รมว.เกษตรฯ ประกาศสงครามยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก.ราชบุรี นายทุนไม่คืน เจอ ม.44 ยึดคืนทุกแปลง จัดสรรใหม่ให้เกษตรกร ขยายผลทั่วประเทศซัด ล้ง-ผู้รับซื้อมะพร้าว อย่าเอาเปรียบเกษตรกร จ่อใช้ไม้แข็งจัดการ
วันนี้ (21 พ.ย.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรฯ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,นายภูผา ลิกค์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ราชบุรี โดยมี สส.ราชบุรี พรรคกล้าธรรม อาทิ นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ รวมถึง นางกุลวลี นพอมรบดี สส.ราชบุรี และนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ให้การต้อนรับ
โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้เปิดปฏิบัติการ “Kick off” ขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) โดยมิชอบ ซึ่งถือเป็นการประกาศสงครามกับการถือครองที่ดินผิดกฎหมาย และเดินหน้าจัดสรรที่ดินคืนให้เกษตรกรผู้ยากไร้เป็นรูปธรรมครั้งใหญ่ในพื้นที่ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง โดยได้ปักป้ายประกาศแจ้งเตือนผู้ครอบครองที่ดินในเขต ส.ป.ก.พร้อมทั้งขับรถแบ็กโฮล้มต้นปาล์ม จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังสำนักงานเทศบาลตำบลด่านทับตะโก และที่ว่าการอำเภอบ้านคา เพื่อมอบโฉนดที่ดินและปัจจัยการผลิตให้เกษตรกร รวมจำนวนกว่า 800 ราย ถือเป็นการมอบสิทธิในที่ดินทำกินครั้งใหญ่ในจังหวัดราชบุรี
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวช่วงหนึ่งว่า จากการตรวจสอบของ ส.ป.ก.ราชบุรี พบพื้นที่ในตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง มีผู้ครอบครองที่ดินโดยมิชอบจำนวน 165 ราย 166 แปลง รวมกว่า 6,500 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ในโครงการป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี เดิมเป็นป่าสวนแห่งชาติ ก่อนส่งมอบให้ ส.ป.ก. เพื่อจัดสรรให้เกษตรกร แต่กลับถูกนายทุนบุกรุกถือครองเป็นเวลานาน ซึ่งขณะนี้ ส.ป.ก.ได้เพิกถอนสิทธิผู้ถือครองผิดกฎหมายแล้ว และเปิดให้ประชาชนผู้ยากไร้ยื่นขอจัดสรรที่ดินใหม่ มีผู้ยื่นคำขอกว่า 3,300 ราย ซึ่งเกินกว่าพื้นที่รองรับได้ คาดว่าระยะแรกจะจัดสรรให้เกษตรกรได้จำนวน 152 ราย รวมพื้นที่ 1,520 ไร่ โดยเกษตรกรจะเช่าที่ดินในอัตราไร่ละ 100 บาทต่อปี
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวย้ำว่า นี่คือ เป็นนโยบายของตนตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ และกลับมาคราวนี้ก็จะสานต่อนโยบายเก่าคือ ยึดคืนที่ดินที่เป็นของหลวงทุกคืนสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนำไปจัดสรรให้กับพี่น้องเกษตรกรที่มีปัญหาที่ทำกินทั่วประเทศ โครงการนี้ไม่ใช่เพียงเฉพาะที่ราชบุรี แต่ดำเนินการพร้อมกันใน 28 จังหวัดทั่วประเทศ และเป็นการเริ่มต้นปฏิบัติการที่จะขยายไปให้ครบ 72 จังหวัดทั่วประเทศตามเป้าหมาย
“ผมขอเตือนไปยังผู้ครอบครองผิดกฎหมายว่า หากไม่คืนที่ดินตามประกาศ จะถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ดังนััน คุยกันดีๆ คืนดีๆ ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่คืน จะใช้มาตรา 44 ที่ยังใช้ได้อยู่ ผมไม่ต้องเสียเวลาไปฟ้องร้อง ผมจะผลักดันให้จอมบึงเป็นเมืองต้นแบบ หรือ จอมบึงโมเดล สำหรับการปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ เกษตรกรจะมีที่ดินทำกิน มีแหล่งน้ำ มีอาชีพมั่นคง และมีที่อยู่อาศัยถาวร เป็นโครงการต้นแบบที่ต้องการขยายไปทั่วประเทศ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส ยังสั่งการให้กรมพัฒนาที่ดิน และกรมชลประทาน ลงพื้นที่วางแผนพัฒนาระบบน้ำ โครงสร้างพื้นฐาน และปรับปรุงพื้นที่ทำกินใหม่ทั้ง 3 โซนในอำเภอจอมบึง โดยใช้งบประมาณปี 2569 ประมาณ 140 ล้านบาท นอกจากนี้ตนได้ประสานไปยัง พอช.เพื่อสร้างบ้านให้เกษตรกรผู้ย้ายเข้าพื้นที่ใหม่กว่า 100 หลัง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เมื่อเราจะเอาชาวบ้านมาอยู่ตรงนี้ ต้องส่งเสริมให้มีที่อยู่ที่มั่นคง มีอาชีพที่มั่นคง จัดระบบนิเวศให้ดี ทั้งนี้ ตนขอขอบคุณนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ที่รับทำถนนให้พี่น้องชาวบ้านในตำบลลางบัวด้วย
ในด้านปัญหาพืชเศรษฐกิจ โดยเฉพาะมะพร้าว ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ได้ติดตามปัญหาราคามะพร้าวน้ำหอมตกต่ำในราชบุรีอย่างใกล้ชิด โดยตลาดจีนยังต้องการผลผลิตจำนวนมาก แต่กลับมีความผิดปกติในห่วงโซ่การซื้อขายมะพร้าวภายในประเทศ จึงเตือนผู้รับซื้อและล้งต่างๆ ว่า อย่าเอาเปรียบเกษตรกรมากเกินไป ไม่อย่างนั้นตนจะใช้ไม้แข็ง ซึ่งตอนนี้ตนสามารถแก้ราคาทุเรียนและลำไยได้สำเร็จแล้ว และเตรียมดำเนินการกับมะพร้าวอย่างจริงจังเช่นกัน
“พี่น้องล้งหรือพี่น้องที่เกี่ยวข้องกับต้นทางของพี่น้องเกษตรกรจนถึงผู้บริโภค อะไรที่ท่านทำไม่ถูก อย่าทำอย่าเอาเปรียบเกษตรกรมากเกินไป อย่าให้ผมต้องใช้ไม้แข็ง คุยกันดีๆ ช่วยกันและกันนะครับ เหมือนทุเรียนที่เราผ่านพ้นวิกฤตมาแล้ว ลำไยกำลังจะผ่านพ้นวิกฤต มะพร้าวมาอีกแล้ว อีกเรื่องหนึ่งคือ ปลายี่สก ถือเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจของพี่น้องชาวจังหวัดราชบุรี ซึ่งมันได้หายวิถีชีวิตของคนที่นี่ผมจะมาฟื้นให้มันกลับมาเหมือนในอดีต โดยได้สั่งการอธิบดีกรมประมงแล้วว่า ให้มาทำดำเนินการให้เกิดรูปธรรม และผมจะลงมาติดตามความคืบหน้าอีกครั้งหนึ่ง”
ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึง คณะกรรมการนโยบายข้าว ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ท่านเป็นประธานประชุมไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ซึ่งผมติดภารกิจจึงมอบปลายให้ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าประชุมแทน ทุกอย่างที่เป็นนโยบายทั้งหมด หรือที่ยังไม่เอาเข้าที่ประชุม ตนจะหารือส่วนตัวกับท่านยก ผมเชื่อว่าท่านฟังผม ซึ่งท่านก็ดีใจที่สามารถขยับราคาข้าวหอมมะลิให้สูงขึ้นแตะ 13,800 ได้ส่วนราคาข้าวเหนียวของพี่น้องภาคอีสานและภาคเหนือ ตนก็กำลังเร่งแก้ไขให้เช่นกัน


