xs
xsm
sm
md
lg

สว.สำรอง จวก กกต.ตั้งอนุฯ สอบคดีฮั้ว สว.2 เดือนเพิ่งประชุมครั้งแรก 4 พ.ย. จี้เร่งรัดอย่ารอ 90 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่ม สว.สำรอง จวก กกต.ตั้งอนุฯ ชุด 36 สอบคดีฮั้วสว.กว่า 2 เดือนเพิ่งเริ่มประชุมครั้งแรก 4 พ.ย. จี้เร่งรัดอย่าทอดเวลาถึง 90 วัน รอ สว.ตั้งคนของตัวเองนั่งองค์กรอิสระ ชี้พิรุธหลังเปลี่ยนรัฐบาลล้อฟรีหมด ลั่นอนุฯ ยกเจอฟ้องแน่

วันนี้( 5 พ.ย.) กลุ่ม สว.สำรอง นำโดย พล.ต.ท. คำรบ ปัญญาแก้ว และนายธนวัฒน์ ศรีสุข เข้ายื่นหนังสือถึง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งคณะที่ 36 ขอให้เร่งรัดการพิจารณาสำนวนฮั้วเลือก สว. โดย พล.ต.ท. คำรบ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กกต.ไม่เคยมาชี้แจง พูดคุยกับสว.สำรองเลย พูดแล้วก็น้อยใจเพราะเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนผู้ถูกกล่าวหาในคดีฮั้วสว.ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในปัจจุบัน มาที่กกต. ประธานกกต.และเลขา กกต.กลับให้การต้อนรับอย่างเอิกเกริกใหญ่โต แต่กลุ่มสว.สำรองมาขอพบหลายครั้งก็ไม่ให้พบ อ้างว่าจะเสียความเป็นธรรม วันนี้จึงต้องมาทวงถามว่า เมื่อไหร่กกต.จะรีบเร่งพิจารณาเรื่องนี้เสียที อนุฯ ชุดที่ 36 ที่แต่งตั้งจากคนของกกต.เอง เพิ่งมาประชุมเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงอยากให้เร่งรัด ไม่ต้องทอดเวลาจนครบ 90 วัน เพราะมีข้อกล่าวหาท่านว่า จะดึงเรื่อง ทอดเวลารอให้สว.ในสภา เลือกกกต.อีก 2 คนในเดือน ธ.ค. ก่อน ตนก็ภาวนาอย่าให้คำกล่าวหานั้นเป็นจริง ดังนั้นเมื่ออนุวินิจฉัยเสนอเรื่องไปที่กกต.แล้วก็ไม่มีเหตุต้องประวิงเวลาไปจนครบ 90 วันหวังว่าท่านจะพิจารณาภายใน 10-15 วัน

ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนจับตาดูการทำงานของกกต. เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในเวลานั้นการดำเนินการค่อนข้างเป็นไปด้วยดี แต่หลังเปลี่ยนรัฐบาลหลายเรื่องส่งสัญญาณว่าจะล่าช้าออกไป วันนี้กลุ่มสว.สำรองจึงมาส่งหนังสือถึงอนุฯ และกกต.ทุกคน เพราะท่านอาจจะยังไม่ได้รับข้อมูลจากสำนักงานกกต. จึงมาติดตามทวงถาม และฝากประชาชนจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป


“อนุวินิจฉัย ทราบว่าตั้งมาตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่เพิ่งประชุมครั้งแรกเมื่อวาน (4 พ.ย.) ก็ไม่รู้ว่าเวลาเดือนเศษๆ มัวไปทำอะไรอยู่ และเมื่ออ้างว่าสำนวนนี้มีหลักฐาน มีข้อมูลเยอะ ทำไมไม่รีบดำเนินการ หรือท่านจะดึงเวลาออกไปอีก โดยนิ่งนอนใจว่ามีเวลา 90 วันหรือเปล่า ถ้าคิดแบบนี้ผมว่ามันผิดวิสัย ในแง่ที่ว่าท่านจะเอาเวลาไปเท ท่านควรรีบเร่งดำเนินการไม่ควรรอถึง 90 วัน เสร็จเร็วก็ไปเร็ว เพราะทุกฝ่ายเรียกร้องกันมาทั่วฟ้า ทั่วแผ่นดิน อนุฯแต่ละคนก็เป็นสายตรงของกกต. จะอ้างว่าตั้งมาแล้วจะไม่รุ้ไม่เห็นไม่ได้ คุยกันหน่อย ช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ซึ่งเราจะจับตาดูว่าท่านจะอ้างเหตุอะไรอีกที่จะประวิงเวลาต่อไป”

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่มีการตั้งอนุวินิจฉัยฯ ชุดที่ 36 เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ล่วงมาเกือบ 2 เดือน แต่ทราบว่าเพิ่งจะมีการประชุมกันเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังประชุมก็ไม่มีการแถลงต่อสื่อว่าการประชุมเป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมจับตาอยู่


ทั้งนี้ กลุ่ม สว.สำรองเห็นว่า พยานหลักฐานต่างๆ ที่อยู่ในสำนวน ที่อนุกรรมการชุดที่ 26 ส่งมานั้น มีความชัดเจนอยู่แล้ว แต่อนุฯ ชุดที่ 36 กลับไม่เอามาทำให้จบโดยเร็ว ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งแต่เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนกระทรวงยุติธรรมทุกอย่างในคดีนี้ก็ล้อฟรีไปหมด เย็นไปหมด ทุกอย่างเหมือนไม่มีการขยับ ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มสว.สำรองเคยยื่นหนังสือไปยังกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอพบรมว.ยุติธรรมเพื่อสอบถามความคืบหน้า แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับการนัดหมายว่าจะให้เข้าพบเมื่อไหร่ จึงอยากฝากไปยังรมว.ยุติธรรมว่า สว.สำรองต้องการเข้าพบ เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับคดีฮั้วสว.นั้นท่านจะเอาอย่างไร ไม่ใช่นิ่งเงียบ มาเตะถ่วง ประเทศชาติเสียหาย ใครจะรับผิดชอบ

"บอกตรงๆ เราเหนื่อยแล้ว ทำงานกันมาปีกว่าๆ แต่ไม่ท้อ จะสู้ต่อ กกต.จะส่งสำนวนไปที่ศาลเมื่อไหร่ เราก็หยุดเมื่อนั้น แล้วอย่าคิดว่าอนุวินิจฉัยจะยกหรือไม่ยก ถ้าคุณยก เราก็ฟ้อง ที่คดีนี้ล่าช้า ได้ยินมาไม่ใช่ว่ารอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องสถานะ อดีตนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรม แต่เป็นเพราะจะรอให้สว.ของเขาไปเลือก กกต.ใหม่อีก 2 คน เพื่อให้ครบ 4 คน เรารู้และเชื่อว่าประชาชนเข้าใจว่าคุณกำลังทำอะไร คุณพยายามจะเอาคนของคุณมาตัดสินเรื่องของคุณ ผมว่ามันเป็นเรื่องของประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งไม่เหมาะสม ไม่สง่างาม อย่าทำอย่างนี้เลย ประชาชนเขามองเห็น เขามองอยู่ และอีกไม่นานจะมีการเลือกตั้ง ประชาชนเขาทราบว่าใครเป็นอย่างไร”


กำลังโหลดความคิดเห็น