รัฐสภาถกคุณสมบัติ กมธ.ร่างรธน.เดือด “วิทยา” ซัดกันนักการเมืองประสบการณ์เพียบ ไม่สมเหตุสมผล ขู่ยื่นศาลรธน. แต่ไร้ผลเสียงข้างมากผ่านม. 256/3 ขาดลอย "นันทนา" ชงห้ามผู้เอี่ยวรัฐประหารร่วมยกร่าง “ภราดร” ชี้ข้อห้ามขรก.อาจชนคุณสมบัติมาตราอื่น ทำต้องพักประชุมเคลียร์
วันนี้ (10ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมรัฐสภาได้พิจารณามาตรา 256/3 ว่าด้วยคุณสมบัติของคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดจึงต้องห้ามนักการเมืองที่ลาออกจากตำแหน่งในวันนี้ไปสมัครเป็น กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้ รวมถึงอดีตรัฐมนตรี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรืออดีตนายกเทศมนตรีที่พ้นตำแหน่งแล้ว เหตุใดต้องรอให้ครบ 5 ปี
นายวิทยา ระบุว่า หากตนหรือประธานสภาฯ ลาออกวันนี้แล้วสมัคร แต่กกต.ตีความว่าเป็น อดีต ส.ส. หรืออดีตรัฐมนตรี ที่ลาออกไม่ถึง 5 ปี ก็จะเข้าลักษณะต้องห้าม ทั้งที่ตนเป็นกรรมการสิทธิและเสรีภาพ สภาทนายความมา 7 ปี และทำงานทนายความมา 45 ปี มีคุณสมบัติครบถ้วน แต่กลับถูกกันไม่ให้สมัครเพียงเพราะประวัติทางการเมือง
นายวิทยาย้ำว่า หากไม่มีคำวินิจฉัยชัดเจนในวันนี้ ตนอาจยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพราะเห็นว่า เขียนกฎหมายขัดกันในตัวเอง ทำไมต้องกันนักการเมืองไม่ให้ไปสมัครเป็น กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งที่คนเลือก กมธ.ก็คือรัฐสภา ซึ่งมาจากรัฐธรรมนูญฉบับเดิมอยู่แล้ว หรือกลัวนักการเมืองจะไปร่างรัฐธรรมนูญเอื้อประโยชน์ตัวเอง ถ้ากลัวกันขนาดนั้น ก็อย่าแก้เลย อยู่เฉย ๆ ดีกว่า เพราะสุดท้ายก็ไม่พ้นรัฐสภาแห่งนี้
ด้านนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า ตนไม่ใช่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยืนยันว่ามาตรา 256/3 ถูกออกแบบให้เป็นประตูแรก ที่กำหนดคุณสมบัติพื้นฐานของผู้สมัคร ทั้งสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี วุฒิปริญญาตรีขึ้นไป รวมถึงคุณสมบัติด้านประสบการณ์ตาม (3) หากติดเงื่อนไขต้องห้ามข้อใดข้อหนึ่ง ก็ไม่สามารถเดินกระบวนการสมัครต่อได้
จากนั้นที่ประชุมลงมติผ่านมาตรา 256/3 ตามร่างกรรมาธิการเสียงข้างมาก ด้วยคะแนน เห็นชอบ 530 ไม่เห็นด้วย 30 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 5
ต่อมา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายมาตรา 256/4 ว่าด้วยบุคคลต้องห้ามโดยเสนอเพิ่มว่า ผู้สมัครต้องไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร เพราะการรัฐประหารเป็นการทำลายประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง เราจะให้คนที่ทำลายประชาธิปไตย มาร่างรัฐธรรมนูญเช่นนั้นหรือ กรรมาธิการ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจต่อการเปิดทางให้ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์กับระบอบประชาธิปไตยมาร่างกติกาของชาติ ทั้งที่หลายประเทศประชาธิปไตยต่างบอยคอตผู้เกี่ยวข้องรัฐประหาร และไทยก็ได้รับผลกระทบจากรัฐประหารอย่างหนักในอดีต
ด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายถึงข้อ (12) และ (13) ในมาตรา 256/4 ที่ห้ามผู้เป็นข้าราชการ พนักงานรัฐ หรือผู้ปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจสมัครเป็นกรรมาธิการ อาจขัดแย้งกับมาตรา 256/3 ซึ่งกำหนดว่าผู้สมัครต้องเป็นหรือเคยเป็นอาจารย์หรือผู้วิจัย ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานในหน่วยงานรัฐ จึงขอให้ประธานรัฐสภาทบทวน เพราะหากลงมติโดยไม่แก้ไข อาจก่อปัญหาในอนาคตได้
จากข้อทักท้วงของทั้งสองฝ่าย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา จึงสั่งพักประชุม 20 นาที เพื่อให้กรรมาธิการหารือและปรับความเข้าใจร่วมกัน ก่อนกลับเข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไป


