เริ่มแล้ว “คาราวานวิทยาศาสตร์” โคราชประเดิมแห่งแรก

เริ่มแล้ว “คาราวานวิทยาศาสตร์” ตะลุยทั่วประเทศ ประเดิมโคราชที่แรก หวังเอาใจคอวิทย์ ดร.ประวิช ชี้ วิทยาศาสตร์จะไม่ใช่สำหรับคนเมืองหลวงเพียงผู้เดียวอีกต่อไป แต่จะขยายไปทุกที่ ระบุเป็นสิ่งที่ทำได้ทันที ชู 19 ต.ค. เป็นวันเทคโนโลยีแห่งชาติ เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดึงภาคธุรกิจต่อยอดสิ่งประดิษฐ์ฝีมือเยาวชนไทย

ดร.ประวิช รัตนเพียร รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เป็นประธานเปิดงานกิจกรรมคาราวานวิทยาศาสตร์ ณ ห้างเดอะมอลล์ จ. นครราชสีมา วานนี้ (18 ก.ย.) พร้อมกล่าวเปิดงานว่า จากการจัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ที่อิมแพค เมืองธานี ระหว่างวันที่ 23-28 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม ทำให้พื้นที่จัดงานกว่า 20,000 ตร.ม. ไม่เพียงพอต่อผู้ชมงานทั้งสิ้น 800,000 คน งานจึงค่อนข้างแออัดยัดเยียด จึงคิดได้ว่า งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ต้องเป็นงานที่เยาวชนต้องมีโอกาสสัมผัสกับแนวความคิดและสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ได้

“เกิดความรู้สึกและตกลงได้ทันทีว่า เราจำเป็นที่จะต้องหาวิธีการให้วิทยาศาสตร์ต้องไม่เป็นงานสำหรับคนกรุงเทพฯ หรือคนเมืองหลวงอีกต่อไปแล้ว ทำอย่างไรเราถึงจะทำให้มีรายการวิทยาศาสตร์ออกไปสู่ภูมิภาค อย่างน้อยที่สุดตามหัวเมืองใหญ่ๆ ได้ ทั้งหัวเมืองเหนือสุด ใต้สุด ตะวันออก ตะวันตก นี่คือสิ่งที่เราสามารถทำได้ในทันที” ดร.ประวิช กล่าว

รมว.วิทยาศาสตร์ ระบุอีกว่า ผู้ที่ได้รับมอบหมายงานคาราวานวิทยาศาสตร์โดยตรงคือองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ซึ่งจะต้องมีหน้าที่มากกว่าการตั้งของโชว์สิ่งประดิษฐ์ไว้เท่านั้น แต่ต้องทำให้เกิดการตระหนัก และความรู้สึกประทัปใจด้านวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กๆ ลูกหลาน เยาวชน และประชาชนทั่วประเทศ

ดร. ประวิช ระบุว่า ยังมีอีกหน่วยงานหนึ่งที่มีส่วนสำคัญคือ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งเป็นผู้รวบรวมนักวิทยาศาสตร์ระดับปริญญาเอกทุกด้านมารวมตัวกันเป็นอุทยานวิทยาศาสตร์ โดยมีนักวิทยาศาสตร์อย่างน้อย 400 –500 คน ทำงานวิจัยในด้านวิทยาศาสตร์เพื่อสร้างความเป็นเลิศด้านวิชาการ 4 ด้าน คือ เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีการศึกษา นาโนเทคโนโลยี และด้านวัสดุศาสตร์ นอกจากนี้ อีกภารกิจสำคัญของนักวิทยาศาสตร์ในอุทยานวิทยาศาสตร์คือ การจัดค่ายวิทยาศาสตร์ถาวรตามนโยบายของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ดร.ประวิช ยังได้กล่าวถึงเดือน ส.ค. ด้วยว่าเป็นเดือนแห่งวิทยาศาสตร์ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงนำประเทศไทยให้สามารถเคียงบ่าเคียงไหล่กับนานาประเทศได้

นอกจากนี้ในวันที่ 19 ต.ค. ที่จะถึงนี้ จะจัดให้เป็นงานวันเทคโนโลยีแห่งชาติ เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 องค์ปัจจุบัน ที่ทรงเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี และทรงเป็นผู้นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาให้กับประชาชนของพระองค์มาโดยตลอด ซึ่งงานจะจัดขึ้น ณ บางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว โดยจะมีการนำสิ่งประดิษฐ์จากเยาวชนไทยทั่วประเทศไปแสดง พร้อมกันนั้นก็จะนำภาคธุรกิจไปดูงานเพื่อเพิ่มช่องทางการต่อยอดธุรกิจต่อไปได้ด้วย

ด้านผู้เข้าร่วมงานคาราวานวิทยาศาสตร์ในวันนี้ พบว่า ในช่วงเช้ายังไม่ได้รับความสนใจมากเท่าที่ควร ทั้งนี้อาจเพราะเป็นวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แต่ละครอบครัวจะได้พักผ่อน อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน งานกิจกรรมดังกล่าวกลับได้รับความสนใจจากหลายครอบครัวที่พาลูกหลานมาเที่ยวชมงานมากขึ้นจนเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ กิจกรรมคาราวานวิทยาศาสตร์จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์แก่ผู้ที่สนใจ โดยเฉพาะผู้ที่พลาดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ และเป็นการสนับสนุนสร้างกระแสวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในสังคมไทย ซึ่งในงานจะประกอบด้วยละครวิทยาศาสตร์เรื่อง “เมื่อไอน์สไตน์พบยมบาล” ฝีมือการสร้างและกำกับโดยอาจารย์ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง หรือครูช่าง และยังมีกิจกรรมวิทยาศาสตร์ต่างๆ รวมถึงการตอบคำถามชิงทุนการศึกษา และการได้พบปะพูดคุยกับเยาวชนนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับเหรียญรางวัลทางวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจ

คาราวานวิทยาศาสตร์จะนำร่องใน 13 จังหวัดทั่วประเทศ เริ่มที่แรกที่ จ.นครราชสีมา และจะจัดต่อเนื่องไปยัง จ.อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ จันทบุรี นราธิวาส กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช และปราจีนบุรี เป็นจังหวัดสุดท้าย ในทุกๆ เสาร์ โดยคาดว่ากิจกรรมคาราวานวิทยาศาสตร์จะสิ้นสุดลงในราวปลายเดือน พ.ย.นี้