“อนุทิน” เผย พบทูตพิเศษจีน ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ ยัน สันติภาพจะเกิดขึ้นได้ต้องทำตามจุดยืนไทย ขอ ปชช.ชายแดนอยู่ศูนย์พักพิง ให้แนวหน้าปกป้องอธิปไตยไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง รับเห็นใจพร้อมเยียวยา อาสา ชรบ. ร่วมปฎิบัติหน้าที่ ย้ำ ไม่ปล่อยให้รบไปเรื่อยๆ กองทัพรู้ว่าต้องทำอย่างไร
วันนี้ (22 ธ.ค.) เวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าพบของ นายเติ้ง ซีจวิน (H.E. Mr. Deng Xijun) เอกอัครราชทูต และผู้แทนพิเศษด้านกิจการเอเชีย กระทรวงการต่างประเทศจีน ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า มีการหารือในเรื่องของความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งทางทูตพิเศษของจีนได้ไปพบทางฝ่ายกัมพูชามาแล้ว ค่อยมาพบกับทางเรา ในรายละเอียดคือความที่จีนดำรงสถานะประเทศที่เป็นกลาง ไม่อยากเห็นความขัดแย้งในภูมิภาคนี้
ส่วนท่าทีของจีนนั้น นายกรัฐมนตรี เผยว่า ไม่ได้มาบอกให้เราตกลงหรือทำอะไร แค่บอกว่าอยากให้มีการสร้างสันติภาพ ซึ่งไทยเรามีจุดยืนชัดเจนอยู่แล้วว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของประเทศไทย แต่ขออนุญาตไม่นำรายละเอียดมาเปิดเผย เพราะเป็นเรื่องการพูดคุยระหว่างตัวแทนของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องที่เรารับทราบสถานะมีจุดยืน และแนวทางไม่มีอะไรที่เป็นเซอร์ไพรส์
เมื่อถามว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องการจะบอกอะไรกับประชาชนที่มีความเป็นห่วงเรื่องการสู้รบในตอนนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กองทัพไทยทำการปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างสุดความสามารถ ทุ่มเทเสียสละ เป้าหมายที่กองทัพไทยได้คาดการณ์ไว้ ได้วางแผนปฏิบัติการ เรามีต้นทุนที่เสียไป แต่เป้าหมายยังคงอยู่ ยังดำรงอยู่ ขอให้ประชาชนเป็นกำลังใจให้กับนักรบ แนวหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท ด้วยความเสียสละ ไม่มีความเกรงกลัวอันตรายใดๆ ขอให้คำยืนยันว่า ตนลงพื้นที่ชายแดนหลายครั้ง และยังเห็นประชาชนในแถบนั้นให้กำลังใจกับบรรดาทหาร เจ้าหน้าที่ที่ปกป้องแผ่นดินของเราอยู่ และยังให้ความร่วมมืออยู่ในสถานที่พักพิงที่เราจัดไว้ เพื่อความปลอดภัยของพวกเขา ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารสามารถปฏิบัติการโดยไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง
เมื่อถามว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จะมีประเด็นนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กำลังประชุมอยู่ที่มาเลเซีย คืนนี้กลับมาตนขอรับฟังรายงานก่อน
เมื่อถามว่า แนวทางจากที่ประชุม สมช. ให้ยืนยันจุดยืนอะไรบ้าง นายกรัฐมนครี ยืนยันว่า “ปัญหาของไทย-กัมพูชาเป็นปัญหาทวิภาคี”
เมื่อถามว่า การที่ประชาชนส่วนมากต้องการที่จะกลับเข้าไปที่บ้าน ทั้งที่สถานการณ์ตอนนี้ยังมีการสู้รบกันอยู่ จะทำอย่างไรให้เขารู้สึกว่ายังคงต้องอยู่ที่ศูนย์อพยพ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ไม่ว่าจะผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รัฐมนตรี ใครที่ลงพื้นที่ก็ไปให้ขวัญกำลังใจ ให้ประชาชนเหล่านั้นได้รับทราบว่าการที่มาอยู่ที่นี่คือสิ่งที่ปลอดภัยสูงสุดสำหรับเขาและครอบครัวสูงสุด ไม่ทำให้ผู้ที่ปกป้องอธิปไตยปกป้องแผ่นดินต้องกังวล ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับครอบครัว ให้เหตุผลทุกอย่าง แต่ในขณะเดียวกัน เราไม่ได้ปล่อยให้เหตุเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ กองทัพก็ทราบดีว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรให้สถานการณ์กลับมาคืนสู่สภาวะปกติ
เมื่อถามว่า กลุ่มอาสาสมัคร ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) รัฐบาลจะดูแลหรือเยียวยาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า รัฐบาลเยียวยาอยู่แล้ว รอบที่แล้วก็เยียวยาประชาชน ไม่ใช่ประเด็นยังไงก็ต้องเยียวยา เรื่องนี้รัฐบาลพร้อมที่จะเสนอการใช้งบกลางในส่วนนี้กับ กกต. ได้พิจารณา มั่นใจว่าคณะกรรมการ กกต. เข้าใจถึงสภาพความจำเป็น
นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะพูดถึงรายละเอียด ผลการประชุมของ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในวันนี้ด้วย โดยกล่าวเพียงว่า สามเหล่าทัพ ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ไปเรียบร้อยแล้ว


