"อนุทิน" บอก ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ยุบสภาฯ ยึดตาม MOA เหตุได้เป็นนายกฯ เพราะพรรคประชาชน ชี้หากฝ่ายค้านยื่นซักฟอกหวังล้างแค้นเอาคืน-รัฐบาลสู้เกมการเมืองไม่ได้ พร้อมชิงยุบสภาฯ ทันที ลั่นไม่ให้ใครมาด่าเล่นๆ ฟรีๆ มองยุบก่อนกำหนด 1 เดือน ไม่ต่างอะไร
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 5 พ.ย. ศูนย์การค้าสยามพารากอน ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 นายอนุทิน ชาญวีรกุลนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ในหัวข้อ “Thailand’s Next Frontier : A National Economic Vision วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่” ตอนหนึ่งถึงความรู้สึกที่เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ช่วงที่ทำงานมา ครบ 1 เดือน พยายามบรรลุเป้าหมายทุกเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากต้องบอกกับตัวเองว่า มีเวลาเพียง 4 เดือน ในการบริหารราชการแผ่นดินแบบเต็มรูปแบบ หรืออำนาจเต็ม ซึ่งก่อนที่จะเข้ามาคงจะเห็นว่า พวกตนก็นั่งเร่งประชุมกับทีมงาน และตั้งกรอบการทำงานเอาไว้ว่า 4 เดือน จะได้เป็น 4 เดือนที่ทำงานอย่างเดียว และสิ่งที่ทำได้ก็ต้องเร่งทำและสิ่งใดที่ทำไม่ได้ก็ต้องรอรัฐบาลใหม่มา โดยมุ่งเน้นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบควิกวินจึงเป็นที่มาของ Quick Big Win ในการแก้ไขปัญหาความมั่นคง ที่เรามีประเด็นอยู่กับประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องเร่งฟื้นฟูและเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเสียหาย จากความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน การปะทะกันและภัยธรรมชาติ
ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่าจะเป็นรัฐบาล 4 เดือนจริงหรือไม่จะเร็วกว่านั้นหรือยืดออกไปและยกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในบริบทคือ 4 เดือน เป็นสิ่งที่เราได้มีสัญญาไว้ กับทางพรรคประชาชน ตาม MOA ที่เราได้ลงนามไว้ และการที่ตนเข้ามาเป็นรัฐบาล ได้มีการพูดคุยกับพรรคประชาชนมาว่าด้วยสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้นการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่คืนอำนาจให้ประชาชนน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ตอนนั้นจำได้ว่าแม้แต่พรรคที่เป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนั้น ก็ยังมีประเด็นข้อสงสัยว่ารักษาการนายกรัฐมนตรีมีอำนาจยุบสภาหรือไม่ และที่คุยกับพรรคประชาชนเห็นพ้องต้องกันว่าผู้ที่ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีไม่น่าจะมีอำนาจยุบสภา เพราะฉะนั้นจะต้องมีวิธีการ ในการดำเนินการให้มีการยุบสภา พรรคประชาชนเองก็ไม่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจริงๆ และเราก็เล่นตามกติกาอยู่แล้วพรรคประชาชนมีสมาชิกมากกว่าเรา แต่เพราะไม่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และความเห็นพร้องต้องกันว่าต้องการไปสู่เลือกตั้งโดยการยุบสภา เพราะประเทศมีความเสียหายมากกว่า โดยใช้การคืนอำนาจให้กับประชาชน จึงเป็นที่มาของ MOA ดังกล่าว
นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า ได้ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน มาตลอดว่าการยุบสภาฯเป็นไปตาม MOAไม่เคยเปลี่ยนความคิด มีคนเยอะแยะมาบอกว่าเดี๋ยวอาจจะมีเหตุการณ์นี้เหตุการณ์นั้น ที่เอาเป็นข้ออ้างได้ ตนก็ฟัง แต่รับรองว่าไม่ปฏิบัติการตามอย่างแน่นอน เพราะถือว่าในฐานะที่ร่วมกับพรรคประชาชน และจะต้องยอมรับว่าพรรคประชาชนทำให้ตนได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นเราก็ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพรรคประชาชน เมื่อครบ 4 เดือนก็ต้องยุบสภาฯไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น
ส่วนที่มีการมีกระแสข่าวว่าจะเลื่อนการยุบสภาฯ ซึ่งอาจเกิดก่อนเพื่อไม่ให้เกิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายอนุทิน ระบุว่า เป็นเรื่องที่ตนต้องดูสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา การอภิปรายไม่ไว้วางใจ วัตถุประสงค์คืออะไร หากมีวัตถุประสงค์มาทำเพื่อให้เกิด การล้างแค้น การเอาคืนแบบนี้ ถ้าถามตนว่าสภาจะเปิดขึ้นเมื่อไหร่ เราต้องดูไทม์ไลน์ เมื่อสภาฯเปิดเดือนธันวาคมตนก็ตั้งใจ จะยุบสภา 31 มกราคมอยู่แล้ว ตนคงไม่ปล่อยให้ใครมาด่ารัฐบาลเล่นๆฟรีๆ ถ้าเป็นเกมการเมืองแล้วรัฐบาลสู้เกมการเมืองไม่ได้ ก็ยุบสภาไป ห่างกันแค่เดือนเดียวคงไม่ได้เกิดความแตกต่างอะไรมากนัก เราจะไปตื่นเต้นกับสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ แต่สิ่งที่ตนมั่นใจคือสิ่งที่ทำใน 4 เดือนคือตนตั้งใจอย่างเต็มที่ ที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดให้บ้านเมือง โดยทีมงานมืออาชีพที่ตนได้ทำเข้ามา รัฐมนตรีเหล่านี้เสียสละมากเพราะหากอยู่ในที่เดิม ทั้งรายได้ บทบาท อนาคต แต่ตนก็ไปพูดให้เขาฟังว่า ถ้าเขามาทำแล้วเปลี่ยนบริบทประเทศไทยได้ สร้างมาตรฐานใหม่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มีระบบโควต้า ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และมีความหวัง เราก็น่าจะทำประเทศไทยให้ทุกอย่างเปลี่ยนได้ชั่วข้ามคืน ถ้าเราตั้งใจที่จะทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมจริงๆ เอาความเป็นส่วนตัวออกไป หรือประโยชน์ส่วนตัวออกไปเมื่อไหร่ คำว่าพรรคพวกออกมาได้ประเทศไทยกลับมาได้เร็ว
เมื่อถามว่าพร้อมกันเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า หากถามว่าตนพร้อมหรือไม่ ตนพร้อมตั้งแต่เขาเอาผมออกจากรัฐบาลแล้ว พร้อมก่อนหน้านั้นแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องเลือกตั้ง ถ้าไปถามสมาชิกพรรคภูมิใจไทย วันที่เข้าสภามาเมื่อปี 2566 หลังจากที่กกต. รับรองผลการเลือกตั้ง ตนได้แจ้งให้สมาชิกทราบว่าเตรียมตัวเลือกตั้งตั้งแต่วันแรก เพราะมันเกิดขึ้นได้ทุกวัน ตนปลูกฝังคนพรรคภูมิใจไทยว่าเลือกตั้งเกิดขึ้นได้เสมอ ต้องพร้อมถ้าพรุ่งนี้เลือกตั้งก็ต้องไปเลือกตั้ง
เมื่อถามว่าพร้อมที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน ยอมรับว่าก็ดีเหมือนกัน เป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องพร้อม วันนี้เป็นแล้ว ตอนแรกยังไม่ได้เป็นก็กล้าๆกลัวๆ แต่มาเป็นแล้วก็เห็นว่า สิ่งที่ทำได้ทำให้กับประชาชน ในฐานะนายกรัฐมนตรีถ้าเราทำได้ดีจะเป็นยาวหรือสั้น ไม่ได้มีความสำคัญสำหรับตน เป็นแล้วก็คือเป็น พร้อมกล่าวว่สสมัยตั้งแต่ปี 2547 - 2549 ที่ตนเป็นรัฐมนตรี และมีการรัฐประหาร ตนก็ออกไปตั้ง 13 - 14 ปี คนที่รู้จักตน แม้ไม่ได้สนิทเป็นเพื่อน เขาก็เรียกตนว่ารัฐมนตรีทุกคำ วันนี้ต่อให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีแค่ 3-4 เดือน จากนี้ไปคนเหล่านั้นก็คงเรียกตนว่านายกรัฐมนตรีเหมือนที่ตนเรียกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายทักษิณ ชินวัตร ว่านายกรัฐมนตรี เวลาที่เอาทำอะไรให้ปังไปสักอัน เกิดประโยชน์สูงสุดกับบ้านเมือง หรือเป็นภาพจำของประชาชนจะได้กลับหรือไม่ได้กลับไม่ใช่เรื่อง แต่เราบอกตัวเองได้แล้วว่า ขณะที่เราเป็นนายกรัฐมนตรีได้ทำประโยชน์อะไรบ้าง
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม กรณีหากฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 จะยุบสภาเร็วกว่ากำหนดเดิม 31 มกราคม 2569 ว่า Play it by ear (ไม่มีแผนการตายตัว)
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าหากมีการยื่นอภิปรายแบบล้างแค้นกัน นายกรัฐมนตรีก็จะยุบสภาใช่หรือไม่ นายอนุทิน บอกว่า ตอบไปแล้ว Play it by ear
ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าจะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง นายกรัฐมนตรีระบุเพียงว่ามั่นใจว่าจะได้เลือกตั้งแน่ๆ ในปีหน้า
ส่วนมีความกังวลในการบริหารงานที่ผ่านมาหรือไม่ที่จะถูกนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน บอกว่า ไม่มีครับ เราทำงานอย่างเต็มที่ด้วยความตั้งใจ ซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้
ผู้สื่อข่าวย้ำถามอีกว่าหากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวนายกรัฐมนตรี จะยังคงยุบสภาเร็วกว่ากำหนดหรือไม่ นายอนุทิน บอกว่า ทุกคนสามารถใช้สิทธิ์ของตัวเองได้ แต่ละฝ่ายล้วนมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ตามขอบข่ายอำนาจและกฎหมายที่กำหนด ก่อนจะย้ำผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า Play by ear
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากรัฐบาลมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมจึงไม่เปิดโอกาสให้อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน บอกว่ายังตอบตอนนี้ไม่ได้ ก่อนจะตอบเหมือนเดิม Play by ear
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังถามถึง กรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้นายธนดล สุวรรณฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(ด้านกฎหมาย) เป็นข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนไม่ได้ตั้ง เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องคัดเลือกคนเข้ามาทำงาน นี่จึงถือว่าเป็นการทำงานร่วมกัน และให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ส่วนจะเป็นสายล่อฟ้าให้นายกฯรัฐมนตรีต้องออกมารับผิดชอบเองหรือไม่ นายอนุทิน บอกว่า ต้องไปถามร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ใช่มาถามตน
ส่วนวิวาทะเรื่องที่ดินระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายธนดล จบไปแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบทันทีว่า ตนไม่เคยมีวิวาทะกับนายธนดล ที่ดินไม่ใช่ของตน


