"โรม" ห่วงผู้มีอำนาจ-นักการเมืองเอี่ยวสแกมเมอร์ล้มคดี จ่อเชิญ "ชนนพัฒฐ์" เข้าชี้แจง กมธ.ความมั่นคง ชี้เป็นช่วงปิดสมัยประชุม สส.ไม่มีเอกสิทธิคุ้มครองต้องรีบทำให้จบภายใน พ.ย.นี้ จี้รัฐบาล-DSI เร่งปราบเว็บพนัน-สแกมเมอร์ หลังประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ติงรีบด่วนสรุปไม่พบ 7 ชื่อนักการเมือง 5 ปีก่อนไม่มีชื่อ "ก๊ก อาน - ลียง พัด" แต่วันนี้กลับเจอ
วันที่ 5 พ.ย.68 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม กับพวกที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์และเส้นเงินยาเสพติดและการรับสินบนของตำรวจและข้าราชการท้องถิ่นและการเมืองมูลค่า 2,500 ล้านบาท และการล้มคดีเว็บพนันออนไลน์ ต่อนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร
นายรังสิมันต์ กล่าวขอบคุณนายอัจฉริยะ ที่เข้ามายื่นหนังสือเรื่องที่เกี่ยวกับนักการเมืองคนหนึ่งคือนายชนนพัฒฐ์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าไปเกี่ยวพันในเว็บพนัน ซึ่งเว็บพนันกับสแกมเมอร์ก็เป็นเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมาเซิร์ฟเวอร์ บัญชีม้าอาจจะเป็นแหล่งเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราติดตามอย่างใกล้ชิดถือว่ามีความสำคัญกับชาติบ้านเมือง เพราะนายกรัฐมนตรีก็ประกาศว่าปัญหาสแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ ไม่ใช่แค่ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในประเทศแต่เป็นปัญหาอาชญากรรมที่เป็นวาระใหญ่ของโลกถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่ต้องช่วยกันแก้ปัญหา ซึ่งเรื่องที่ได้ยื่นมาวันนี้คงไม่ช้าแน่นอน ในฐานะกรรมาธิการนอกจะเอาข้อมูลมาพิจารณาแล้วก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เท่าที่ดูเบื้องต้นมีนักการเมืองหลายคนถูกเชื่อมอยู่บางคนเป็น สส. ในปัจจุบันด้วยฉะนั้นเมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องนี้ จึงต้องให้ความเป็นธรรมในการชี้แจง และคาดหวังว่าหน่วยงานที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ต้องสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะเมื่อเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลต่าง ๆ ก็เป็นห่วงว่าจะมีการล้มคดีหรือไม่ กระบวนการยุติธรรมแทนที่จะเอาคนไม่ดีเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมาดำเนินคดี กลับเป็นการฟอกขาวให้กับคนเหล่านี้ซึ่งเป็นเรื่องที่จะทำลายหลักนิติรัฐหลักการเชิงกฎหมายและทำลาย ความเชื่อมั่น ของประชาชนอย่างยิ่ง
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม ดังนั้น สส. จึงไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองหรือสิทธิพิเศษใด ๆ จึงเป็นโอกาสดีที่ต้องเร่งสร้างความกระจ่างไม่ว่าจะผิดหรือไม่ผิด อย่างน้อยก็จะได้จบภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
เมื่อถามว่าการติดตามเรื่องสแกมเมอร์ในกรรมาธิการเคยมีชื่อของนายชนนพัฒฐ์เข้ามาหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า บางทีเว็บพนันกับสแกมเมอร์ก็แยกออกจากกันยาก หนึ่งในกระบวนการของสแกมเมอร์ไม่ใช่แค่โทรมาหลอกให้โอนเงินแต่มีหลากหลายรูปแบบ หลอกให้ลงทุนหลอกให้รัก หรือหลอกให้เล่นการพนัน ดังนั้นการที่บอกว่าไม่ได้ทำสแกมเมอร์แต่ทำเว็บพนันมันคือสิ่งเดียวกัน มีโอกาสที่จะเรียกนายชนนพัฒฐ์มาชี้แจง แต่เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ต้องดูว่านายชนนพัฒฐ์จะมาชี้แจงหรือไม่
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ข้อมูลที่นายอัจฉริยะนำมาเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ได้เลยในทางกระบวนการไม่ต้องใช้เวลานาน เมื่อข้อมูลชัดเจนขนาดนี้แม้จะต้องให้ความเป็นธรรมแต่ข้อมูลก็เพราะมากในการดำเนินการขั้นตอนต่อไป คาดหวังว่าจะไม่ชักช้า
เมื่อถามว่าจะเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่เพราะขณะนี้พรรคกล้าธรรมกับพรรคประชาชนกำลังมีปัญหากันอยู่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน พรรคประชาชนอยู่ในฐานะฝ่ายค้านตนก็อยู่ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงฯ ก็ต้องตรวจสอบรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่การทำงานของรัฐบาลแต่ในกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะเรื่องนี้เป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่เรื่องที่จะชี้หน้าว่าพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง หรือใครคนใดคนหนึ่ง แล้วมาบอกว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ต้องว่ากันด้วยพยานหลักฐานตำรวจหรือ DSI ไม่ได้ขึ้นกับฝ่ายค้านแต่ขึ้นกับฝ่ายรัฐบาลที่ต้องทำให้องค์กรเหล่านี้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด พร้อมตั้งคำถามไปยังรัฐบาลและหน่วยงานรัฐอย่าง DSI ว่าทำงานถึงไหนแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนแน่นอน แต่กลับคิดว่าความพยายาม
"ที่จะบอกว่าเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนกรรมาธิการไม่เป็นกลางต้องพูดตรง ๆ ว่า ในกรรมาธิการมีทุกพรรค พรรคกล้าธรรมก็อยู่ในนี้การที่บอกไม่เป็นกลางคงไม่ใช่ รวมไปถึงเป็นความพยายามเบี่ยงประเด็น โดยเอาเรื่องทางการเมืองแบบนี้มาดิสเครดิตกัน ไม่ได้สนใจมองในเรื่องรายละเอียดพยานหลักฐาน ยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามพยานหลักฐานถ้าเอาผิดได้ ก็ว่าไปตามกระบวนการสิ่งที่เรียกร้องสูงสุดคือต้องการกระบวนการยุติธรรมที่เป็นปกติสำหรับทุกคน ไม่ได้ต้องการรังแกใคร ผมเป็นฝ่ายค้านยืนยันว่าไม่สามารถไปสั่งการอะไรใครได้ " นายรังสิมันต์กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีกลไกอื่นเพื่อเชิญรัฐมนตรีมาชี้แจงอีกหรือไม่เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครมา นายนังสิมันต์ กล่าวว่า อยู่ในช่วงหารือในช่วงเป็นสมัยประชุมคงไม่ง่าย แต่การไม่มาชี้แจงอาจส่งผลเสียกับผู้ที่ไม่มาชี้แจงเอง ดังนั้นการตรวจสอบของเรายังคงเดินหน้าต่อไป บางคนอย่างนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดคลัง ได้รับการยืนยันว่าจะมาชี้แจงก็จะได้เห็นเป็นตัวอย่างว่าการมาชี้แจง มันดีต่อการแก้ไขปัญหาเรื่องสแกมเมอร์และดีต่อตัวผู้ชี้แจงยังไง
เมื่อถามว่าฝั่งรัฐบาลออกมาชี้แจงว่าไม่พบนักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้มี 2 ประเด็น คือหนึ่งรัฐบาลมี 7 รายชื่อแล้วใช่หรือไม่ สองที่ตรวจสอบว่าไม่พบก็ต้องตั้งคำถาม เพราะหากย้อนไป 5 ปีที่แล้วก็ไม่พบชื่อ "ก๊กอาน" และก่อนหน้านี้ถ้าไปตรวจสอบก็ไม่พบชื่อ "ลียง พัด" แต่วันนี้กลับเจอ ดังนั้นปัญหา คือ หน่วยงานราชการที่ผ่านมาแค่เช็คในเรื่องของเคสไอดีซึ่งแน่นอนว่าคงไม่เจอ ยังไม่ได้ตั้งต้นยังไม่เริ่มนับหนึ่งแต่วันนี้ข้อมูลต่าง ๆ ที่เข้ามาส่อไปว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่เช่นนั้นกระบวนการทางกฎหมายต่าง ๆ จะเดินได้ใช้อย่างไร ซึ่งข้อมูลของนายอัจฉริยะที่มายื่นหากนับรวมกันอาจเกิน 7 คน และเชื่อว่าหากไล่กันมากกว่านี้ อาจมีชื่อมากกว่าที่ปรากฏอยู่ในแผนผังของนายอัจฉริยะ ดังนั้นการที่รัฐบาลบอกว่ายังไม่เจอเป็นการรีบสรุปเกินไป การรีบสรุปแบบนี้แล้วออกมาพูดแบบนี้ต้องการอะไร
เมื่อถามว่ามองการจัดการเรื่องนี้ของรัฐบาลอย่างไรเมื่อเทียบกับสิงคโปร์ที่มีการแก้ไขกฎหมาย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ประเทศไทยได้รับความเสียหายกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก ไม่ใช่แค่เรื่องเงินยังมีเรื่องค้ามนุษย์ตามมาด้วย ความเชื่อมั่นด้านการเงินกับประเทศต่าง ๆ ก็เสียหาย นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฝ่ายค้านและตนที่เป็นกรรมาธิการถึงได้เรียกร้องเรื่องนี้นี่คือวาระสำคัญ
"จริง ๆ ก็มีสัญญาณบวกว่านายกก็ดูเหมือนมีท่าทีจะเอาจริงมากขึ้นอย่างน้อยทางการพูด แต่สิ่งที่เราต้องการเห็นคือรูปธรรม วันนี้รูปธรรมยังไม่มี แผนงานที่ชัดเจนยังไม่มีการสร้างความเชื่อมั่นยังไม่มี ประเด็นคือประเทศไทยเมื่อได้รับผลกระทบขณะนี้ใกล้กับแหล่งสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ ประเทศไทยต้องเป็นผู้นำและจะต้องเป็นคนที่สร้างรูปธรรมให้เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ยังไม่เกิด
ในฐานะที่ติดตามเรื่องเหล่านี้รู้สึกผิดหวัง เพราะประเทศอื่นที่อยู่ไกลกว่าเรา ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์เกาหลีใต้หรือสหรัฐอเมริกา ทำไมมีความคืบหน้ามากกว่าผมยืนยันว่าในแง่ของข้อมูลเรามีไม่แพ้ชาติอื่น แต่ปัญหาที่ทำให้เราไม่มีความคืบหน้าในเรื่องนี้คือการเอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่รัฐบกพร่องไป " นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ยาก ซึ่งเรื่องนี้ที่ยากเพราะติดอยู่กับปัญหาภายในประเทศ และยากเมื่อมีการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินต่าง ๆ ทำให้การยึดอายัดต่อไปในอนาคตยากลำบากมาก ดังนั้นการทำหน้าที่ของเราจะต้องนำไปสู่การสร้างแรงกระตุ้นเหมือนคนกำลังจะตายต้องมีไฟฟ้าช่วยกระตุ้น เพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ปฏิบัติหน้าที่ การประชุมกรรมาธิการแต่ละครั้งก็เหมือนการหาข้อมูลเพิ่มเติม และยืนยันว่าหน่วยงานรัฐมีข้อมูลแต่ปัญหาคือมีข้อมูลแล้วจะดำเนินการอะไรหรือไม่ เท่าที่เห็นหน่วยงานที่เริ่มนับหนึ่งมีแค่ กลต. แต่หน่วยงานอื่นยังไม่เห็นความคืบหน้า
ขณะที่นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่มายื่นเป็นเรื่องของ นายชนนพัฒฐ์ ซึ่งเกี่ยวข้องในส่วนของเส้นเงินยาเสพติดและการทำเว็บพนันออนไลน์ เป็นข้อมูลจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ สิ่งที่เราทำในวันนี้อยากให้เป็นมาตรฐาน การนำเงินจากเว็บพนันก็ดี ยาเสพติดก็ดี จากเด็กเดินโพย แล้วมาลงสมัคร สส. จนได้เป็น สส. โดยใช้เงินพวกนี้มาทำการเลือกตั้ง ถือว่าเป็นกรณีตัวอย่างที่ทำให้เห็น ว่าประเทศไทยอยู่ในยุค ที่ย้อนกลับในสมัย 2499 อันธพาลครองเมือง ที่นำเงินผิดกฎหมายมาใช้ในการเลือกตั้ง สร้างตัวตน ถ้าสภาอันทรงเกียรติจะมีสส.แบบนี้อีกจำนวนมาก ตนคิดว่าจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้
นายอัจฉริยะกล่าวต่อว่าคนที่มีส่วนในการรับเงินพวกนี้ มีทั้งตำรวจ ข้าราชการและ สส.ทั่วพื้นที่ประเทศไทย โดยกระจายผ่านบัญชีม้า ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมาตนยังไม่เห็นภาพชัดเจน ตนได้เดินทางไปพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รวมถึงนายกรัฐมนตรี แต่ก็ยังไม่เห็นถึงการเอาจริงเอาจัง ตนอยากเห็นการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น วันนี้เราเห็นนายกรัฐมนตรีแถลงข่าวปราบสแกมเมอร์ แต่ตำรวจรอบกายท่าน บางคนไปรับเงินจากสแกมเมอร์ ธุรกิจสีเทามา เราสามารถชี้ได้เลยว่าคนไหน เกี่ยวข้องกับการรับเงินจากธุรกิจผิดกฎหมาย คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ถ้ายังมีคนเหล่านี้อยู่ จะปราบได้อย่างไร การแต่งตั้งก็เอาคนที่รับสินบน มีการล้มคดีเกิดขึ้น เวลาจะปล่อยอายัดบัญชี ก็ต้องมีเปอร์เซ็นต์ ให้คนในกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ สิ่งต่างๆเหล่านี้มันพัวพันไปถึงการ รับเงินเว็บพนัน แล้วมาลงถังกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ รวมถึงหน่วยงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกหลายหน่วยงาน
นายอัจฉริยะยังโชว์แผนผัง เส้นเงินบัญชีม้า พร้อมระบุว่าตำรวจแทบไม่ต้องทำอะไรเลย ตนไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย แค่นำข้อมูลข่าวสาร มาเปิดเผย วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้สั่งการไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยตั้งเลขสืบสวนคดีของนายชนนพัฒฐ์ให้มีการดำเนินการแล้ว ตนอยากเห็นมิติการตรวจสอบนี้ ไม่ใช่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาเหตุ นำตนไปดำเนินคดี ตนยังไม่เห็นความหวังที่นายกรัฐมนตรี จะทำความจริงให้ปรากฏ ท่านบอกว่ายึดทรัพย์ 35,000,000,000 มีข้อมูลหมด ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อ แต่ตนคิดว่าโลกได้วิวัฒนาการไปแล้ว เราเปิดชื่อได้หมด
“มันเป็นผู้กระทำความผิดทางกฎหมาย คดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา คุ้มครองมาตรา 329 ให้กับผู้บริสุทธิ์ ในการเปิดข้อมูลให้ประโยชน์ตกต่อสาธารณะ แต่หากจะฟ้องร้องผม ผมไม่ได้แคร์ ผมไม่ได้สนใจ” นายอัจฉริยะกล่าว


