พนักงานไทยพีบีเอสร้อง ป.ป.ช.แฉผู้บริหารใช้รถหลวงไปงานส่วนตัวใช้ทั้งที่มีค่ารถประจําตําแหน่ง 27,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ ล่าสุดมีการต่ออายุผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งๆ ที่เสียงคัดค้านในบอร์ดและงดออกเสียง 5 จาก 9 แต่ดื้อแพ่งต่อสัญญาเงินเดือนอู้ฟู่ 270,000 บาทต่อเดือน มากกว่ารอง ผอ. แต่มอบหมายดูแลหน่วยงานเดียว
รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานไทยพีบีเอสองค์กรสื่อสาธารณะได้ทําหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)และคณะกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย(กนย.)กรณีผู้บริหารระดับสูงกระทำการอาจเข้าข่ายทุจริตประพฤติมิชอบโดยการเบิกรถยานพาหนะขององค์กร(รถหลวง)ไปใช้ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ดํารงตําแหน่ง
นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ตําแหน่ง ผู้อํานวยการสํานักข่าว ได้ใช้รถยนต์ของทางราชการ หรือรถหลวงและน้ํามันรถหลวง ไปในงานภารกิจส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ โดยการใช้ ตําแหน่งหน้าที่ของตนเองในการอนุมัติใช้รถหลวง รวมถึงยังมีการใช้อํานาจในทางมิชอบเอื้อประโยชน์ในการ อนุมัติรถหลวงให้บุคคลอื่นใช้ ทั้งในภารกิจส่วนตัวและภารกิจที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับงานข่าวจํานวนหลายต่อหลายครั้งโดยไม่มีผลการปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรมว่าเกิดประโยชน์อย่างไรต่อองค์กร เช่นการใช้รถหลวงไปในภารกิจส่วนนตัวเมื่อวันที่หมายงาน 02/10/2568 เวลา 11:52 น.เพื่อไปรับส่งสนามบิน บน.6 ในการไปงานอบรมที่ไม่ เกี่ยวข้องกับหน้าที่ นอกจากนี้ยังมีการอ้างไปพบแหล่งข่าวหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะการไปพบพร้อมกับนายเทพชัย หย่อง ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ โดยไม่มีผลการปฏิบัติงานหรือรายงานกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใดว่า เกิดประโยชน์ใดต่อสาธารณะ ยิ่งไปกว่านั้นนายก่อเขต ที่มีตําแหน่งผู้อํานวยการสํานักข่าวที่มีค่าตอบแทน “Car Allowance” อยู่แล้วจํานวน 27,000 บาทต่อเดือน เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่แต่กลับยังใช้รถหลวงไปในภารกิจส่วนตัว
ในส่วนของนายเทพชัย หย่อง ยังพบพฤติกรรมว่า มีการนํารถหลวงไปรับส่งแขกในรายการของตัวเองทั้งๆ ที่มีค่าตอบแทนให้กับแขกของรายการอยู่แล้วด้วยในวันที่หมายงาน 28/02/2567 เวลา 17:00 น. เลขที่หมายงาน N-67-02-0962 “ขอรถรับส่งแขกคุณเทพชัยแขกรายการฯ”
นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารระดับสูงอีกหนึ่งรายคือ นางสาวจิตติมา บ้านสร้าง รองผู้อํานวยการสํานักข่าว ด้านบริหาร ที่ได้รับตําแหน่งดังกล่าว ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบพฤติกรรมยังเบิกใช้รถหลวงไปใช้ในงานส่วนตัว รับส่งสนามบินอยู่บ่อยครั้งเช่นเดียวกันทั้งๆ ที่มีค่ารถประจําตําแหน่งเช่นเดียวกันเดือนละ 15,000 บาทต่อเดือน
ร้อง กนย.แต่ไม่ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ทําแค่ให้ชี้แจงกลับ
รายงานข่าวแจ้งว่าหลังการร้องเรียนของพนักงานไทยพีบีเอสต่อ กนย. ในเดือนตุลาคม 2568 ปรากฏว่า กนย.มีมติให้ ผอ.ไทยพีบีเอส นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ดําเนินการสอบข้อเท็จจริง ต่อมานายวันชัยได้รายงาน ในที่ประชุม กนย.เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาโดยระบุว่าได้ให้บุคคลทั้งสองคือนายกอเขต และนางสาวจิตติ มาทํารายงานชี้แจ้งกลับมา ซึ่งนายวันชัยแจ้งต่อ กนย.ว่า ถือว่าได้ชี้แจ้งแล้ว แต่ กนย.หลายท่านได้ทักท้วงว่าควรมี การตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาอย่างเป็นทางการแต่ปรากฏว่า นายวันชัยกลับตอบ กนย.ท่านหนึ่งว่า “พี่ ต้องการอะไร” แต่ กนย.ยืนยันว่าควรดําเนินการตามระเบียบ แต่หาก ผอ.วันชัยยืนยันว่าตรวจสอบแล้วไม่ผิดระเบียบก็ขอให้ทําหนังสือรายงานกลับมาอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า กรณีของนางสาวจิตติมา ในหนังสือรายงานชี้แจงมีการระบุว่า “ใครๆ ก็ทํากัน” ซึ่ง กนย.บางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงให้เหตุผลเช่นนี้
ต่อสัญญาผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งที่เสียง 5 เสียงไม่เห็นด้วยและงดออกเสียง เงินเดือนสูงเฉียด 3 แสนแต่ดูแลหน่วยเดียว
แหล่งข่าวยังรายงานด้วยว่าในการประชุม กนย.ครั้งดังกล่าวยังมีการเสนอต่อสัญญา ผู้เชี่ยวชาญ นายเทพชัย หย่อง ทั้งๆ ที่ถูกระบุในหนังสือร้องเรียนว่ามีส่วนในการทุจริตใช้รถหลวง แต่ ผอ.วันชัยยืนยันจะขอต่อสัญญา ซึ่งทําให้ต้องมีการลงมติของ กนย. จํานวน 9 คน โดย กนย.3 คนไม่เห็นด้วย และอีก 2 คนงดออกเสียง ขณะที่ 3 คนเห็น ควรต่อสัญญา จนสุดท้ายประธาน กนย. นายแพทย์โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ขอใช้สิทธิ์และเห็นด้วยกับการต่อสัญญา ทําให้นายเทพชัยได้รับการต่อสัญญา ซึ่งทําให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของพนักงานว่า หากรวมเสียงที่ไม่เห็นด้วยและงดออกเสียงก็ 5 เสียงจึงไม่ควรต่อสัญญายิ่งไปกว่านั้นเงินเดือนที่สูงถึง 270,000 บาทต่อเดือนแต่กลับมอบหมายให้บริหารหน่วยงานเพียงสํานักเดียว และสูงกว่ารอง ผอ.ไทยพีบีเอส
อดีต กนย.เคยถูกร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช.กรณีใช้รถหลวง-เรื่องทุจริตภายในไทยพีเพียบแต่ถูกซุกเงียบ
อนึ่ง ก่อนหน้านี้เคยมีบอร์ดบริหารขององค์กรสื่อสาธารณะเคยถูกร้องเรียนในกรณีการเบิกรถไปใช้ด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันเรื่องดังกล่าวอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)
นอกจากนี้ที่ผ่านมาพนักงานไทยพีบีเอสได้พบการทุจริตร้องเรียนในหลายกรณีในองค์กรกระจายในสํานักต่างๆ เช่น ศูนย์ข่าวภูมิภาคที่มีพนักงานเบิกค่าล่วงเวลาของพนักงานมากถึง 300 ชั่วโมงต่อเดือน การสอบสวนพนักงานจํานวนหนึ่งในสํานักวิศวกรรมที่ทุจริตที่ค้างมาตั้งแต่ในสมัยผู้อํานวยการคนก่อนที่เคยมีผลการสอบสวนให้ไล่ออกมาแล้ว แต่ปัจจุบันยังคงไม่มีการดําเนินการและมีการรื้อผลการสอบสวนใหม่เมื่อ ผอ.คนใหม่เข้ามา
นอกจากนี้ที่ผ่านมาสาธารณะยังมีการตั้งคําถามอย่างมากต่อการใช้เงินภาษีประชาชน 2,000 ล้านบาทต่อปีว่าคุ้มค่าหรือไม่โดยเฉพาะการยกระดับสื่อสาธารณะให้เป็นที่ยอมรับเทียบเท่ากับสากลเช่น บีบีซี ได้ ทั้งที่ดําเนินการมาแล้วถึง 14 ปี


