xs
xsm
sm
md
lg

“นันทนา” แฉปฏิบัติการ SLAPP บรรจุวาระด่วนไต่สวนจริยธรรม “ปิดลับ” ฟ้องปิดปากไม่ให้แฉฮั้ว สว.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สว.นันทนา” แฉ! ปฏิบัติการ SLAPP บรรจุวาระด่วนไต่สวนจริยธรรมแบบ “ปิดลับ” ฟ้องปิดปากไม่ให้แฉฮั้ว สว. ระบุ กก.จริยธรรม 15 ใน 22 คน เป็น “คู่ขัดแย้ง” ถูกร้องเรียน แต่ดื้อสอบไร้พยานหลักให้ปากคำ เตือน “ขบวนการกินรวบประเทศ” อำนาจทุกฝ่ายอยู่ในมือกลุ่มเดียว ปชช.ต้องลุกขึ้นต้าน

วันนี้ (26 ต.ค.) นางนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ว่า วุฒิสภาบรรจุวาระด่วนเรื่อง ให้มีการลงมติการร้องเรียนจริยธรรมของ สว.นันทนา นันทวโรภาส เป็นการด่วน

สืบเนื่องมาจากในเดือนตุลาคม 2567 ได้มีผู้ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ว่า ดิฉันมีพฤติกรรมที่ไม่เคารพสิทธิเสรีภาพ เสียดสีด้อยค่า สว.ท่านหนึ่งในสภา ด้วยคำกล่าวที่ว่า

“ดิฉันถูกโหวตออกจากรรมาธิการพัฒนาการเมือง ได้คนขายหมูเข้ามาเป็นกรรมาธิการ .. ซึ่งตรงนี้ขอฟ้องประชาชน ว่ากระบวนการคัดสรรผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งใน กมธ. ไม่ได้คำนึงถึงฐานประวัติกลุ่มอาชีพของผู้สมัครเข้ามาเป็น สว. แต่ใช้เสียงข้างมากในการโหวต”

ซึ่งคณะกรรมการจริยธรรมประกอบไปด้วย สว.จำนวน 22 คน ในจำนวนนี้มีสว.ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีฮั้ว สว.จำนวนทั้งสิ้นถึง 15 คน รวมทั้ง พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการด้วย ซึ่งดิฉันได้ร้องคัดค้านกรรมการทั้ง 15 คนนี้ เนื่องจากดิฉันได้ออกมาต่อสู้ให้สว.เหล่านี้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และชะลอการลงมติเพื่อเลือกองค์กรอิสระ จึงถือว่าเป็น “คู่ขัดแย้ง” โดยตรง ย่อมไม่อาจมาทำหน้าที่วินิจฉัยคดีนี้ได้

แต่คณะกรรมการชุดนี้ก็ยังดึงดันที่จะสอบสวนต่อ โดยทุกอย่างดำเนินการโดย “ลับ” และยังกลั่นแกล้งมิให้นำพยานคนสำคัญ ได้แก่ รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว ดร.ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ และทนายอนันตชัย ไชยเดช เข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมการ ทั้งที่ได้มีหนังสือนัดหมายไว้แล้ว

จึงถือว่ากระบวนการสอบสวนจริยธรรมนี้ “มิชอบ” ทั้งตัวคณะกรรมการ 15 คนที่เป็น “คู่ขัดแย้ง” กับดิฉัน และกระบวนการสอบสวนที่ปิดลับ ไม่เปิดโอกาสให้มีการชี้แจงอย่างโปร่งใส เป็นการ “ปิดประตูตีแมว” รวบรัดลงมติกันโดยอคติ กลั่นแกล้ง เพื่อต้องการให้ดิฉันพ้นจากตำแหน่ง สว.

การนำมติกล่าวโทษดิฉันเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภานี้ กำหนดให้เป็นการประชุมลับตามข้อบังคับที่ 42 ซึ่งประชาชนจะไม่ได้รับรู้ข้อมูลใดๆ เลย และในที่สุดก็จะมีการลงมติ ตามข้อบังคับที่ 43 วรรคสอง โดยใช้เสียง สว. สามในห้า หรือ 120 เสียง เพื่อส่งให้ปปช.ดำเนินคดีต่อไป

นี่คือ การฟ้อง “ปิดปาก” มิให้ดิฉันออกมาเปิดโปง กระบวนการ “ฮั้ว สว” และมิให้ “ยับยั้ง” การลงมติเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระอีกต่อไป

หากดิฉันถูกบดขยี้เช่นนี้ได้ ก็จะเป็นกรณีตัวอย่าง มิให้ สว.อิสระอื่นๆ ขัดขืน ต่อ สว.สีน้ำเงิน และต้องยอมจำนนต่อการ “กินรวบ” ในวุฒิสภาตลอด 5 ปีนี้

นี่คือ กระบวนการ “ปิดหูปิดตาประชาชน” เป็นขบวนการ “กินรวบประเทศไทย” ที่จะเป็นหายนะของประเทศอย่างใหญ่หลวง หากอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ องค์กรอิสระ ตกอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียว

ด้วยความกล้าหาญ และยึดมั่นในอุดมการณ์ ดิฉันเชื่อว่า เสียงเล็กๆ ในฐานะ สว.ของดิฉัน จะสามารถพิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชนได้ เพราะดิฉันจะเปิดโปงความฉ้อฉลทั้งปวง ที่เกิดขึ้นกับประเทศนี้ ขอประชาชนร่วมเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ต่อสู้กับความบิดเบี้ยวนี้ไปด้วยกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น