นายกฯ ออกตัว โมโต จีพี มีนานแล้วไม่ได้เดินยุคภท. โยนถามกกท.ค่าลิขสิทธิถึงแพงกว่าเดิม ป้อง "เนวิน" ไม่เกี่ยวบอกขาดทุนตลอด แต่ยันที่ผ่านมาคุ้มค่า
วันนี้ (18พ.ย.) เมื่อเวลา 17.40น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณี คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณสนับสนุนการแข่งขันรถจักยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก (โมโต จีพี) วงเงินเกือบ 4,000 ล้านบาทว่า เรื่องดังกล่าวอนุมัตินานไปแล้วผ่านไปกว่า 2 สัปดาห์แล้วเอาเรื่องวันนี้ก่อน
เมื่อถามอีกว่ากรณีใช้เงินภาษีประชาชนดำเนินการเรื่องโมโต จีพี เหตุใดค่าลิขสิทธิถึงแพงกว่าเดิม นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพราะเรื่องนี้คนที่ทำเรื่องเสนอขึ้นมาคือ กกท. และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคู่สัญญาคือตรงนั้น เขาพูดถึงเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ การส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้คนเข้ามาสนใจ
เมื่อถามอีกว่าแต่เรื่องนี้เกี่ยวกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูในเต็ด นายอนุทิน ตอบว่า ไม่เกี่ยว ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่นายเนวิน เป็นเจ้าของสนามช้างอารีน่าสถานที่จัดแข่งขัน นายอนุทิน กล่าวว่า เขาก็ต้องมีสัญญาอะไรกันแต่เท่าที่ทราบเขาก็ขาดทุนมาตลอดทุกปี
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะเดินหน้าการจัดเอฟวัน และทูมอโล่แลนด์ที่รัฐบาลที่ผ่านมาเตรียมดำเนินการหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่ความเหมาะสม โมโต จีพี ค่าลิขสิทธิ์เกือบ 4 พันล้าน ค่าลิขสิทธิ์ของเอฟวันราคาเท่าไหร่ไปถามเอฟวันก่อน แล้วค่อยมาถามค่าลิขสิทธิ์ตรงนี้ อันไหนทำได้เลยก็พร้อมอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าทำไมถึงมาดำเนินการในรัฐบาลนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า “เรื่องนี้ดำเนินการมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ อย่าถามแบบนี้สิ พอถามแบบนี้เหมือนเป็นการมาหาเรื่องกัน แต่ไม่ใช่มาหาเรื่องผมเป็นการหาเรื่องทำให้ประชาชนเข้าใจผิด มันไม่ใช่รัฐบาลนี้แต่เริ่มมาตั้งแต่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ด้วยซ้ำ ปีแรกผมก็ไปรับชมการแข่งขันที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในขณะนั้นไปเป็นประธานเปิดและมีการสนับสนุนเรื่อยมารัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ก็สนับสนุน แล้วทำไมมาถามว่ามาดำเนินการในรัฐบาลนี้มันไม่ใช่
เมื่อถามอีกว่าเมื่อมีคนมองทั้งบวกและลบจะอธิบายอย่างไร นายอนุทิน ตอบว่าประโยชน์คือคนคนนั้นต้องได้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด แต่เท่าที่ทราบตอนนี้เขาต้องยกสนามให้เป็นไปตามข้อตกลงของโมโตจีพี เพราะจะไปแข่งที่ซุปเปอร์ไฮเวย์ที่ไหนก็ไม่ได้ หากจังหวัดอื่นมีสนามแบบนี้ทุกคนก็ต้องเสนอในส่วนที่ดีที่สุดเข้ามา แต่ทุกปีที่ผ่านมาสมัยที่ตนกำกับกระทรวงกีฬาก็ได้รับรายงานว่าได้รับเงินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ 4 พันกว่าล้านบาทต่อปี ยังไม่รวมเรื่องการท่องเที่ยวและผลพลอยได้ในจังหวัดข้างเคียง ส่งผลประโยชน์ไปยังสุรินทร์ นครราชสีมา ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน คุ้มค่ากับการที่รัฐบาลโปรโมทกีฬาประเภทนี้


