เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 68 น.ส.สุนีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี เข้าพบ ร.ต.ท.มั่นคง พิมพะ รองสารวัตร (สอบสวน) เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กรณีถูกบังคับให้ลงลายมือชื่อในเอกสารทางธุรกิจโดยไม่สมัครใจ
น.ส.สุนีย์ให้การว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ต.ค.68 เวลาประมาณ 17.00 น. ที่บ้านพักย่านพระราม 2 มี พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา อดีตรอง ผบ.ตร. พร้อมชายไทยไม่ทราบชื่ออีก 1 คน ขับรถตู้โฟล์กสวาเกน สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มาพบตนที่บ้าน ซึ่งขณะนั้นตนไม่อยู่ แต่ต่อมาพล.ต.อ.ดร.วิระชัยได้รอจนตนกลับมา
เมื่อพบกัน พล.ต.อ.ดร.วิระชัยแจ้งว่า ตนเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท เบสต์ พับลิชซิ่ง จำกัด แทน พล.ต.อ.ดร.วิระชัย โดยบริษัทดังกล่าวถือครองโฉนดที่ดินของ พล.ต.อ.ดร.วิระชัย และครอบครัว พร้อมนำสำเนาเอกสารการถือหุ้นและเอกสารจากโทรศัพท์มือถือมาแสดง เพื่อยืนยันคำกล่าว ก่อนขอให้ตนลงนามในเอกสารจำนวน 3 ฉบับ
น.ส.สุนีย์ระบุว่า ขณะนั้น พล.ต.อ.ดร.วิระชัยได้พูดจาในลักษณะกดดันและข่มขู่ให้ตนลงนามในเอกสารดังกล่าว ทั้งที่ไม่เต็มใจและไม่ทราบจุดประสงค์ของเอกสารเหล่านั้น จนกระทั่งได้ยินคำพูดว่า “ลายเซ็นปลอมยากมาก” จึงเกิดความวิตกกังวลและพยายามขอเอกสารคืนที่รถ แต่ทาง พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ไม่ยินยอม
จึงเกิดเหตุการณ์ยื้อแย่งเอกสารกันขึ้น พล.ต.อ.ดร.วิระชัยสั่งให้คนขับรถรีบขับออกจากหน้าบ้านไปทันที โดยไม่คำนึงถึงปลอดภัยของผู้เสียหายเลยว่าจะเกิดอันตรายอย่างไร หากออกรถทันที
ผู้เสียหายกล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ตนเป็นเพียงผู้หญิงคนเดียว ต้องเผชิญหน้ากับชายสองคน จึงไม่สามารถขัดขืนได้ และลงนามไปโดยไม่สมัครใจ ซึ่งเกรงว่าเอกสารดังกล่าวอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตนเองและบริษัท จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบและอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป


