ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ เปิดพฤติการณ์ “นานา ไรบีนา” จากพี่ใหญ่ "แก๊งนางฟ้า" สู่เจ้าของธุรกิจทิพย์!
สปอตไลต์ทุกดวง ยังตามส่องความเคลื่อนไหวของอดีต ดีเจ-ดาราสาว “นานา ไรบีนา” ที่กลายเป็นเคสสะเทือนวงการที่พาเอาเพื่อนสนิท "แก๊งนางฟ้า" เหยื่อร่วมลงทุน ไปจนถึงสามี อย่าง “เวย์ ไทเทเนียม” ถูกลากเข้าวงไปด้วยเต็มๆ
ฟังว่าเมื่อวาน (4 ธ.ค.) พนักงานสอบสวนคุมตัว “นานา ไรบีนา” ไปฝากขังที่ศาลอาญาในข้อหาทั้ง ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์, ร่วมกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ปลอมและใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา และพ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ
คำร้องฝากขัง ระบุความเสียหายรวมเฉพาะกลุ่มผู้กล่าวหาชุดนี้ราว 152.9 ล้านบาท
ขณะที่ข้อมูลฝั่งสอบสวนกลาง–สื่อบางสำนัก พูดถึงยอดรวมจากผู้เสียหายอย่างน้อย 17 คน ราว 190–195 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่มาในสเกล “สแกมเมอร์ดารา”
ตำรวจขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เพราะเหตุมูลค่าความเสียหายสูง คดีเป็นที่สนใจของประชาชน มีผู้เสียหายมาคัดค้านการประกัน เกรงจะหลบหนีและไม่ได้รับชดใช้
แต่สุดท้าย ศาลพิจารณารายงานประเมินความเสี่ยงแล้ว เห็นว่าผู้ต้องหาน่าจะไม่หลบหนี และไม่น่าก่อเหตุร้ายแรงอีก จึงอนุญาตให้ประกันตัววงเงิน 1 ล้านบาท พร้อมกำชับเงื่อนไขว่า ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลก่อนทุกครั้ง
ทีนี้จากคำร้องฝากขัง และข้อมูลของ ปอศ. ภาพรวม “แผนธุรกิจในฝัน” ของ "นานา" จะเห็นว่า เธอมีทั้ง ธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล ให้ดอกเบี้ยล่อใจ 4–7% ต่อเดือน
ตั้งแต่ ราวเดือนต.ค. 2565 นานา ถูกกล่าวหาว่า เดินเกมชวนคนใกล้ตัวลงทุน โดยอ้างว่าร่วมกับ “นางตาว” ปล่อยกู้รายใหญ่ มีตัวอย่างลูกหนี้ให้ดู เช่น เคส “บี” ยืม 5 ล้าน แล้วโชว์ตารางจ่ายผลตอบแทนแบบเป็นเดือนๆ
พร้อมเอกสารแผนการลงทุนให้ผู้เสียหายดูเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้หลายคนเชื่อว่า นานา "มีธุรกิจจริง” แล้วทยอยโอนเงินเข้าบัญชีที่มีชื่อ "นานา" เป็นเจ้าของถึง 4 บัญชี
ช่วงแรกเหยื่อยืนยันว่า ได้เงินผลตอบแทนตรงตามที่ตกลง ทำให้ตายใจ และเพิ่มเงินลงทุนเข้าไปอีกหลายรอบ
เรียกว่า เหมือนแชร์ที่ “จ่ายตรงงวดแรกๆ” เพื่อปูทางงวดหลังให้ตายใจ!!
ต่อมาจุดพีก คือ หยุดจ่าย อ้างบัญชีโดนอายัด และก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก
ราว ม.ค.–ก.พ. 2568 ฝั่งเหยื่อบอกว่า เงินปันผลกับเงินต้นเริ่มหาย พอโทรถาม "นานา" อ้างว่าบัญชีโดนอายัดโดยหน่วยงานรัฐ ... ขอเวลาเคลียร์
“นานา” ยืนยัน ว่า จะคืนทั้งหมดภายใน ต.ค.2568 ที่ผ่านมา
เพื่อสร้างความมั่นใจ “นานา” ออกเช็คธนาคารให้เหยื่อ แต่พอเอาไปเรียกเก็บจริง ธนาคารปฏิเสธจ่ายเพราะ เงินในบัญชีไม่เพียงพอ บางฉบับก็ใช้ไม่ได้เลย ตามเอกสารที่เหยื่อนำส่งตำรวจ
เหยื่อหลายรายเริ่มรู้สึกว่านี่ไม่ใช่แค่หมุนเงินไม่ทันแล้ว แต่น่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล!
มาถึง "เปิดหน้าไพ่" ธุรกิจทิพย์ 4–5 โปรเจกต์ของ นานา
จากข้อมูลฝั่ง ปอศ. และ รายงานข่าวพบว่า นอกเหนือจากปล่อยสินเชื่อ ยังมีดีลอื่นๆ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “ธุรกิจทิพย์" ที่เธออุปโลกน์ขึ้น เช่น ลงทุนปล่อยกู้–เทรดหุ้น
โดยอ้างมีคนในวงการเทรดหุ้นมืออาชีพสัญญาผลตอบแทนสูง แต่ว่าตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีการลงทุนจริง
สนามบาสเก็ตบอล–ธุรกิจกีฬา มีดีลสนามบาสเกตบอล อ้างผลตอบแทนสูงถึง 40% แต่ไม่ปรากฏหลักฐานการทำธุรกิจจริง
ต่อมาเป็น หุ้น บริษัท Never Say Cutz จำกัด นานา ถูกกล่าวหาว่าหลอกขาย “หุ้น Never Say Cutz” ทั้งที่หุ้นนั้นไม่ใช่ของนานาเอง ใช้วิธีอ้างว่าจะนำเงินไปลงทุนกับบุคคลที่เชี่ยวชาญ และเอากำไรมาแบ่ง มีการปลอมสลิป และเอกสารโอนหุ้น ให้เหยื่อดู เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ต่อมา ร้านอาหารใน–ต่างประเทศ โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา
มีข้อมูลว่า เพื่อนสนิทใน "แก๊งนางฟ้า" อย่าง "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ที่ถูกชวนลงทุนร้านอาหารในอเมริกา แต่สุดท้ายธุรกิจไม่เป็นไปตามที่อ้าง
ทั้งหมดนี้ ทำให้ภาพที่ออกมาวันนี้ คือ “คนใกล้ตัว–เพื่อนสนิท–ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ” รวมอย่างน้อย 17 ราย สูญเงินรวมเกือบ 200 ล้านบาท บางรายใช้คำว่า “เจ็บทั้งเงิน เจ็บทั้งใจ” แบบสองเด้ง!
“นานา” เองยังให้การ ปฏิเสธทุกข้อหา ในชั้นสอบสวน แต่ยอมรับในสาระว่า เงินบางส่วนได้นำมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว ไม่ได้นำไปลงทุนตามที่อ้างทุกกรณี ตามคำร้องฝากขัง และรายงานข่าวที่ศาลอาญาระบุไว้
งานนี้ "นานา" จึงถูกเปรียบเปรยจาก “พี่ใหญ่แก๊งนางฟ้า” สู่ “นางฟ้าตกจากสวรรค์”
ฝั่งเหยื่อที่ทยอยออกมาให้ข้อมูลกับสื่อ และตำรวจ ส่วนใหญ่เป็นคนวงในที่ ไว้ใจ "นานา" มาก่อน บางรายคือเพื่อนสนิท ระดับแก๊งนางฟ้า บางรายคือ น้อง ๆในวงการ และผู้ปกครองโรงเรียนนานาชาติที่เชื่อใน “เครดิตดารา” ว่าคงไม่กล้าเอาชื่อเสียงมาพังกับเรื่องเงินแบบนี้
ในโลกออนไลน์ คอมเมนต์ใต้เพจข่าวใหญ่ๆ มีทั้งกลุ่มที่ตำหนิแรงๆ ว่า นานานั้น “ฉลาด" หลอกคนไว้ใจ
กลุ่มที่ถามหาความรับผิดชอบ–การเยียวยาเหยื่อ และกลุ่มที่โยนคำถามต่อไปถึง “คนรอบข้าง” ว่ารู้หรือไม่รู้อะไรแค่ไหน !?
สะท้อนว่า ภาพลักษณ์แก๊งนางฟ้า "เพื่อนรัก–สายซัปพอร์ต” ที่เคยรักกันปานจะกลืน วันนี้วงแตกไปเรียบร้อย
ส่วนดรามาอีกฝั่ง "เวย์ ไทเทเนียม" หย่าหรือยัง? กับ "นานา" ทำไมไม่ไปเยี่ยมเมีย ?
มีรายงานว่า "ดีเจดาด้า" เพื่อนสนิท เคยเล่าว่า ได้ยินจากปากนานาว่า หย่ากับ “เวย์” ตั้งแต่ปีก่อนด้วยปัญหาธุรกิจ
ขณะที่เพจดัง อ้าง “ทนายสายหยุด” ว่า ทั้งคู่ยังไม่ได้หย่า ข่าวหย่าคลาดเคลื่อน จน "หนุ่ม กรรชัย" ยกหูโทรหา "เวย์"ตรงๆ แล้วเอามาเล่าในรายการซึ่ง "เวย์" ยืนยันว่า “ยังไม่ได้หย่า”
ส่วนดรามาทำไมไม่ไปเยี่ยม “นานา”ในวันที่ถูกควบคุมตัว “เวย์” อ้างว่า ฝั่งทนายของนานา เป็นคนแจ้งมาชัดว่า ฝากบอกเวย์ว่า ไม่ต้องมา ให้โฟกัสเรื่องลูก ไม่อยากให้เข้ามาในพื้นที่ตรงนี้
แปลไทยเป็นไทยก็คือ “เวย์” ถูกกันให้อยู่ในโซน“พ่อของลูก”
ด้านสำนวนคดี ตำรวจ–ทนาย ก็รีบเคลียร์เหมือนกันว่า ยังไม่พบเส้นทางเงินหรือทรัพย์สิน ที่โยงจากบัญชีธุรกรรม ที่ใช้ก่อคดีไปถึง "เวย์" โดยตรง รวมถึงอุปกรณ์อย่างฮาร์ดแวร์ วอลเล็ต ที่ตรวจยึดได้ ก็มีรายงานระบุว่า ไม่ใช่ของ “เวย์” ตามข้อมูลที่สื่อนำเสนอ
บทสรุปวันนี้ "นานา ไรบีนา" ได้ประกันวงเงิน 1 ล้าน ห้ามออกนอกประเทศ
คดีนี้ยังอีกยาว ทั้งในชั้นสอบสวนและในชั้นศาล สังคมจึงต้องรอฟัง... ติดตามกันต่อไป.
++ “เจ๊แดง” เยี่ยม “ทักษิณ” คุยลูกชาย เป็นแคนดิเดตนายกฯ ?!
บรรยากาศหลังกำแพงคุกคลองเปรม เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) คึกคัก เมามันกันสุดเหวี่ยง เมื่อ “เสก โลโซ” แห่งวงมีนบุรี และชาวคณะ จากเรือนจำพิเศษมีนบุรี มาเปิดเวทีคอนเสิร์ต ในโครงการสร้างพลังบวกหลังกำแพง ด้วยพลังแห่งดนตรี ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ตามนโยบาย ให้ผู้ต้องขังลดความวิตกกังวล ผ่อนคลายความเครียด
งานนี้ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เปรียบเหมือนเจ้าบ้าน ได้ขึ้นเวที รวมแจมไป 3 เพลง โดย 2 ใน 3 เพลง ก็มี “ใจสั่งมา” กับ “Let It Be...ช่างแม่มัน” ซึ่งเป็นเวอร์ชันประจำตัวทักษิณ
ระดับขาใหญ่ขึ้นเวที ผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ก็ลุกขึ้นเต้นกันอย่างสนุกสนาน ลืมทุกข์
และในวันเดียวกันนี้ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของ “ทักษิณ” ก็ได้มาขอเข้าเยี่ยมด้วย เมื่อออกมา เจอกับนักข่าวถามว่า “ทักษิณ” สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง “เจ๊แดง” บอกว่า ก็โอเคตามสถาพ ได้พูดคุยให้กำลังใจไป บอกว่าให้รักษาสุขภาพด้วย และวันนี้มีคอนเสิร์ต เสก โลโซ ก็ทราบจากผู้คุมว่า “ทักษิณ” ร้องไป 3 เพลง แบบว่า พอร้องเพลงแรกจบ มีเสียงเชียร์ว่า เอาอีก…เอาอีก!! ก็เลยจัดไป 3 เพลง
คุยเรื่องสุขภาพแล้ว ก็วกเข้าเรื่องการเมือง เพราะก่อนหน้านี้ มีการแพลมชื่อ “ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์” หรือ “ อาจารย์เชน” นักวิจัยด้านสมองและวิศวกรรมชีวการแพทย์ ซึ่งเป็นลูกชายของ “เจ๊แดง” ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย
“เจ๊แดง” ไม่ได้ปฏิเสธอะไร แต่บอกว่า เรื่องนี้แล้วแต่พรรคเพื่อไทย กับเจ้าตัว เพราะว่าลูกชายเขาก็เป็นตัวของตัวเอง มีครอบครัวแล้ว คิดเองได้ เขามีวุฒิภาวะพอ ถ้าลูกตัดสินใจมาทางนี้ คนเป็นพ่อ เป็นแม่ ก็ต้องเป็นกำลังใจให้อยู่แล้ว
ส่วนเรื่องสถานการณ์และภาพรวมของพรรคเพื่อไทยในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นอย่างไรนั้น “เจ๊แดง”บอกว่า ตนเองวางมือแล้ว เลยไม่ค่อยได้ไปสัมผัสเท่าไหร่ ส่วนมากจะอยู่ข้างนอก ไม่ค่อยได้รับรู้อะไร เป็นห่วงแต่ “ทักษิณ” อย่างเดียว ที่เข้าเยี่ยมครั้งนี้ ก็ไม่ได้คุยเรื่องการเมืองเลย
ตอนนี้ เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ที่เพื่อไทยจะต้องประกาศชื่อ แคนดิเดตนายกฯของพรรค และเมื่อถึงเวลานั้น จะมีชื่อ “อาจารย์เชน ยศชนัน” หรือไม่ ต้องติดตาม


