“อานันท์” เปิดตัวโครงการ “สานสัมพันธ์สู่สันติภาพ” หวังสร้างไทยเป็นฮับแห่งสันติ เหตุที่ได้รับเลือกเพราะเป็นแบบอย่างของประเทศที่อยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่างได้อย่างสันติ โดยเชิญนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล และผู้โด่งดังระดับโลกหลายสาขา ร่วมยกระดับวงการวิทย์ฯ และการศึกษาโดยไม่คิดค่าตัว ระบุสันติภาพเริ่มต้นจากจิตใจเราเอง พร้อมเชิญชวนทุกคนเปิดหู เปิดใจรับฟังความเห็นของผู้อื่น ด้าน “สุรยุทธ์” ย้ำสันติภาพมิได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน
วันนี้ (16 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. มูลนิธิสันติภาพนานาชาติ (International Peace Foundation) ได้เปิดตัวโครงการ “สานสัมพันธ์สู่สันติวัฒนธรรม” (Bridges) ภาคที่ 2 ณ โรงแรมดุสิตธานี โดยมีนายอานันท์ ปันยารชุน ประธานกิตติมศักดิ์คณะกรรมการที่ปรึกษาฝ่ายไทยของโครงการฯ เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดตัวครั้งนี้ พร้อมด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลลานนท์ องคมนตรีและประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาฝ่ายไทยของโครงการฯ
นายอานันท์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้จัดโครงการภาคแรกขึ้นในเดือน พ.ย.46 - เม.ย.47 และมีกิจกรรมมากกว่า 100 ครั้ง โดยได้รับเกียรติจากผู้ได้รับรางวัลโนเบล 10 ท่าน รวมทั้งผู้มีชื่อเสียงจากสาขาต่างๆ และศิลปินชั้นนำของโลก อาทิ สาธุคุณเจสซี แจ็คสัน, ศาสตราจารย์มาร์เซีย ไฮเด, อิสวาเอล อีโว และ ดร.คาราน ซิงห์ เป็นต้น ที่ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมโดยปฏิเสธการรับค่าตอบแทนใดๆ ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่งการเสวนาและความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ นายอานันท์ยังได้กล่าวแทนมูลนิธิฯ และผู้มีส่วนร่วมในโครงการว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้เสด็จ มาทรงเป็นองค์ประธานและทรงร่วมฟังปาฐกถาพิเศษหลายครั้ง อีกทั้งกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นมีผู้เข้าร่วมกว่า 30,000 คน นับว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง นอกจากนี้เขายังได้กล่าวถึงการแสดงคอนเสิร์ตของ เจสซี นอร์แมน ศิลปินนักร้องโอเปราที่มีชื่อเสียงของโลกว่า เป็นกิจกรรมสุดท้ายที่ปิดโครงการ “สานสัมพันธ์สู่สันติวัฒนธรรม” ในภาคแรกได้อย่างงดงาม
“ความหลากหลายของกิจกรรมต่างๆ ในงานนี้ สะท้อนให้เห็นว่าสันติภาพเกี่ยวข้องกับทุกหน่วยในสังคม ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง คนในวงการธุรกิจ นักวิทยาศาสตร์ ศิลปิน หรือสื่อมวลชนก็ตาม ต่างก็มีความตระหนักและหน้าที่รับผิดชอบต่อการสร้างสันติในสังคมเช่นกัน และไม่ว่าจะเป็นสันติภาพ ในตัวเราเอง ในครอบครัว หรือ รอบๆ ตัวเรา เริ่มต้นจากจิตใจของเราเอง จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้น” นายอานันท์กล่าว พร้อมทั้งเชิญชวนให้ทุกคนร่วมสร้างสันติภาพด้วยการเปิดหู เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ร่วมมือกันในรูปแบบที่สร้างสรรค์เพื่อนำเราไปสู่โลกใหม่ที่สามารถเข้าใจกันและกัน และเข้าใจความซับซ้อนที่เราเผชิญอยู่ได้อย่างถ่องแท้
นอกจากนี้ ในระหว่างแถลงข่าวทางมูลนิธิฯ ถูกตั้งคำถามว่าจะมีบทบาทอย่างไรในการแก้ปัญหาสถานการณ์ภาคใต้ ซึ่งนายอานันท์ก็ได้ตอบว่า โครงการของมูลนิธิฯ นี้ก่อตั้งก่อนที่จะเกิดความรุนแรงดังกล่าวขึ้น อีกทั้งมูลนิธิไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่จะแก้ปัญหาสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งโดยเฉพาะ แต่มุ่งสร้างรากฐานสันติภาพอันยั่งยืนจากการศึกษา นายอานันท์ยังเน้นอีกว่าการศึกษาจะสร้างให้คนเกิดวิถีคิดอันชาญฉลาด ลดปัญหาความรุนแรง ความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน อันจะนำไปสู่สันติภาพที่มั่นคงได้
ด้าน พล.อ.สุรยุทธ์ เปิดเผยถึงแนวทางการสร้างสันติว่า มิอาจบรรลุผลได้ในเวลาอันสั้นหากแต่ต้องการเวลา จึงไม่ได้จัดกิจกรรมขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่ได้เชิญผู้ได้รับรางวัลโนเบลมาร่วมกิจกรรมกับผู้นำไทยทุกสาขาและประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ได้รับรางวัลโนเบลและผู้มีชื่อเสียงท่านอื่นๆ ได้ให้สัญญาว่า หลังจากสิ้นสุดโครงการนี้แล้วก็จะยังเดินทางมาเยือนประเทศไทยอีกเป็นประจำ เพื่อสานสัมพันธ์กับสถาบันต่างๆ และประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง พลเอกสุรยุทธ์ยังกล่าวเชิญชวนให้ทุกคนร่วมสร้างวัฒนธรรมแห่งสันติจากการสานเสวนา ซึ่งจะเกิดวัฒนธรรมดังกล่าวได้ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกคน
นอกจากนี้ นายอูเว โมราเวทซ์ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิสันติภาพฯ ได้กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโอกาสอันดีสำหรับวงการการศึกษาและวิทยาศาสตร์ของไทย ที่จะได้มีส่วนร่วมกับผู้ได้รับรางวัลโนเบลทั้งหมด 28 ท่าน ที่ร่วมกิจกรรมทั้งในภาคแรกและจะเข้าร่วมกิจกรรมในภาคที่ 2 นี้ ซึ่งรวมผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆ ทั้งสันติภาพ ฟิสิกส์ เคมี การแพทย์ วรรณกรรมและเศรษฐศาสตร์ นายอูเวกล่าวว่าเหตุผลที่ทำให้ไทยได้รับการส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางแห่งการเสวนาเพราะ คนไทยมีวิธีการพิเศษที่จะสร้างและรักษาสันติภาพ ยอมรับความแตกต่างแทนที่จะต่อต้าน และยอมรับซึ่งกันและกัน ทั้งความเชื่อและศาสนาที่ต่างออกไป
โครงการ “สานสัมพันธ์สู่สันติวัฒนธรรม” (Bridges) จัดขึ้นโดยมูลนิธิสันติภาพนานาชาติ ซึ่งเป็นความร่วมมือในระดับสากล จากองค์กรชั้นนำระดับประเทศและนานาประเทศ รวมถึงสถาบันและวิสาหกิจในประเทศไทย โดยทางมูลนิธิสันติภาพฯ จะทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับผู้ได้รับรางวัลโนเบล ผู้มีชื่อเสียงในสาขาต่างๆ และศิลปินชั้นนำของโลก ให้เดินทางมาร่วมกิจกรรมที่ทางมูลนิธิฯ จัดขึ้น และครั้งนี้เป็นโครงการภาคสุดท้ายที่จะจัดขึ้นระหว่างเดือน ธ.ค.47 - เม.ย.48
สำหรับนักวิทยาศาสตร์และบุคคลผู้โด่งดังที่ยินดีเข้าร่วมปาฐกถาและกิจกรรมต่างๆ ในประเทศไทยครั้งนี้มีจำนวนมาก อาทิ โคลด โคเฮน-ทันนุดจิ นักฟิสิกส์รางวัลโนเบลซึ่งจะแสดงปาฐกถาในเรื่อง “การจัดแจงอะตอมด้วยแสง”, เคิร์ท วุทริช ผู้ได้รับรางวัลสาขาเคมี จะแสดงปาฐกถาในเรื่อง “โครงสร้างโมเลกุลแห่งชีวิต: ผลกระทบที่มีต่อการวิจัยด้านชีวแพทย์ยุคใหม่”, ฮานส์ บลิกซ์ อดีตหัวหน้าคณะตรวจสอบอาวุธขององค์การสหประชาชาติในอิรัก จะปาฐกถาในเรื่อง “สันติภาพและการลดอาวุธ-อนาคตหลังอิรัก”และ บูโตรส-บูโตรส กาลี อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ จะแสดงปาฐกถาเรื่อง “การปฏิรูปองค์การสหประชาชาติ” เป็นต้น และสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.peace-foundation.net หรือ โทร 0-2632-8300-7 ต่อ 42