xs
xsm
sm
md
lg

"มาร์ค" ชี้ยึด 4 ข้อเรียกร้อง กำหนดนโยบายให้ชัดก่อนเลือกตั้ง รับไทยเคยถูกศาลโลกปิดปากต้องระวังเขมรเคลื่อนไหว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"อภิสิทธิ์" เข้าแจง กมธ.ศึกษายกเลิก MOU 43-44 วุฒิฯ ย้ำไทยยังต้องยึด 4 ข้อเรียกร้องเป็นหลัก จี้รบ.เร่งกำหนดทิศทางนโยบายให้ชัดก่อนเลือกตั้ง หวั่นสับสนระหว่างแนวทางประชามติ-กมธ. สองสภา เผยไทยเคยถูกคำตัดสินศาลโลกใช้ “กม.ปิดปาก” เป็นเหตุชี้ขาด ต้องระวังไม่นิ่งเฉยต่อเขมรเคลื่อนไหว

วันนี้ (28 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มาชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 43-44 เพื่อแก้ปัญหาปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา วุฒิสภา ทีมี นายนพดล อินนา สว. เป็นประธานกมธ โดยมีการสอบถามถึงแนวทางการศึกษาเอ็มโอยู ก่อนการนำเสนอ ครม. พร้อมสอบถามความเป็นมาเป็นไปในยุคที่นายอภิสิทธิ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายอภิสิทธิ์ กล่าวในช่วงแรกว่า ตอนที่ตนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกัมพูชามีหลายมิติ สำหรับสถานการณ์ขณะนั้น สืบเนื่องมาจากรัฐบาลก่อนหนน้านั้น 2 ชุด เผชิญปัญหาที่ยินยอมให้กัมพูชา ยอมนำเรื่องปราสาทเขาพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทำให้กัมพูชาเคลื่อนไหว และเข้ามาเกี่ยวข้องกับการจัดการพื้นที่ ตามที่ทราบกันดีในคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศ เมื่อปี 2505 ระบุแค่ว่าตัวปราสาทเป็นพื้นที่ของกัมพูชา ไม่เคยระบุถึงเส้นเขตแดน จึงเป็นโจทย์ที่รับมาขณะนั้น

“สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นปัญหาค้างคาและสืบเนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลโลก เมื่อปี 2505 ที่ศาลอาศัยเหตุผลคำว่า กฎหมายปิดปากมาเป็นปัจจัยชี้ขาด ทำให้ฝ่ายไทยวิตกกังวลตลอดเวลาวว่า หากมีการกระทำนำเสนออะไรจากฝ่ายกัมพูชา หากเรานิ่งเฉยอาจเป็นปัญหาได้” นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงต่อกมธ.

อย่างไรก็ตามก่อนหน้าจะเขาร่วมชี้แจง นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า รัฐบาลในขณะนั้น เคยมีแนวคิดและการดำเนินการที่จะยกเลิก MOU ปี 2544 คงจะมีการสอบถามในรายละเอียดวิธีคิดในตอนนั้นว่าคืออะไร แต่ไม่ทราบว่า ในการประชุมจะมีการสอบถามไปยังเรื่องอื่นๆ อีกหรือไม่ ส่วนความคิดเห็นที่แตกต่าง ทั้งข้อดีและข้อเสียนั้น ในตอนนี้ต้องบอกว่ามีความสับสนอยู่มาก เนื่องจากรัฐบาลไปเขียนในนโยบายว่าจะทำประชามติ แต่ทั้ง 2 สภา ก็ตั้ง กมธ.ขึ้นมาก่อนหน้า และล่าสุดที่มีการไปลงนามกับทางกัมพูชาที่อาเซียนก็ยังมีการอ้างอิงถึงการดำเนินการตาม MOU อยู่ด้วย สิ่งที่รัฐบาลต้องชี้แจงคือแนวทางการทำงานในขณะนี้จนถึงวันเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร มิเช่นนั้นจะทำให้เกิดความสับสนอยู่พอสมควรว่าการทำงานในขณะนี้ กับนโยบายนี้จะสัมพันธ์กันอย่างไร

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของประชาชนคงอยากได้ข้อมูลมากที่สุด ก่อนจะมีการทำประชามติ แต่ในแง่ของคนทำงาน ทางกระทรวงการต่างประเทศก็ดีก็คงอยากได้ความชัดเจนในเรื่องของทิศทางในเชิงนโยบายด้วย เพราะจะเอาทุกอย่างไปแขวนเพื่อรอการทำประชามติคงไม่ได้ จึงอยากให้ทางรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเดินหน้าได้ อย่างน้อยที่สุดตอนนี้ทุกคนคงเห็นพ้องต้องกันถึงข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ที่ต้องการให้ฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติก่อนที่จะพูดในเรื่องอื่น


กำลังโหลดความคิดเห็น