xs
xsm
sm
md
lg

“กัณวีร์“ ยื่นลา “เป็นธรรม” เตรียมนั่งหัวหน้า “พลวัต” พร้อมแคนดิเดตนายกฯ เป้าหมายเดียวเป็นรัฐบาล พิสูจน์แล้วอยู่ฝ่ายค้านไม่เวิร์ค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“กัณวีร์ “ ยื่นใบลาออกจากพรรค “เป็นธรรม” เตรียมนั่งหัวหน้าพรรค “พลวัต” พร้อมแคนดิเดตนายก ประกาศเป็นรัฐบาลเท่านั้น ไม่ว่าใครเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล หลังพิสูจน์แล้วนั่งฝ่ายค้านไม่เวิร์ค สนใจนั่ง รมว.กต. แจ้งไม่เข้าพรรคส้ม เพราะอยากเป็นพรรคที่ปฏิบัติได้จริง

วันนี้ ( 12 ธ.ค.) นายกัณวีร์ สืบแสง อดีตสส.พรรคเป็นธรรม เดินทางไปยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเป็นธรรม ต่อ กกต. พร้อมให้สัมภาษณ์ว่ามาลาออกในวันนี้เพราะเลือกที่จะไปยื่นเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ ชื่อว่าพรรคพลวัต ซึ่งหลายคนอาจแปลกใจว่าทำไมถึงใช้ชื่อนี้ คำว่าพลวัตเป็นคำที่แปลกใหม่ จริงๆ เป็นการทำให้สังคมของเราเคลื่อนไปข้างหน้าได้ เพราะจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่า สังคมและการเมืองไทยหยุดนิ่ง มีการแบ่งฝักฝ่ายมีการแบ่งฝักฝ่าย ใช้การเมืองแบบเก่าๆ ไม่สามารถทำให้ประชาชนรู้สึกได้ว่านำผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นตัวตั้ง และเดินหน้าได้ และเกิดการยุบสภาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ซึ่งการรวมตัวของกลุ่มตนในฐานะพรรคพลวัต เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่มีอุดมการเดียวกัน เป็นนักปฎิบัติ โดยตนจะนั่งเป็นหัวหน้าพรรคและมีเพื่อนๆ มาร่วมกัน ซึ่งตอนนี้มีการจดทะเบียนพรรคการเมืองเรียบร้อยแล้วที่จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมที่จะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง

เมื่อถามถึงแนวทางการทำงานของพรรคพลวัต นายกัณวีร์ กล่าวว่า อยู่ในสภามา 2 ปีกว่า เห็นว่านโยบายและอุดมการณ์ต่างๆไม่สามารถปฏิบัติได้จริงๆ ในอุดมการณ์ที่ตนมี อย่างเรื่องประชาธิปไตย การกระจายอำนาจ หรือนโยบายทางด้านการเมืองต่างๆ ซึ่งมีลักษณะเหมือนนโยบายของพรรคการเมืองอื่น แต่สิ่งที่พรรคพลวัตจะทำคือเป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้จริงๆ เรามีนักปฎิบัติงานจริง เคยทำงานมาแล้ว จึงเอานักปฏิบัติเหล่านี้มาสร้างนโยบายเศรษฐกิจก็ไม่เคยทิ้ง โดยเฉพาะเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจที่ทำให้พี่น้องประชาชนเดินหน้าไปได้ อย่างเอสเอ็มอี ซึ่งต้องยอมรับว่าขณะนี้เราไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่เฉพาะในประเทศไทย หรือหมกมุ่นเฉพาะการเมืองในประเทศเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ว่าไม่สำคัญ แต่เราจำเป็นต้องมองภายนอกประเทศด้วย ตอนนี้โลกในศตวรรษที่ 21 ไปถึงไหนแล้ว แต่เรายังหยุดนิ่งอยู่กับที่ และถอยลง จึงเห็นว่าพอแล้วสำหรับการเมืองเก่าๆ การเมืองที่ทำให้เราไม่สามารถไปไหนได้ การเมืองที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ผิดคำสัตย์ คำมั่นสัญญาต่างๆ ที่ให้ไว้ และทำให้เราไม่สามารถทำให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในระบบการเมืองของประเทศไทย

ดังนั้นพรรคพลวัต จึงเป็นพรรคที่สามารถตอบโจทย์ ไม่ใช่พรรคทางเลือก แต่จะเป็นพรรคทางรอดของประเทศ นำพาประเทศไทยไปสู่จุดมุ่งหมาย ที่คนไทยทั่วประเทศได้ให้ความสำคัญเอาไว้


เมื่อถามว่าเป็นพรรคตั้งใหม่ขนากเล็กมั่นใจแค่ไหนในการสู้กับพรรคใหญ่ นายกัณวีร์ กล่าวว่ามั่นใจ เพราะจากที่ตนทำงานมา เป็นส.ส.หนึ่งเดียว และพรรคเล็กพรรคเดียวที่สามารถจะแสดงวิสัยทัศน์ อุดมการณ์แนวทางการทำงานอย่างแท้จริง ซึ่งจริงๆ การเสนอของตนไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้ เพราะตนเป็นฝ่ายค้าน ฉะนั้นมั่นใจว่า ถ้าสามารถนำอุดมการณ์ ความคิดและแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ประเทศไทยประสบมาสู่การนำไปแก้ไขจริงก็สามารถทำได้ ดังนั้นพรรคพลวัตของเราชัดเจนว่าจะเดินหน้าไปสู่การเป็นฝ่ายบริหาร ธงของเราคือการต้องร่วมกับฝ่ายบริหาร เพราะพี่น้องประชาชนรออยู่ การเป็นฝ่ายค้านอย่างเดียวไม่เพียงพอจริงๆ หรือเป็นฝ่ายบริหารที่ไม่มีวิสัยทัศน์อย่างแท้จริง ปัจจุบันเราก็เห็นได้จากสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อวาน ซึ่งตนสงบปากสงบคำ ไม่พูดถึงการเอา สสร. มาเป็นผู้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเห็นว่าสุดท้ายมันก็เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ สุดท้ายก็เป็นพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดไม่ใช่พรรคการเมืองที่มีแต่จะกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตน ไม่ได้เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ฉะนั้นนี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมตัดสินใจลาออกจากพรรคเป็นธรรม แล้วมาตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยไม่ร่วมกับพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น เพราะ 2 ปีเศษที่ผ่านมาไม่เห็นว่าพรรคการเมืองใดตอบโจทย์ของตนได้ อุดมการณ์ที่ตนมีหรือผู้ปฏิบัติงานในเวทีระหว่างประเทศ ก็ไม่เห็นว่าพรรคการเมืองไหนจะสามารถทำตรงนี้ได้ จึงมาตั้งพรรคการเมืองเล็กๆ พรรคหนึ่งและมั่นใจว่าจะสู้ได้ มั่นใจว่าพี่น้องประชาชนจะมองเห็น โดยจะมีอดีต สส. ชุดที่ 26 มาร่วมด้วย เป็นคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ทำงานและเป็นนักปฏิบัติจริงๆ จะไม่เอา สส.ที่แตกต่าง หรือไม่เคยปฏิบัติงาน มาร่วมกับพรรค

“หลายคนสงสัยว่าทำไมผมไม่ไปร่วมกับพรรคส้ม หรือพรรคประชาชน ซึ่งผมมองว่า ผมไม่อยากเป็นพรรคอุดมการณ์อย่างเดียว แต่อยากเป็นพรรคที่นำไปปฏิบัติจริงๆ และผมจะไม่มีการเมืองแบบเก่า ผมจะไม่เล่นเล่ห์กลทางการเมืองแบบสมัยก่อน และผมจะนั่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วย จึงมั่นใจในเรื่องการส่ง สส. ซึ่งเรากำหนดไว้อย่างน้อย 300 เขต”


เมื่อถามว่าจากเหตุการณ์วันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังการเลือกตั้ง ไม่ว่าพรรคไหนชนะการเลือกตั้ง ยังสามารถร่วมกับพรรคการเมืองอื่นๆได้หรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า สามารถ การทำงานร่วมกับการเมือง เราจำเป็นต้องเข้าไป ตนมองว่า รัฐบาลปัจจุบันพอไม่มีคนที่ปฏิบัติจริงเข้าไปเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ก็ใช้เรื่องเกี่ยวกับการเมืองต่างๆ แต่พรรคการเมืองของตนถ้าสามารถเข้าไปเป็นหนึ่งในรัฐบาลได้ ก็สามารถเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่สามารถจับต้องได้ ที่สามารถทำให้ประเทศเราก้าวพ้นข้ามผ่าน ดังนั้นย้ำว่าความคาดหวังของเรา คือการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้จุดที่จะใช้ในการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลก็คงต้องดูผลของการเลือกตั้งด้วย คนก็คงมองเห็น ว่าอุดมการณ์ทางการเมืองของเราค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย มีการพูดคุยกัน ในรายละเอียดการเข้าร่วมก่อน ถ้าหากมีบางข้อที่ไม่สามารถปรับให้เข้ากันได้ก็ต้องมีเงื่อนไขบางอย่าง เพราะต้องย้ำว่าเป้าหมายของเรา คือ เนื่องจากเราเป็นนักปฏิบัติถ้าเราไม่เข้า ก็ไม่สามารถปฏิบัติได้ แต่การร่วมก็ต้องมีเงื่อนไข
นายกัณวีร์ กล่าวว่า ยังย้ำว่าถึงจะเป็นพรรคเล็ก แต่ก็มั่นใจ วันที่เปิดตัวพรรค เปิดตัวผู้ร่วมอุดมการณ์ของพรรค จะเห็นว่าเขาทำงานอะไรได้บ้างและประสบความสำเร็จอะไรมาบ้าง โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ โดยตนจะเข้าไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรค ที่ทำการจังหวัดสุพรรณบุรี หลังจากนั้นจะมีการเปิดตัวที่กรุงเทพมหานครอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ นายกัณวีร์ ยังเปิดเผยว่าหากได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็สนใจที่จะนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องจากสถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบันมีอะไรที่จำเป็นจะต้องเชื่อมโยงกับต่างประเทศมาก และเป็นกระทรวงที่ไม่มีใครสนใจ
นายกัญญาวีร์ ยังได้อธิบายถึงสัญลักษณ์ของพรรคพลวัตซึ่งมีรูปร่างเหมือนตัว W แต่จริงๆ แล้วคือตัว พ.พาน มีสามขีด คือคลื่นสามคลื่น ที่จะพาประเทศไทยไม่หยุดนิ่ง ส่วนสีเขียวที่ใช้เพื่อแสดงความสด ความใหม่ ความหวังของประเทศไทยและของโลก โดยประเทศไทยสามารถกลายเป็นผู้นำในเวทีโลกได้ ทำให้ประเทศไทยเห็นว่าเรายังมีความหวัง การเมืองเก่าๆ จำเป็นจะต้องพิจารณาตัวเอง ถ้ายังอยากอยู่ในการเมืองของไทย ถ้าอยากเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนก็จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง พลวัตหรือมูฟปาร์ตี้คือสิ่งที่จะเดินหน้าต่อไป ว่าประเทศเราสามารถทำได้ จำเป็นต้องใช้คนใหม่ใหม่และหลักปฏิบัติจริงๆ ที่ทำงานในหลายส่วนมาเข้าร่วมกันซึ่งจะทำให้เห็นว่านักปฎิบัติของเรา คือใครสามารถทำอะไรได้บ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่สำนักงาน กกต.ตลอดทั้งวันมีสมาชิกพรรคการเมืองต่างๆ ทยอยเดินทางมายื่นหนังสือลาออกจากพรรคต้นสังกัด เพื่อไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เช่น นายโกศล ปัทมะ ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยจะไปสมัครเป็นสมาชิกที่พรรคภูมิใจไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น