นายกฯ ยันบินมาเลเซียพรุ่งนี้ ลงนามข้อตกลงสันติภาพไทย-กัมพูชา โดยขอเลื่อนเป็นช่วงเช้าเพื่อกลับมาทันงานพระราชพิธี เผย ได้ข้อสรุปแนวทางที่กัมพูชานำไปปฏิบัติ หากทำได้จริงค่อยดำเนินการตามธรรมเนียมการทูต ไม่ต้องกังวลว่าไทยจะเสียเปรียบหรือสูญเสียอธิปไตย แต่ทำเพื่อใความปลอดภัยของประชาชนและลดความสูญเสีย ส่วนประชุมเอเปก ขอมติ ครม.ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญยิ่งยวดให้ รมว.กต.ไปแทน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ว่า จริงๆ วันนี้มีกำหนดการที่ต้องเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ซึ่งตนได้ขอยกเลิก แต่ว่าในวันที่ 26 ต.ค. จะมีเรื่องการลงนามในถ้อยแถลงเรื่องการกำหนดแนวทางที่จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพ ไทย-กัมพูชา โดยมีสักขีพยานคือนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ตนได้ขอให้ร่นระยะเวลามาเป็นการลงนามในช่วงเช้า ซึ่งตนจะเดินทางไปและรีบกลับมาให้ทันพระราชพิธี
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขอยืนยันให้พี่น้องประชาชนได้ทราบว่า กว่าจะถึงจุดนี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานความมั่นคง กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมเจรจา มาตั้งแต่ในชั้นการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา และ การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (GBC) จนได้ข้อสรุปที่เป็นเงื่อนไขแนวทางให้ทางกัมพูชาได้ปฏิบัติ เมื่อเขาปฏิบัติเราก็จะพิจารณาว่าเมื่อความเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ หากหมดไปเราก็ค่อยดำเนินการตามธรรมเนียมทางการทูต ดังนั้น ขณะนี้จึงยังไม่มีสิ่งใดที่เป็นความกังวลว่าลงนามแล้วจะเกิดการเสียเปรียบหรือไม่ หรือทำให้สูญเสียอธิปไตย เรื่องแบบนี้ไม่มีทั้งสิ้น แต่เป็นการทำเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและลดความสูญเสีย รวมถึงรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย
ส่วนการประชุม ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ตนได้ขอมติคณะรัฐมนตรีว่าถ้าไม่มีประเด็นที่สำคัญอย่างยิ่งยวด ที่จะต้องให้ผู้นำประเทศร่วมหารือ ก็จะให้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ ได้ทำหน้าที่แทน ซึ่งส่วนตัวมีความตั้งใจอยู่แล้วว่าจะต้องอยู่ในประเทศ


