หัวหน้าชพน. ชี้เลือกตั้ง 69 สุดดุเดือด การเมืองไทยเข้าสู่ยุค “สามขั้ว” แข่งขันจัดตั้งรัฐบาลเต็มรูปแบบ ชี้กติกาเลือกตั้ง–เวลาจำกัดจากการยุบสภากะทันหัน ทำพรรคเล็กเสียเปรียบหนัก มติพรรคชาติพัฒนาไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ (18 ธันวาคม 2568) เวลา 15.15 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนา เพื่อพิจารณาสถานการณ์การเมืองและทิศทางการเลือกตั้ง โดยภายหลังการประชุม นายสุวัจน์ได้แถลงมติพรรคว่า พรรคชาติพัฒนาจะไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2569
นายสุวัจน์ ระบุว่า สถานการณ์การเมืองในขณะนี้มีความเข้มข้นผิดปกติ นับตั้งแต่ปี 2531 เป็นต้นมา การเลือกตั้งของไทยมักเป็นการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ถึง 3 พรรค ส่งผลให้การเมืองเข้าสู่ลักษณะ “สามขั้ว” อย่างชัดเจน มีความดุเดือดสูง และมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างกว้างขวาง ทั้งจากบ้านใหญ่และบ้านเล็ก รวมถึงการย้ายพรรคของนักการเมืองจำนวนมาก สะท้อนว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มุ่งสู่ชัยชนะเพื่อจัดตั้งรัฐบาลเป็นหลัก ส่งผลให้พรรคการเมืองขนาดเล็กเสียเปรียบมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ นายสุวัจน์ ยังกล่าวถึงกติกาการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งปัจจุบัน ที่เอื้อให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้เปรียบ ขณะที่พรรคการเมืองขนาดเล็กเสียโอกาส โดยเฉพาะการไม่ได้รับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำให้ศักยภาพในการแข่งขันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
อีกปัจจัยสำคัญ คือ การยุบสภาที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันในช่วงเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้พรรคการเมืองมีเวลาจำกัดอย่างมาก ตั้งแต่ขั้นตอนการรับสมัครผู้สมัครในวันที่ 8 ไปจนถึงกระบวนการเตรียมงานในระดับจังหวัด ทำให้ทุกพรรคต้องทำงานแข่งกับเวลาอย่างหนัก
นายสุวัจน์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ของประเทศที่กำลังเผชิญกับวิกฤติรอบด้าน ทั้งความผันผวนของเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยี สงครามการค้า ปัญหาภาษี วิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยภายนอกและภายในที่รุมเร้าประเทศไทยในขณะนี้
จากเหตุผลทั้งหมดดังกล่าว ที่ประชุมจึงมีข้อสรุปว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและการเมืองที่เข้มแข็งเพียงพอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบการเมืองและประชาชน พรรคชาติพัฒนาจึงมีมติไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งนี้
ทั้งนี้ นายสุวัจน์ ระบุว่า อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคชาติพัฒนาในแต่ละพื้นที่ อาทิ จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดปราจีนบุรี ยังคงทำงานในพื้นที่อย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ส่วนการตัดสินใจทางการเมืองในอนาคตเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม แนวโน้มความเคลื่อนไหวของอดีต สส.หลายราย มีทิศทางจะย้ายไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย


