xs
xsm
sm
md
lg

20 ปีเอ็มเทคหันทิศรับจ้างวิจัยวัสดุ-ตั้งเป้ารายได้ปีละ 45 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ครบ 20 ปีเอ็มเทคหันทิศรับจ้างวิจัย-ตั้งเป้ารายได้ปีละ 45 ล้าน คาดความช่วยเหลือจากรัฐลด-หันพึ่งตัวเอง อาศัยเครือข่ายความร่วมมือให้เกิดงานบริการ พร้อมแถลงผลงานตลอด 20 ปี เช่น วัสดุอุดร่องฟันที่ถูกกว่านำเข้า 50% งานเริ่มต้นเรื่องเซลล์เชื้อเพลิงที่ต้นแบบจะแล้วเสร็จในปี 50 พร้อมต่อยอดไปใช้ในบ้านและชุมชน

รศ.ดร.ปริทรรศน์ พันธุบรรยงก์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ(เอ็มเทค) แถลงสรุปผลการดำเนินงานตลอด 20 ปี นับแต่ก่อตั้งเมื่อ 16 ก.ย.2529 ณ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. โดยเผยว่าเมื่อก่อตั้งเอ็มเทคมีนักวิจัย 1 คน แต่ในปัจจุบันมี 81 คน และมีขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการที่เปิดให้บริการ 30 ห้อง รวมทั้งมีการวิจัยร่วม การวิเคราะห์ทดสอบ การฝึกอบรม การบริการข้อมูลทางเทคโนดลยีวัสดุ สื่อสิ่งพิมพ์ และตำราวิชาการด้านวัสดุ

สำหรับผลงานเด่นตลอด 20 ปีของเอ็มเทคที่ รศ.ดร.ปริทรรศน์ยกตัวอย่าง เช่น วัสดุเคลือบหลุมร่องฟันชนิดฉายแสงซึ่งเป็นผลงานชิ้นแรกเอ็มเทคที่ใช้เพื่อป้องกันพันผุในเด็ก โดยมีราคาถูกกว่านำเข้าจากต่างประเทศ 40-50% และได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบริษัท เด็นเทค จำกัด นำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ภายใต้ชื่อทางการค้า “เดนการ์ด” ถ้วยครูซิเบิลอลูมินา ที่พัฒนาให้ทนต่อการใช้งานที่อุณหภูมิสูงถึง 1,700 องศาเซลเซียส คุณภาพเทียบเท่าถ้วยครูซิเบิลจากต่างประเทศและได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับภาคอุตสาหกรรมด้วย

“เทคโนโลยีฟิล์มบรรจุภัณฑ์แอคทีฟสำหรับยืดอายุผักและผลไม้สด ที่ช่วยลดการสูญเสียของผลิตผลสดได้ 15-30% ประเมินมูลค่าได้กว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี และยื่นสิทธิบัตรแล้ว หน่วยต้นแบบผลิไฟฟ้าจากเซลล์เชื้อเพลิงสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในบ้านและชุมชน ซึ่งเป็นงานเริ่มต้นพัฒนา ข้อดีของเซลล์เชื้อเพลิงคือเกิดจากการรวมของไฮโดรเจนและออกซิเจน ผลพลอยได้คือน้ำร้อนซึ่งช่วยลดมลภาวะได้ คาดว่าต้นปี 50 จะได้ต้นแบและจะขยายต่อยอดไปใช้ตามบ้านและชุมชน”

ผลงานดำเนินงานในปี 2549 ที่ผ่านมามีผลงานวิจัยโดยนักวิจัยเอ็มเทค 85 โครงการ มีการดำเนินงานด้านองค์ความรู้ 133 งาน ต้นแบบองค์ความรู้ที่พร้อมใช้ 27 งาน และมีผลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้รับสิทธิบัตรแล้ว 7 ผลงาน ทั้งนี้ตั้งเป้าว่าจะได้รับสิทธิบัตรปีละ 5-6 ชิ้นงาน โดยการยื่นขอสิทธิบัตรนั้นต้องใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี ส่วนปี 2550 นั้นเอ็มเทคจะผลักดันให้เกิดการส่งมอบผลงานที่มีผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม และจะมุ่งให้เกิดการรับจ้างวิจัยมากขึ้น เนื่องจาคาดความว่าช่วยเหลือจากภาครัฐจะลดลง

ทั้งนี้ ศ.ดร.ปริทรรศน์คาดว่า จะหารายได้เองจากการรับจ้างวิจัยและการให้บริการทางเทคนิคและการตรวจสอบ โดยตั้งเป้าให้ได้ 50 % ของรายจ่ายด้านบุคลากร ซึ่งปัจจุบันมีภาระที่ปีละ 90 ล้านบาท เป็นเงินเดือนและสวัสดิการ ทั้งนี้จะเริ่มจากการไต่รายได้จาก 5% ขึ้นไป 40 % ก่อน โดยอาศัยเครือข่ายความร่วมมือเพื่อให้เกิดงานบริการ


กำลังโหลดความคิดเห็น