"อรรถวิชช์" แจงปมไวรัล "คุกอัซคาบัน" ยันนโยบาย "คุกกลางทะเล" รทสช. ไม่ใช่เรื่องแฟนตาซี แต่คือของจริง! เปลี่ยนแท่นขุดเจาะร้างขังนักโทษยาเสพติด
วันนี้ (29ธ.ค.) จากกระแสฮือฮาในโลกโซเชียลมีเดียที่มีการแชร์และวิพากษ์วิจารณ์ถึงนโยบาย "คุกกลางทะเล" ของพรรครวมไทยสร้างชาติ จนกลายเป็นไวรัลเปรียบเทียบว่าเหมือนจะเนรมิต "คุกอัซคาบัน" จากภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาไว้ในเมืองไทยนั้น
.
ล่าสุด นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออกมาชี้แจงถึงเบื้องลึกของแนวคิดดังกล่าว โดยยืนยันว่า นโยบายนี้ไม่ใช่เรื่องแฟนตาซีเหมือนในภาพยนตร์ แต่เป็นการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่จริงให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยทางพรรคมีแผนที่จะนำ "แท่นขุดเจาะน้ำมันกลางอ่าวไทย" ที่หมดสัญญาสัมปทานและถูกทิ้งร้าง ซึ่งเดิมมีการลงทุนก่อสร้างไว้มูลค่าหลายพันล้านบาท มาปรับปรุงเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง
.
"เราต้องยอมรับความจริงว่า ปัจจุบันเรือนจำปกติ ก็ยังไม่สามารถต้านทานอำนาจเงินของกลุ่มทุนเทาได้ ยังมีการลักลอบใช้โทรศัพท์มือถือสั่งยา สั่งงานออกมาข้างนอก หรือแม้แต่การนำผู้หญิงเข้าไปข้างใน แต่สำหรับคุกกลางทะเล ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะทะเลคือกำแพงธรรมชาติที่ดีที่สุด" นายอรรถวิชช์ กล่าว
.
รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ขยายความถึงจุดเด่นของนโยบายนี้ใน 3 ประเด็นหลัก:
1. เป็นแดนแรกรับคดียาเสพติด: แยกนักโทษกลุ่มนี้ออกจากนักโทษคดีอื่น เพื่อป้องกันการสร้างเครือข่ายใหม่ในคุก
2. ตัดขาดการสื่อสาร 100%: พื้นที่กลางทะเลไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ทำให้นักโทษไม่สามารถติดต่อสั่งการเครือข่ายภายนอกได้
3. ยากต่อการเข้าถึงและแทรกแซง: การเข้าเยี่ยมต้องเดินทางด้วยเรือเท่านั้น ซึ่งควบคุมได้ง่ายและลดโอกาสการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้าไป
.
นายอรรถวิชช์ ยังย้ำถึงความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติว่า นโยบายนี้สามารถทำได้จริงและทำได้ทันที เนื่องจาก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคฯ มีประสบการณ์เคยดำรงตำแหน่งทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จึงมีความเข้าใจลึกซึ้งในระเบียบกฎหมายและกลไกของทั้งสองกระทรวง เป็นเครื่องการันตีว่านโยบายนี้จะไม่ใช่แค่ความฝัน แต่จะเป็นมาตรการปราบปรามยาเสพติดที่เห็นผลเป็นรูปธรรม
.
"นี่คือการนำสินทรัพย์ที่เหลือใช้จากการสำรวจพลังงาน มาสร้างความยุติธรรมคืนสู่สังคม พรรครวมไทยสร้างชาติ (เบอร์ 6) พร้อมแล้วที่จะสังคายนาระบบราชทัณฑ์ เพื่อล้างบางขบวนการยาเสพติดให้สิ้นซาก" นายอรรถวิชช์ ทิ้งท้าย


