“จาตุรนต์” ชี้ สูตรเลือก กมธ.ร่างรธน. เปิดช่องพรรค–สว. จัดตั้งคนทำรธน. แนะเพิ่มสัดส่วนผู้เชี่ยวชาญ ปธ.กมธ. แจงเหตุจำเป็นต้องยึดกรอบคำวินิจฉัยศาลรธน. ก่อนเสียงข้างมากโหวตผ่าน
วันนี้ (10ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ในรมาตรา 256/2 ว่าด้วยขั้นตอนการสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ โดยกมธ.เสียงข้างมากเสนอให้ผู้ประสงค์สมัครต้องยื่นใบสมัครต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมหลักฐานการแสดงวิสัยทัศน์ และรายชื่อผู้สนับสนุนไม่น้อยกว่า 100 คน รวมถึงให้กกต.ส่งรายชื่อไปยังรัฐสภาเพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนตรวจสอบ โดยขั้นตอนทั้งหมดต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ประธานรัฐสภากำหนด
อย่างไรก็ตาม กมธ.เสียงข้างน้อย โดยเฉพาะจากพรรคเพื่อไทย ได้สงวนความเห็นให้แก้ไข เนื่องจากกังวลว่าหลักเกณฑ์ดังกล่าวอาจทำให้กระบวนการคัดเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญล้มเหลว และไม่สามารถเปิดกว้างต่อสาธารณะได้จริง
นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.เสียงข้างน้อย อภิปรายว่า แม้กลไกที่เสนอจะมองว่ามีผู้สมัครจำนวนมาก “นับหมื่นคน” แต่ด้วยความเป็นจริง พรรคการเมืองและ ส.ว. มักเตรียมบุคคลไว้แล้ว ทำให้ผู้สมัครจากประชาชนทั่วไปอาจมีจำนวนน้อย เพราะทราบผลล่วงหน้าว่าฝ่ายการเมืองจะเลือกใคร
“สูตร 20 หยิบ 1 ที่ตั้งใจคัดเลือกคนหลากหลายกลับเสี่ยงล้มเหลว เพราะประชาชนทั่วไปไม่เห็นความหมายที่จะไปสมัคร หากไม่ได้รับการทาบทามมาก่อน และท้ายที่สุดจะทำให้ทั้งกระบวนการซบเซา และคนทั้งประเทศไม่มีส่วนร่วมจริง“
นายจาตุรนต์ ยังเตือนเรื่องคุณภาพและความเชี่ยวชาญของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ โดยเสนอให้แบ่งสัดส่วนผู้ร่างเป็น 2 ส่วน คือ เลือกตั้งโดยประชาชน และรัฐสภาคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อให้เนื้อหามีมาตรฐานและรอบด้านพร้อม หากปล่อยให้เสียงข้างมากในรัฐสภากำกับทิศทางทั้งหมด อาจทำให้ร่างรัฐธรรมนูญขาดความหลากหลายและเป็นอิสระ”
ขณะที่ฝ่ายพรรคประชาชน โดยน.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายไม่เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ของกมธ.เสียงข้างมาก โดยมองว่าเป็นข้อจำกัดเชิงหลักการ และการเพิ่มสัดส่วนแต่งตั้งโดยรัฐสภาอาจสร้างความไม่ชอบธรรม ทำให้ประชาชนสูญเสียความเป็นเจ้าของกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกมธ. ชี้แจงว่า เนื้อหาที่เสนอทั้งหมดถูกพิจารณาภายใต้หลักการ “ต้องไม่เปิดช่องให้เกิดการส่งคำร้องตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญ” เพื่อไม่ให้กระบวนการล่าช้า
ทั้งการกำหนดผู้สนับสนุน 100 คน การแสดงวิสัยทัศน์ และการเปิดเผยข้อมูลผู้สมัคร ถือเป็นมาตรการเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมและตรวจสอบได้จริง พร้อมย้ำว่ามติของกมธ.เป็นไปตามบันทึกประชุมครั้งที่ 8 และ 9
ท้ายที่สุด ที่ประชุมรัฐสภามีมติเห็นชอบต่อร่างที่กมธ.เสียงข้างมากเสนอ ด้วยคะแนนเห็นด้วย 315 เสียง ไม่เห็นด้วย 255 เสียง


