โฆษก กต.เผย “สีหศักดิ์” โทรประท้วง “ปรัก สุคน” แล้ว 2 รอบ เตรียมยื่นประท้วงเป็นหนังสือผ่านสถานทูตกัมพูชาในไทยอีกครั้ง เรียกร้องเขมรสอบสวนเหตุวางทุ่นระเบิด นำผู้เกี่ยวข้องมารับผิด พร้อมแจ้งมาเลเซีย-สหรัฐอเมริกา ส่งหนังสือถึงประธานออตตาวา-เลขาฯ ยูเอ็น เชิญทูตต่างประเทศในไทยฟังชี้แจงพรุ่งนี้
วันนี้(11 พ.ย.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า ฝ่ายความมั่นคงได้ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการ ลักลอบวางทุ่นระเบิดใหม่โดยฝ่ายกัมพูชา ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้กำลังพลไทยได้รับบาดเจ็บ 4 นาย หนึ่งในนั้นบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นขาขวาขาด
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย พบ ชิ้นส่วนทุ่นระเบิดชนิดพีเอ็มเอ็น-2 ภายในหลุมระเบิด และพบเพิ่มอีก 3 ทุ่นในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยถูกทหารกัมพูชารุกล้ำมาก่อน กองทัพภาคที่ 2 จึงสรุปว่าเป็นการลักลอบวางทุ่นระเบิดในเขตไทย
เมื่อเช้าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ประชุมเห็นพ้องว่า ไทยได้ปฏิบัติตาม ถ้อยแถลงร่วม (Joint Declaration) ระหว่างสองประเทศมาโดยตลอด แต่เหตุการณ์นี้ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา รวมถึงเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ตลอดจนละเมิดพันธกรณีตามอนุสัญญาต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา ซึ่งกัมพูชาเป็นรัฐภาคีด้วย
รัฐบาลไทยจึงมีมติให้ ระงับการดำเนินการตาม Joint Declaration ชั่วคราว รวมถึงการส่งตัวทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวอยู่จำนวน 18 นายกลับประเทศ จนกว่ากัมพูชาจะแสดงความรับผิดชอบและให้หลักประกันว่าจะไม่เกิดเหตุซ้ำอีก
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยเรียกร้องให้กัมพูชาดำเนินการ 3 ประการ คือ
1.แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
2.สอบสวนข้อเท็จจริงและนำผู้เกี่ยวข้องมารับผิด
3.ดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ พร้อมเปิดให้ทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) เข้าตรวจสอบ
ในส่วนของการทูต นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้โทรศัพท์ประท้วงไปยังนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาแล้ว 2 ครั้ง คือเมื่อวานนี้ตอนที่นายสีหศักดิ์ปฏิบัติราชการอยู่ที่ฮ่องกง และเมื่อเช้านี้อีก 1 รอบ
นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศเตรียมยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย พร้อมทั้งจะมีหนังสือถึงประธานรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา (ประเทศญี่ปุ่น) และเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อแจ้งเหตุการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ ไทยจะส่งหนังสือถึงประเทศมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน และสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้สังเกตการณ์การลงนามถ้อยแถลงร่วม ในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้รับทราบท่าทีของไทย รวมทั้งจัดการบรรยายสรุปแก่คณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยในวันพรุ่งนี้
ในขณะที่ฝ่ายความมั่นคงจะเดินหน้าชี้แจงผ่านคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT อย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศได้เดินทางไปยังจังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และติดตามสถานการณ์ในพื้นที่
นายนิกรเดชย้ำว่า ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการสอบสวนและป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต.


