xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน​” นำถก กก.เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ไทยมีของดีแต่ช้า ต้องปรับปรุงระเบียบ​​-อำนวยความสะดวกนักลงทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อนุทิน​” นำประชุม คกก.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย​ บอก​ ไทยมีของดีแต่ช้า ต้องปรับปรุงระเบียบ​​ -​ อำนวยความสะดวก เชื่อมั่น​ไทยยืนหยัดอยู่บนเวทีโลกได้​

วันที่ 6 พ.ย.นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ นโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ครั้งที่ 3/2568​ โดยมีนายเอกนิติ​ นิติทันประภาศ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ นายธนกร​ วังบุญคงชนะ​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมด้วย


โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย​ ซึ่งครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 3 ในปีนี้ แต่ถือว่าเป็นครั้งแรกของตน ที่ได้เข้ามาทำหน้าที่ในฐานะประธานกรรมการ จึงขอถือโอกาสนี้ ขอความร่วมมือจากทุกท่าน ให้ช่วยกัน ร่วมขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของประเทศ และหวังว่า การประชุมครั้งนี้จะถือเป็นเวทีสำคัญในการระดมความคิดเห็นร่วมกันผลักดันงานต่างๆ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายของประเทศ

นายก​รัฐมนตรี​ ยังกล่าวอีกว่า​ กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลโดยเฉพาะในส่วนของเสาหลักที่ 5 คือการลงทุนเพื่ออนาคต​ ซึ่งเป็นแนวทาง​ “ควิก บิ๊ก วิน” ที่ทางรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ ได้กำหนดเอาไว้ ในการที่จะทำให้เศรษฐกิจมีการฟื้นตัว​
ถึงแม้ว่าวาระของรัฐบาลจะเป็นวาระที่ไม่ได้มีระยะเวลายาวนานนัก แต่รัฐบาลก็ยังมีความมั่นใจว่า ถ้ามีแนวทาง “ควิกบิ๊กวิน” ​แล้ว เป้าหมายการดำเนินการ​ เพิ่มศักยภาพ เสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจของประเทศ ก็จะมีเวลาที่จะผลักดันวางรากฐาน ให้ได้มีการดำเนินการ วางโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ให้อยู่อย่างยั่งยืนได้


นายก​รัฐมนตรี​ กล่าวต่อว่า​ ที่ประชุมวันนี้จะมีการพิจารณามาตรการสำคัญหลายเรื่อง​ แต่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนกลไกต่างๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งบทบัญญัติหรือชื่อของคณะกรรมการชุดนี้ก็คือเพิ่มคิดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งก็อธิบายตัวมันเองอยู่แล้วว่าภารกิจต้องเป็นอย่างไร วันนี้เราไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว​ ถ้าไม่จำเป็น แต่อย่างไรก็ตามขีดความสามารถในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในเรื่องของฝีมือแรงงาน ผลิตภัณฑ์​ และแม้กระทั่งความสามารถในเรื่องการใช้เทคโนโลยีต่างๆ และความสามารถส่วนบุคคล ซึ่งตรงนี้จะต้องได้รับการพัฒนาและยกระดับขึ้นมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อที่ประเทศของเรา จะได้มีที่ยืนอย่างมั่นคง ในเวทีระดับนานาชาติ ซึ่งตนก็ได้ไปร่วมประชุมมา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึง 2 เวทีหลักๆ​ ทั้งอาเซียนและเอเปค ตนได้ยืนยันว่าเรายังได้รับ ความเชื่อถือจากนานาชาติมากพอสมควร​ เขาต้องการให้เรามีการปรับปรุง ในเรื่องระเบียบ การอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะคุยเรื่องเหล่านี้ เพราะเมืองไทยมีอะไรดีหมด​ แต่ว่าช้า ตนก็พูดมาโดยตลอดตั้งแต่สมัยที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ ตนไม่เคยใช้คำว่าแรงงานถูก แต่เรามีขีดความสามารถ แต่เป็นแรงงานที่มีอัตราที่มีสมเหตุสมผล ตัวเลขไม่ต่างกัน​ แต่ถ้าเราพูดก็จะรู้สึกมีราคาขึ้นมา การเพิ่มขีดความสามารถคือการเพิ่มมูลค่าในทุกมิติ​ที่จะทำให้ประเทศของเรา มีศักยภาพในการแข่งขัน ซึ่งมีอยู่ตลอดเวลา ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันมากมาย แต่จะทำอย่างไร ที่จะทำให้ผู้เล่น สามารถที่จะมีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น

อย่างการเข้าไปเจรจาอัตราภาษีนำสินค้ากับสหรัฐฯ เขาไม่ได้บอกว่าจะขึ้นหรือลงแต่เขาบอกว่า​ ใช้ถ้าคุณใช้ของไม่ดี เขายังไม่เคยพูดกับเราว่าต้องมาจากพลังงานสะอาด หรือการไม่ใช้แรงงานผิดกฎหมาย​ หรือโรงงานต้องไม่ได้มาจากการค้ามนุษย์ ไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์​ เขายังไม่ได้พูดเรื่องเหล่านี้​ แต่เขาพูดว่าถ้าคุณไม่ทำตาม สิ่งที่เราได้บอกให้คุณทำ สหรัฐ​ฯจะขึ้นภาษี​ เราจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีขีดความสามารถ ดังนั้น ตนยังเชื่อมั่นว่าเราจะยืนหยัดอยู่บนเวทีโลกได้​ หรือพูดง่ายๆว่าวัดกับเขาได้​ คือเราต้องมีของดี ของดีราคาถูกไม่มีอยู่แล้วในโลกนี้​ แต่มีของดีในราคาที่เหมาะสมและเป็นของที่ใช้งานได้ นี่คือสิ่งที่อยากให้ช่วยกันคิดในเรื่องของการอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อส่งเสริมการลงทุนของประเทศ






กำลังโหลดความคิดเห็น