุบันก็คืออย่างที่บอกต้องอาศัยระยะเวลาในการจะไปทางนั้น เหมือนที่ต่างประเทศเขาก็ค่อนข้างใช้กระดาษกันหมดแล้ว อย่าง อเมริกาก็คือแบนพลาสติกอะไรเงี้ย ซึ่งเราก็คิดว่าประเทศไทยเราอาจจะไปอยู่จุดนั้นบ้างเหมือนกันแต่อาศัยระยะเวลา“แต่ว่าหมายถึงในระยะยาวในการทำแบรนด์ บางคนก็ต้องแลกเทรดในส่วนต่างตรงนี้ทำให้คุ้มไหมกับการที่ทำให้ลูกค้าซื้อของเพิ่มอะไรอย่างเงี้ย ก็ค่อนข้างจะต้องศึกษาเรื่องพวกนี้เจ้าของแบรนด์ก็คือต้องเลือกแหละว่า ถ้าสมมติคุณอยากใช้พลาสติกก็ขายราคาตลาดล่างหน่อยเน้นแบบไปไวหรือแบบไม่ต้องทำแบรนด์อะไรมากอะไรเงี้ย แต่ถ้าสมมติคุณอยากจะแบบว่าเติบโตไปทางทำแบรนด์มากขึ้นอย่างเงี้ยก็แนะนำให้เป็นกระดาษ เพราะว่าขั้นต่ำในการพิมพ์ลายเราแค่ 1,000 ใบ แต่ว่าถ้าสมมติคุณไปทำพลาสติกอย่างเงี้ยพิมพ์โมลด์ทีนึงค่าโมลด์หลายแสน ของเราก็ค่อนข้างถ้าเรียกว่าถ้าทำพิมพ์ลายต้นทุนเราจะไม่แพง”





พลิกวิกฤติโรงพิมพ์สู่โรงกล่องกระดาษรักษ์โลก “กู๊ดบ็อกซ์แพ็ค” ดีไซน์ตอบโจทย์ราคาโดนใจเข้าถึงได้ง่าย ในฐานะของผู้บริโภคด้วยและก็เคยเป็นหนึ่งในร้านค้าเล็ก ๆ ที่เปิดขายอาหารในบ้านช่วงของวิกฤติโควิด19 ตอนนั้นกับการขายผ่านออนไลน์(กรุ๊ปไลน์ของหมู่บ้าน) เห็นได้ชัดถึงความสำคัญของ Packaging ที่เข้ามามีบทบาทจริง ๆ เพราะไม่ว่าการค้าการขายจะเล็กไปจนถึงใหญ่มาก ๆ ขนาดไหนก็จำเป็นต้องใช้ เป็นโอกาสของธุรกิจนี้จริง ๆ และยิ่งตลาดออนไลน์ยังคงเป็นทางเลือกที่สำคัญของคนในยุคนี้อย่างต่อเนื่อง คราวนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าของร้านหรือเจ้าของแบรนด์นั้น ๆ แล้วว่า อยากให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่นอกเหนือจากตัวโปรดักฮีโร่ต้องดีและมีคุณภาพแล้ว ผ่านแพ็กเกจจิ้งที่เลือกนำมาใช้ร่วมด้วยเป็นอย่างไรบ้าง ขอบคุณเรื่องราวและไอเดียธุรกิจดี ๆ จากแบรนด์ Goodboxpack ที่กรุณามาร่วมแบ่งปันในครั้งนี้ สามารถติดตามและเลือกซื้อสินค้าบรรจุภัณฑ์กระดาษรักษ์โลกของ Goodboxpack ได้ทางเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง หรือ โทร.098-265-9834

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น