“เอกชัย เรืองรัตน์” ย้ำข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่าของประชาชนในศตวรรษที่ 21 ชี้ข้อมูลคนไทยกว่า 90% ถูกส่งไปตปท. เสี่ยงสูญอำนาจควบคุมและกระทบความมั่นคงทางเศรษฐกิจ–วัฒนธรรม เตือนภัย AI และบรรษัทเทคโนโลยีข้ามชาติ
วันนี้(15 ต.ค. ) นายเอกชัย เรืองรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะสมาชิกรัฐสภา อภิปราย ในการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเสนอให้เพิ่ม อธิปไตยด้านข้อมูลข่าวสารเป็นหลักการสำคัญในรัฐธรรมนูญ โดยชี้ว่าข้อมูลคือทรัพยากรล้ำค่าของโลกยุคศตวรรษที่ 21 และเป็นทรัพย์สินของประชาชนที่ต้องได้รับการคุ้มครองอย่างถึงที่สุด
นายเอกชัยระบุว่า ปัจจุบันข้อมูลของคนไทยกว่า 90% ถูกส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ของต่างประเทศ ไม่ว่าจะผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ รถยนต์อัจฉริยะ หรือกล้องวงจรปิดในบ้าน ซึ่งหมายความว่า “ข้อมูลของคนไทยไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว” แม้มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) แต่ยังมีผลเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น
นายเอกชัยยังเตือนว่าหากไม่เร่งวางหลักประกันในรัฐธรรมนูญ ข้อมูลส่วนบุคคลของคนไทยจะกลายเป็น “สมบัติที่ไร้อธิปไตย” เพราะถูกต่างชาติถือครองและประมวลผลโดยไม่มีขอบเขต ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมในระยะยาว
“ยกตัวอย่างมูลค่าการซื้อขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของไทยสูงถึง 2.6 ล้านล้านบาทในปีที่ผ่านมา แต่ข้อมูลและเม็ดเงินส่วนใหญ่กลับไหลออกนอกประเทศโดยรัฐไม่สามารถเข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะประธานอนุกรรมาธิการด้านแพลตฟอร์ม ของวุฒิสภามาก่อน เคยเชิญบริษัทเทคโนโลยีใหญ่หลายรายมาชี้แจง แต่ไม่เคยได้รับความร่วมมือแม้แต่รายเดียว รัฐธรรมนูญที่ไม่มีหลักประกันด้านข้อมูลส่วนบุคคล ก็เหมือนป้อมปราการที่ไร้กำแพง”
นายเอกชัยยังได้เตือนถึงภัยจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่อาจบิดเบือนความคิด ความเชื่อ และวัฒนธรรมของคนไทย หากไม่มีระบบควบคุมตั้งแต่ต้นทาง ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ต้องเพิ่มเนื้อหาเหล่านี้เข้าไปด้วย เพราะ อธิปไตยของชาติเริ่มต้นจากอธิปไตยของปัจเจกชน และข้อมูลคือสนามรบใหม่ที่เราต้องไม่ยอมจำนน


