วันนี้ (17 ธ.ค.2568) ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน (คนช.) ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นายพัฒน์พงษ์ สมิตติพัฒน์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ ร่วมประชุมในฐานะฝ่ายเลขานุการฯ พร้อมด้วยกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคประชาชน ภาควิชาการ และองค์กรภาคประชาสังคมเข้าร่วมในการประชุม
สำหรับการประชุมครั้งนี้ ในที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการออกกฎหมายอนุบัญญัติภายใต้พระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วจำนวน 25 ฉบับ จากทั้งหมด ๒๙ ฉบับ ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญและเป็นกลไกหลักในการบริหารจัดการป่าชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยให้ชุมชนสามารถจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากป่าชุมชนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งเน้นการสร้างความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน โดยให้ชุมชนมีบทบาทเป็นแกนกลางของการจัดการทรัพยากรธรรมชาติในชุมชนของตนเอง ทั้งนี้ หนึ่งในประเด็นสำคัญของการประชุม ได้มีการนำเสนอรายงานผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ซึ่งชี้ให้เห็นว่ากฎหมายฉบับนี้ มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนท้องถิ่น ทั้งด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ รวมถึงสร้างรายได้จากการใช้ประโยชน์จากป่าได้อย่างเหมาะสม ทำให้เกิดประโยชน์เชิงเศรษฐกิจและสังคมต่อพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม โดยที่ประชุมได้มีการเสนอแนะและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น เพื่อจะนำไปสู่การปรับปรุงกฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับบริบทการบริหารจัดการป่าชุมชน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับฟังรายงานผลการดำเนินงานด้านป่าชุมชนในปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการและความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาป่าชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งหลายพื้นที่ได้รับการยกระดับพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีบทบาทสำคัญในการเป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่สามารถช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะช่วยรองรับเป้าหมายของประเทศด้านคาร์บอนต่ำและความยั่งยืน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาให้ความเห็นชอบบัญชีรายชื่อบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป่าชุมชนประจำจังหวัด ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนขับเคลื่อนงานด้านป่าชุมชนในระดับพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและชุมชน
นายนิพนธ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ป่าชุมชนเป็นรากฐานสำคัญของการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน เพราะเป็นการให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า การที่เรามีกฎหมายและกลไกที่ชัดเจน จะช่วยให้ชุมชนมีความมั่นใจและสามารถพัฒนาป่าชุมชนของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในมิติของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม พร้อมย้ำว่ากลไกการบริหารจัดการป่าชุมชนเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสำคัญของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม และเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องทรัพยากรป่าไม้ ช่วยลดการบุกรุก เพิ่มพื้นที่สีเขียว และสร้างฐานเศรษฐกิจท้องถิ่นที่ยั่งยืน อันจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีและความมั่นคงของทรัพยากรธรรมชาติของประเทศในระยะยาว


