บทสรุปคดีดัง “บอส อยู่วิทยา” ศาลพิจารณาแล้วไม่รับฟังความเร็ว 177 กม./ชม. ระบุมีความคลาดเคลื่อนสูงและขัดแย้งพยานหลักฐานอื่น โดยให้ยึดตามความเห็น 3 ผู้เชี่ยวชาญที่ระบุตรงกันว่า รถวิ่งเพียง 76-80 กม./ชม. พร้อมแนะบทเรียนระบบพิสูจน์หลักฐานต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี “บอส อยู่วิทยา” ซึ่งมีประเด็นสำคัญเรื่อง “ความเร็วของรถ” ที่สังคมให้ความสนใจมาอย่างยาวนาน ล่าสุดมีความชัดเจนในทางคดีแล้ว เมื่อศาลพิจารณาพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และมีความเห็นให้ยึดถือตัวเลขความเร็วรถเฟอร์รารี่ขณะเกิดเหตุอยู่ที่ ไม่เกิน 80 กม./ชม.
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลในสำนวนคดี พบว่ามีความเห็นเรื่องความเร็วแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกจาก 3 ผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญจราจรกลาง, ผู้เชี่ยวชาญของศาล และ ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมยานยนต์ ซึ่งทั้ง 3 ฝ่ายวิเคราะห์ตรงกันว่าความเร็วรถอยู่ที่ช่วง 76–80 กม./ชม. ในขณะที่ข้อมูลอีกส่วนหนึ่งจาก พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ระบุตัวเลขสูงถึง 177 กม./ชม. ทำให้เกิดข้อโต้แย้งในคดี
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการพิจารณาอย่างละเอียด ศาลเห็นว่าตัวเลข 177 กม./ชม. นั้น “ไม่น่าเชื่อถือ” เนื่องจากการคำนวณมีความคลาดเคลื่อนสูง เนื่องจาก จนท.พิสูจน์หลักฐานเพิ่งตรวจความเร็วโดยใช้กล้องวงจรปิดในคดีนี้เป็นคดีแรก และมีการกลับความเห็นไปมาหลายครั้ง ซึ่งอาจเกิดจากความไม่เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ ยังมีการใช้คลิปที่ไม่ใช่ต้นฉบับ ไปจนถึงการคำนวณเวลาที่ทำให้ตัวเลขสุดท้ายสูงเกินจริงอย่างมาก ไม่สอดคล้องกับพยานหลักฐานแวดล้อมอื่นๆในที่เกิดเหตุ จึงมีน้ำหนักน้อยกว่าข้อมูลของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแรกที่ระบุไว้ในช่วง 76–80 กม./ชม. ก่อนที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานรายเดิมจะกลับคำภายหลังว่า ความเร็วจริงคือ 79.22 กม./ชม. ใกล้เคียงกับผลแรกสุดของจราจรกลาง
กรณีศึกษาจากคดีนี้ สะท้อนให้เห็นความสำคัญของมาตรฐานกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะระบบพิสูจน์หลักฐานที่ต้องมีความแม่นยำและโปร่งใส จึงมีการเสนอให้สร้างกลไกการตรวจสอบซ้ำ (Double Check) และเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายมีส่วนร่วม เพื่อป้องกันความผิดพลาดและการใช้ดุลยพินิจที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน


