xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ชี้MOUไทย–สหรัฐแร่ธาตุจำเป็น มีทั้งโอกาสและเสี่ยงจี้รัฐรักษาสมดุลสัมพันธ์จีน ห่วงส่งผลสิ่งแวดล้อม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองหัวหน้าปชป. ชี้MOU ไทย–สหรัฐฯ ด้านแร่ธาตุจำเป็น มีทั้งโอกาสและความเสี่ยงเตือนรัฐบาลต้องเปิดเผยกระบวนการ โปร่งใส–มีส่วนร่วม และรักษาสมดุลความสัมพันธ์กับจีน ห่วงผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการขุดเจาะ ขอให้รัฐบาลจัดทำแผนรองรับชัดเจน

วันนี้ (26 ตุลาคม 2568) นายวีระพงษ์ ประภา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก อาร์ท วีระพงษ์ ประภา - Art Werapong วิเคราะห์ถึงผลกระทบและความท้าทายจากประกาศบันทึกความเข้าใจร่วม (MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยและสหรัฐอเมริกา ว่าด้วยความร่วมมือด้านแร่ธาตุจำเป็น (Critical Minerals) โดยระบุว่าเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจมีผลอย่างมากต่อเศรษฐกิจ ความมั่นคง และสิ่งแวดล้อมของไทย

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา The White House ประกาศบันทึกความเข้าใจร่วม (MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยและสหรัฐ เกี่ยวกับความร่วมมือด้านแร่ธาตุจำเป็น (critical minerals) ซึ่งผมคิดว่าเป็นประเด็นสำคัญที่จะต้องจับตามอง เพราะอาจมีผลมากต่อเศรษฐกิจ ความมั่นคง และสิ่งแวดล้อมไทย

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า แร่ธาตุจำเป็น เช่น แร่ธาตุหายาก (rare earth minerals) ดีบุก ทังสเตน เป็นวัตถุดิบสำคัญของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ พลังงานสะอาด เช่น ต้องใช้ในการผลิตรถยนต์ EV ปัจจุบัน สหรัฐและจีนจึงพยายามแข่งขันกันครอบครองตลาดดังกล่าว เพราะการเข้าถึงแร่ธาตุจำเป็นจะเป็นอาวุธทางเศรษฐกิจและการเมืองที่สำคัญในอนาคต

ปัจจุบัน จีนเป็นผู้นำของตลาดแร่ธาตุจำเป็น ทั้งการขุดเจาะพัฒนาในจีนและในประเทศที่สาม และเร็วๆ นี้ ก็ได้ใช้ความเป็นผู้นำในตลาดนี้ขู่สหรัฐเบาๆ ว่าจีนอาจจะเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการส่งออกแร่ธาตุจำเป็นไปยังประเทศต่างๆ รวมถึงสหรัฐ เพื่อเป็นข้อต่อรองในการเจรจาอัตราภาษีกับสหรัฐ

ประธานาธิบดี Trump จึงต้องเร่งเจรจากับชาติต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าสหรัฐจะเข้าถึงแร่ธาตุจำเป็นได้อย่างเพียงพอ โดยไม่ต้องง้อจีนเกินไป เมื่อสัปดาห์ก่อน สหรัฐลงนามความตกลงกับออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแร่ธาตุจำเป็นรายใหญ่ของโลก

สำหรับไทย MOU ที่เพิ่งเผยแพร่ระบุว่าสหรัฐจะช่วยไทยค้นหาพื้นที่ขุดเจาะและผลิตแร่ธาตุจำเป็น โดยให้ความช่วยเหลือด้านทางเทคนิค ด้านบุคคล ตลอดจนเร่งประสานความร่วมมือระหว่างบริษัทสหรัฐและไทย โดยมีข้อแม้สำคัญว่าไทยจะให้โอกาสสหรัฐเป็น “เจ้าแรก” ที่จะเข้าถึงแร่ธาตุจำเป็นเหล่านี้ สอดคล้องกับความต้องการของสหรัฐที่จะเพิ่มการเข้าถึงแร่ธาตุจำเป็นของตนเอง และกันจีนให้มากขึ้น

ข้อดีของ MOU นี้ คือ เป็นโอกาสให้ไทยเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมแร่ธาตุจำเป็นจากเดิมที่มีอยู่ ซึ่งน่าจะสร้างรายได้ให้ประเทศได้ไม่น้อย เพราะแร่ธาตุจำเป็นเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดโลก

อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่ามีอีก 3 ข้อ ที่เราต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด

ข้อแรก คือ กระบวนการมีส่วนร่วมและความโปร่งใสของโครงการขุดเจาะและพัฒนา โดยในระยะต่อไป รัฐบาลควรประกาศแผนที่ชัดเจนถึงหน้าตาของความร่วมมือระหว่างสหรัฐและไทย เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจไทยสามารถเข้าถึงโอกาสนี้ได้อย่างเท่าเทียม มีการแข่งขัน นอกจากนี้ ควรให้มั่นใจว่าโครงการจะส่งผลบวกมากที่สุดต่อการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจและคนไทย

ข้อสอง คือ การรักษาสัมพันธภาพอันดีระหว่างไทยและจีน ปัจจุบัน เศรษฐกิจไทยพึ่งพาจีนสูง จีนอาจใช้อำนาจทางเศรษฐกิจกดดันไทย หากไทยร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสหรัฐในตลาดที่สองมหาอำนาจกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด การพยายามรักษาความสัมพันธ์ทั้งกับจีนและสหรัฐ โดยไม่ให้ไทยเสียประโยชน์ จึงเป็นโจทย์สำคัญของการทูตเศรษฐกิจไทย

ข้อสาม คือ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การขุดเจาะและผลิตแร่ธาตุจำเป็นมีโอกาสสร้างขยะทางสิ่งแวดล้อมสูง ดังนั้น รัฐบาลควรมีแผนรองรับด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวอย่างโปร่งใส


กำลังโหลดความคิดเห็น