สภาเริ่มถกร่างแก้รธน.60 กมธ.เผยกลไกทำรธน.ใหม่ชัดเจน ตั้ง กมธ.ร่างฯ–กมธ.รับฟังความเห็น รวม 70 คน ทำงานครบวงจร คาดใช้เวลากว่า 2 ปีเห็นรธน.ใหม่ เป้าใหญ่ “ปลดล็อคสู่รธน.ใหม่” และยันอำนาจสถาปนาเป็นของปชช. บนหลักกระจายอำนาจ–สิทธิเสรีภาพ–โครงสร้างการเมืองที่ตอบโจทย์ประเทศ
วันนี้ (10 ธ.ค. 68) ได้มีการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเป็นพิเศษ โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธาน ได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ…. ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาแล้วเสร็จ โดยนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ. รายงานผลการพิจารณาต่อที่ประชุม
นายณัฐวุฒิชี้แจงว่า กมธ.ได้พิจารณาแก้ไขเป็นไปตามหลักการของร่างแก้รัฐธรรมนูญ และสอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีข้อสรุปสำคัญ คือ การจัดทำกลไกยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้มี คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คน มาจากการคัดเลือกของรัฐสภาตามสูตร “20 หยิบ 1” มีหน้าที่จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เสร็จภายใน 360 วัน
กมธ.ยังปรับเปลี่ยน “สภาที่ปรึกษาการร่างรัฐธรรมนูญ” ให้เป็น “คณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ”จำนวน 35 คน ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูล ความเห็นประชาชนอย่างรอบด้าน และสื่อสารความคืบหน้าของการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยให้ ส.ส. ส.ว. ครม. และหน่วยงานต่างๆ ลงพื้นที่รับฟังเสียงประชาชนร่วมกัน
นายณัฐวุฒิรายงานว่า เมื่อคณะกรรมาธิการยกร่างฯ และคณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นทำงานเสร็จภายใน 360 วันแล้ว จะต้องส่งร่างกลับมายังรัฐสภาเพื่อดำเนินการ 2 ขั้นตอนใน 1 วาระ ได้แก่
(1) การอภิปรายโดยไม่ลงมติ เพื่อให้ กมธ.กลับไปปรับแก้ตามข้อเสนอแนะ
(2) ส่งร่างกลับให้รัฐสภาลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่
กมธ.ยังได้ปรับเนื้อหาและกรอบสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญใหม่ให้ครอบคลุมและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหลักการปกครอง โครงสร้างความสัมพันธ์ทางการเมือง กลไกตรวจสอบถ่วงดุล หลักนิติธรรม และกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเพิ่มเติม หลักการกระจายอำนาจท้องถิ่น และกำหนดให้ หมวด 1 ทั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ของรัฐธรรมนูญ 2560 ต้องบัญญัติไว้และไม่ให้แก้ไข
ส่วนบทเฉพาะกาล ได้ระบุให้การทำประชามติก่อนรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมมีผลบังคับใช้ ถือเป็นประชามติที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่เดินหน้าได้ทันทีหลังผ่านความเห็นชอบจากประชาชน
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา เพราะเป้าหมายคือการไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ ส่วนรายละเอียดด้านอื่น เช่น พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) หรือบทเฉพาะกาลที่เกี่ยวข้องกับสถานภาพของสมาชิกสภา จะเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาในอนาคตโดย กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ รัฐสภา และประชาชน
กมธ.ยังเปิดเผยว่า หากประเทศไทยได้รัฐธรรมนูญใหม่จริง อาจใช้เวลากว่า 2 ปีจึงจะแล้วเสร็จ โดยร่างแก้ไขครั้งนี้มี 8 มาตราหลัก และ 39 มาตราย่อย กมธ.แก้ไข 33 มาตรา ไม่แก้ 3 มาตรา ตัดออก 10 มาตรา และเพิ่มใหม่ 3 มาตรา ทำให้การลงมติรวมราว 50 ครั้ง
“ 10 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของไทย น่าจะเป็นหมุดหมายสำคัญในการ “เปิดประตูปลดล็อค” สู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อยืนยันอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญของประชาชน และจัดระเบียบทางการเมืองให้ตอบสนองต่อปัญหาประเทศ ทั้งสถานการณ์ชายแดน ปากท้อง ภัยพิบัติ เสถียรภาพการเมือง และสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของ กมธ. และรัฐสภา”นายณัฐวุฒิกล่าว


