ป.ป.ช.ชี้มูล "อานุภาพ" อดีตอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กับพวก ทุจริตการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายเสียหายกว่า 8 ล้านบาท
วันนี้ (6 พ.ย.) นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดว่าที่ร้อยตรี อานุภาพ เกษรสุวรรณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กับพวก ทุจริตการจัดซื้อเครื่องเล่นนันทนาการและออกกำลังกายกลางแจ้งสำหรับเยาวชนพร้อมติดตั้ง ภายใต้โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนันทนาการชุมชนสำหรับเยาวชน จังหวัดร้อยเอ็ด ปีงบประมาณ 2556
โดยข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556 ว่าที่ร้อยตรี อานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้อนุมัติให้ดำเนินการจัดซื้อเครื่องเล่นนันทนาการและออกกำลังกายกลางแจ้ง สำหรับเยาวชนพร้อมติดตั้ง ภายใต้โครงการพัฒนาแหล่งเที่ยวเชิงนันทนาการชุมชนสำหรับเยาวชนจังหวัดร้อยเอ็ด วงเงินงบประมาณ 8,000,000 บาท โดยวิธีพิเศษ ตามที่สำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเสนอ ทั้งที่การจัดซื้อเครื่องเล่นนันทนาการและออกกำลังกายดังกล่าว มีวงเงินตั้งแต่ 2,000,000 บาท ขึ้นไป ซึ่งจะต้องดำเนินการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และไม่มีเหตุผลความจำเป็นที่ต้องดำเนินการจัดซื้อโดยเร่งด่วนโดยใช้วิธีพิเศษได้ โดยในขั้นตอนการกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลาง (TOR) เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการได้นำขนาดความกว้าง ความสูง และความยาวของอุปกรณ์ที่จะจัดซื้อมาจาก บริษัท ภูริอินเตอร์ จำกัด บริษัท ภาณี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท ไทยเวิร์คฟิตเนส จำกัด ซึ่งไม่ได้เป็นผู้ประกอบอาชีพขายเครื่องเล่นนันทนาการและออกกำลังกาย และทำการสืบราคาจากกลุ่มประกอบการเดียวกัน รวมทั้งในขั้นตอนการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ ผู้เสนอราคาจำนวน 3 ราย ได้ตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัท ภูริอินเตอร์ จำกัด เป็นผู้ชนะการเสนอราคาและมีสิทธิเข้าทำสัญญากับกรมการท่องเที่ยว ตามสัญญาเลขที่ 17/2557 ลงวันที่ 18 ธันวาคม 2556 วงเงิน 7,900,000 บาท ซึ่งต่อมาความปรากฏว่าเครื่องเล่นนันทนาการและออกกำลังกายที่จัดซื้อดังกล่าวได้นำไปติดตั้งที่โรงเรียน วัด และองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งมิใช่แหล่งท่องเที่ยวเชิงนันทนาการ หรือสถานที่ที่อาจพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นในอนาคต ตามวัตถุประสงค์ของโครงการแต่อย่างใด
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำของว่าที่ร้อยตรี อานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว นางพัชณีย์ ยงยอด ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการ และคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ปัจจุบันเป็นความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง แล้วแต่กรณี
ส่วนการกระทำของกรรมการบริษัท ภูริอินเตอร์ จำกัด และเอกชนอื่นที่เกี่ยวข้อง มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด ทั้งนี้ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัย ไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป


