xs
xsm
sm
md
lg

“ธรรมนัส” ลั่นน้ำไม่ท่วมซ้ำรอย 54 นายกฯสั่งเข้มจัดการพื้นที่ปทุมฯ–ปากน้ำ ดันราคายาง-ปาล์มบุกจีน-ยุโรป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รมว.เกษตรฯ ลั่น ปีนี้ไม่มีน้ำท่วมซ้ำรอย 54 หลัง นายกฯ สั่งเข้มบริหารจัดการน้ำพื้นที่ปทุมฯ–สมุทรปราการ พร้อมเดินหน้าดันราคายางพาราทะลุ 60 บาท–ปาล์มแตะ 10 บาท เปิดตลาดจีน–ยุโรป ฟื้นเศรษฐกิจฐานรากทั่วไทย

เมื่อวันที่ (6 พ.ย.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ,น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง , นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,นายภูผา ลิกค์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดปทุมธานี โดยมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ให้การต้อนรับ

โดย ร.อ.ธรรมนัส และคณะ ได้เดินทางไปยังสำนักงานเทศบาลเมืองคูคต และ วัดลาดสนุ่น ต.คูคต อ.ลำลูกกา เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านการเกษตรและการบริหารจัดการน้ำ และรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี พร้อมพบปะและมอบถุงยังชีพจากมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อการกุศล ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ จำนวน 1000 ชุด รวมทั้งได้นำคลินิกผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมวเคลื่อนที่ จากโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากพิษสุนัขบ้า ไปให้บริการด้วย

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวช่วงหนึ่งว่า เมื่อวานนี้ตนได้ที่พูดคุยกับท่านอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประมาณ 3–4 ชั่วโมง คนก็เข้าใจว่า ผมไปคุยเรื่องการเมือง ยุบสภา หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย ไม่มีเรื่องการเมืองเลย มีแต่เรื่องการงานทั้งนั้น โดยท่านนายกฯ เป็นห่วงและกำชับอย่างมากในเรื่องการบริหารจัดการน้ำไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดปทุมธานี และสมุทรปราการ อย่าให้ซ้ำรอยปี 2554 เพราะทั้ง 2 จังหวัดนี้ถือว่าเป็นปราการด่านสุดท้ายที่ต้องรับมวลน้ำจากทุกทิศที่ไหลมารวมกัน ซึ่งตนขอยืนยันปีนี้ไม่มีแบบนั้นแน่นอน ยังไงเราก็เอาอยู่

”ในส่วนของราคายางพารา ตั้งแต่ผมได้ลงนาม MOU กับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง พม. และกระทรวงท่องเที่ยว จากราคา 50 บาท/กิโลกรัม ดีดขึ้นมา 60 บาท/กิโลกรัมแล้วและเรากำลังจะทำราคายางให้ดีกว่านี้ โดยที่เราไปขยายตลาด ซึ่งท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไปเปิดตลาดทั้งจีนและยุโรป และสิ่งสำคัญที่สุด ณ เวลานี้ คือ เรามีการปราบปรามยางเถื่อนอย่างเอาจริงเอาจัง ผมได้ประกาศเขตพื้นที่ควบคุมใหญ่ ห้ามเอายางจากประเทศเพื่อนบ้านมาใช้ในบ้านเราอย่างเด็ดขาด สิ้นเดือนนี้ราคายางจะขยับขึ้นสูงขึ้นกว่านี้แน่“ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึง ราคาปาล์มว่า ในฐานะที่นายกรัฐมนตรีมอบให้ตนเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติ ขณะนี้ ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 6 - 7 บาท ตนจะทำให้ขยับถึง 10 บาทให้ได้ จะทำได้หรือไม่ได้ก็ดูคนบ้าคนนี้ก็แล้วกันว่า ทำได้หรือเปล่า โดยมาตรการที่ตนจะทำในการประชุมวันที่ 27 พ.ย.นี้ คือการลงนาม MOU กับสายการบินหลายสายการบินที่จะซื้อน้ำมันและเปลี่ยนน้ำมันปาล์มเป็นน้ำมันเครื่องบิน จะทำให้ดีที่สุด เดี๋ยวคอยดูว่าราคาปาล์มขึ้นหรือเปล่า และในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ตนก็จะเดินทางไปประเทศจีน เพื่อลงนามหนังสือสัญญาซื้อขายสินค้า เช่น รังนก น้ำผึ้ง สัตว์ปีก เพื่อขยายตลาดการส่งออกของไทย

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า วานนี้ ตนได้รับเกียรติเป็นประธานจัดงาน “มหกรรมลอยกระทง” ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพี่น้องชาวอยุธยาได้ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงประเพณีโบราณอันงดงาม มีการจุดพลุแบบดั้งเดิม ไม่เอิกเกริก แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและศรัทธา สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดเมื่อวานนี้ คือทันทีที่เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้เวลาเดินทางจากประตูเมืองไปถึงงานกว่า 30 นาที เพราะรถติดมาก แสดงว่าคนเยอะจริง ๆ ผมเห็นแล้วดีใจครับ ชาวบ้านออกมาร่วมงานกันเต็มไปหมด แม้จะหาที่จอดรถยาก แต่ทุกคนก็ยิ้มแย้ม มีความสุข ชาวบ้านหลายคนบอกว่า ปีนี้จัดได้ดีมาก ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด คือการร่วมอนุรักษ์ประเพณีไทย ที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ ประเพณีที่เราอยู่ร่วมกับน้ำ และเป็นการขอขมาพระแม่คงคา

“ผมในฐานะผู้กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สำรวจภาพรวมของงานทั่วประเทศ พบว่าการจัดงานลอยกระทงปีนี้สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 6,500 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นที่วัดอรุณราชวราราม ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม จัดงาน คนก็แน่นมาก ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็มีการจัดงานบรรยากาศคึกคักเช่นกัน ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า เศรษฐกิจฐานรากของไทยกำลังฟื้นตัว คนอยากออกไปกิน เที่ยว จับจ่ายใช้สอย ฃโครงการ “คนละเที่ยว คนละฝั่ง” ที่เราทำ มันได้ผลจริง อย่างที่บ้านผม จังหวัดพะเยา ชาวบ้านก็ตื่นตัวมากมีการจับจ่ายใช้สอยกันทั่วเมือง ถึงแม้เราจะดำเนินการในระยะเวลาสั้น ๆ แต่เห็นผลชัดเจน”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการทำงานคู่ขนาน ทั้งพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และดูแลพี่น้องประชาชน และขอฝากให้พี่น้องทุกคนมั่นใจว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมร่วมกันดูแลพี่น้องชาวปทุมธานีทุกท่าน


กำลังโหลดความคิดเห็น