เปิดไทม์ไลน์ "สอบท้องถิ่น 68" ผู้สมัคร 4.8 แสน ไม่เคว้งแล้ว! หลังเลื่อนเกือบ 2 เดือน "อธิบดี สถ." แจงวงประชุม ก.กลาง จัดสอบได้แน่ปีนี้ ประสานกรมบัญชีกลาง แจ้งผลพิจารณาอุทธรณ์จ้างเหมามีปัญหา 140 ล้าน "ทิศทางบวก" ปลาย ก.ย.นี้ เล็งเชิญ "มศว." สถาบันผู้ชนะเสนอราคา กำหนดเดือน ระหว่าง ต.ค.-พ.ย.-ธ.ค.นี้ เผย มหากาพย์ 3 ปี ลากยาว "มท.1" ถึงสามยุค เลื่อนสอบ/เลื่อนประกาศ "สถาบันผู้ชนะ"จัดสอบ แถมตั้งคณะกรรมการสอบ/ยกร่างฯ ไม่ต่ำกว่า 5 ชุด คาดสุดท้าย "มท.หนู" เคาะ
วันนี้ (26 ก.ย.2568) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการดำเนินการสอบแข่งขันบุคคลเป็นข้าราชการ หรือ พนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2568 หรือ สอบท้องถิ่น ปี 2568 ที่ติดปัญหาลากยาวมาตั้งแต่เดือน ม.ค.2567
ภายหลัง เมื่อกลางเดือน ก.ค. 2568 กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการกลางข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ก.กลาง (ก.จ. (อบจ.) ก.ท. (เทศบาล) และ ก.อบต.)
ได้ออกประกาศเลื่อนการสอบ ออกไป "ไม่มีกำหนด" แม้จะมีการเปิดรับสมัครจากผู้มีสิทธิสอบ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มากถึง 438,277 คน
ขณะที่ ผู้บริหาร มท. รัฐบาลที่แล้ว กำชับให้ สถ. ให้ดำเนินการประสานหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ขอความร่วมมือเร่งรัดการพิจารณาให้ใช้ระยะเวลาน้อยที่สุดเท่าที่จะดำเนินการได้
"อาจจะทำให้แผนการจัดสอบแข่งขันต้องเลื่อนออกไป อย่างมากที่สุดไม่เกิน 70 วัน"
ซึ่งที่ผ่านมา สถ. ได้รับเงินค่าสมัครสอบ หัวละ 400 บาท/คน จากผู้สมัคร 438,277 คน รวมทั้งสิ้น 175,310,800 บาท ตั้งแต่เดือน ก.พ.2568
ล่าสุด ในการประชุม ก.กลาง ที่ประชุมมีการสอบถาม ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ อธิบดี สถ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ได้คำตอบว่า กำลังรอหนังสือตอบกลับจาก กรมบัญชีกลาง (บช.) กระทรวงการคลัง ในกรณี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ (มรภ.สุรินทร์) ได้ยื่นอุทธรณ์ผลการ พิจารณาการประกวดราคา
สถ. ระบุว่า ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายจัดซื้อจัดจ้าง หลังจากพิจารณาและจัดทำความเห็นรายงานให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ กรมบัญชีกลาง วินิจฉัยสั่งการ
"ซึ่ง บช. พิจารณาเสร็จแล้ว ผลจะออกมาในทางบวก เร็ว ๆนี้ จะเชิญ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) ที่เป็นผู้ชนะการเสนอราคา เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2568 มาเสนอแผนการดําเนินการจัด สอบได้เร็วๆ นี้ โดยทางอธิบดี สถ.มั่นใจว่า สอบได้ ภายในปีนี้แน่นอน แต่จะเป็นเดือนไหนต้องรอหารือกับ มศว.ก่อน"
มีรายงานว่า ในวาระเพื่อทราบ ที่ 4.1 เรื่อง รายงานผลการดําเนินการจัดซื้อจัดจ้าง จ้างเหมาดําเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคล เป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
มีการแจ้ง สาเหตุที่มีการเลื่อนสอบ ท้องถิ่น ปี 2568 เริ่มจาก เมื่อ 28 ธ.ค.2566 ยุคนายอนุทิน ชาญวีรกุล เป็น มท.1 รัฐบาลนายเศรษฐา สถ. ประกาศให้ มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นผู้ชนะการเสนอราคางานจ้างดําเนินการสอบแข่งขัน
ต่อมา กลุ่มเครือข่ายต่อต้านการทุจริตการสอบเป็นข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ได้มีหนังสือร้องเรียน กระทรวงมหาดไทย ขอให้เปลี่ยนแปลงวิธีการสอบแข่งขัน จนเมื่อ 16 ม.ค. 2567 มท.ยุคนายอนุทิน ได้แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
"ขอให้พิจารณาทบทวนการอนุมัติจัดจ้างให้มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นผู้จัดสอบแข่งขัน และขอให้มีการตรวจสอบการเรียกร้องผลประโยชน์ในการสอบแข่งขันฯ ตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้น กระบวนการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น เพื่อป้องกันการทุจริต"
ต่อมา 22 ม.ค. 2567 สถ.ยุคนายอนุทิน มีหนังสือถึง มหาวิทยาลัยบูรพา แจ้งขอชะลอกระบวนการลงนามในสัญญาจ้างเหมาดําเนินการ สอบแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อ 29 ม.ค. 2567 คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีมติให้ สถ. คัดเลือกมหาวิทยาลัยของรัฐ ที่มีความเหมาะสมเพื่อจัดการสอบแข่งขัน
ต่อมา 14 พ.ค. 2567 คณะกรรมการกลางการสอบฯ (กสถ.) ได้รับฟังคําชี้แจงของมหาวิทยาลัยบูรพา และต่อมาคณะกรรมการชุดนี้ เมื่อ 16 ธ.ค. 2567 มีมติว่า หากดําเนินการตามขอบเขตงานจ้างที่มีอยู่เดิมอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐและกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ
"การกําหนดมาตรการป้องกันการทุจริตเพิ่มเติม จะมีผลทําให้ขอบเขตงานจ้างเปลี่ยนแปลงและมีผลกระทบต่อวงเงินงบประมาณที่อาจจะเปลี่ยนแปลงตามปริมาณงานที่เปลี่ยนแปลงไป จึงให้ สถ. หารือกรมบัญชีกลาง"
ต่อมา 14 ม.ค.2568 สถ. ได้แต่งตั้งคณะทํางานร่างขอบเขตการจ้างเหมา ดําเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ให้มีมาตรการการป้องกันการทุจริตที่รัดกุม
ตามข้อสั่งการของ มท.1 สมัยนั้น ที่มอบหมาย สถ.ดําเนินการตามข้อเสนอแนะในรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงจัดทํามาตรการป้องกันการทุจริตเพิ่มเติมให้มีความรัดกุม
ในยุคนายอนุทิน เมื่อ 8 ม.ค. 2568 สถ.ได้หารือกรมบัญชีกลาง สรุปได้ว่า "หาก สถ. มีความประสงค์จะยกเลิกการจัดจ้าง ย่อมเป็นดุลยพินิจของส่วนราชการ ที่จะพิจารณา"
โดยข้อหารือดังกล่าว นำไปสู่การออกประกาศ ยกเลิกงาน จ้างเหมาดําเนินการสอบแข่งขัน เมื่อ 13 ก.พ. 2568 "สถ. อ้างว่า เพื่อรักษาไว้ซึ่ง ความโปร่งใส ตรวจสอบได้และระบบคุณธรรม อันเป็นประโยชน์สาธารณะสูงสุดที่หน่วยงานของรัฐพึงกระทํา"
อีกทั้งการแยกขั้นตอนการรับสมัครออกจากงานจ้างดําเนินการสอบแข่งขัน จะทําให้ทราบวงเงินงบประมาณและจํานวนผู้สมัคร ที่แน่นอนชัดเจนเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการสอบแข่งขันและประโยชน์ในการวางมาตรการป้องกันการทุจริต
การยกเลิกงานจ้างก่อนลงนามในสัญญาจ้างจึงเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะที่สูงกว่าและเป็นการป้องกัน ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับหน่วยงานของรัฐ
ทั้งนี้ การดำเนินการคัดเลือก มหาวิทยาลัยของรัฐ ที่มีความเหมาะสมเพื่อจัดการสอบแข่งขัน กสถ. ได้มีมติแผนขั้นตอนการปฏิบัติการการสอบแข่งขัน เมื่อ 17 ก.พ. 2568 ในยุคนายอนุทิน นั่ง มท.1
มีการออกประกาศ รับสมัครสอบทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 7 - 28 มี.ค.2568 จนปิดรับสมัครและปิดชําระค่าธรรมเนียม มีผู้สมัครที่มีสิทธิสอบ ทั้งสิ้น 438,277 เป็นเงิน 175,300,800 บาท
ต่อมา 2 เม.ย.2568 สถ. เริ่มประบวนการประกวดราคาจ้างเหมาดําเนินการสอบแข่งขันฯ (e-bidding) สิ้นสุดระยะเวลาการประชาพิจารณ์ เมื่อ 30 เม.ย. 2568
มีผู้ประกอบการแสดงความคิดเห็นต่อร่างประกาศและร่างเอกสารประกวดราคา จํานวน 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
มีความเห็นว่า ไม่ควรปรับปรุงร่างขอบเขตของงานจ้าง เนื่องจากร่างขอบเขตของงานจ้างเป็นไปตาม กฎหมาย ระเบียบ และหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง โดยพิจารณาประโยชน์ของทางราชการ โปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ และไม่ได้เป็นการกีดกันการเสนอราคาแต่อย่างใด
ซึ่งเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วย การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 47 (2) โดยได้จัดทําคําชี้แจงแก่ผู้ประกอบการ ที่ได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐทั้ง 2 แห่ง เรียบร้อยแล้ว
ต่อมา 25 เม.ย. 2568 สถ. แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ สําหรับประกวดราคาจ้างเหมา
ดําเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ด้วยวิธีการประกวดราคา ได้จัดทําร่างขอบเขตการจ้าง ภายในวงเงิน 140,244,640 บาท และได้เผยแพร่ประกาศ
"จนเมื่อ 10 มิ.ย. 2568 เวลา 12.00 น. มีผู้ยื่นข้อเสนอ จํานวน 3 ราย คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ได้มีมติเห็นควรจ้างเหมา "มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ" สิ้นสุด ยุคนายอนุทิน เป็น มท.1
ต่อมา 26 มิ.ย. 2568 ในช่วง น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ นั่งรักษาการ มท.1 สถ.ได้ประกาศรายชื่อผู้ชนะการเสนอราคา ได้แก่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งเป็นผู้ได้คะแนนรวมสูงสุดเสนอราคา เป็นเงินทั้งสิ้น 133,236,208 บาท
(จํานวนผู้สมัครสอบ 438,277 คน เฉลี่ยอัตราคนละ 304 บาท) ซึ่งราคาที่เสนอ เป็นราคาที่ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งปวงด้วยแล้ว ซึ่งต่ำกว่าเงินงบประมาณ 7,012,462 บาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 5
ต่อมาเมื่อ 4 ก.ค.2568 ในยุคนายภูมิธรรม เวชยชัย นั่ง มท.1 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ได้ยื่นอุทธรณ์ ผลการพิจารณาการประกวดราคา สถ. จึงต้องปฏิบัติตามกฎหมายจัดซื้อจัดจ้าง ดังกล่าว
ต่อมา กรมบัญชีกลาง ได้มีหนังสือแจ้งให้ สถ.ดําเนินการพิจารณาในประเด็นต่าง ๆ เพิ่มเติม จํานวน 9 ประเด็น ซึ่งได้จัดส่งข้อมูลและเอกสารประกอบการพิจารณา เพิ่มเติม
ซึ่งได้ประสานกับทางกรมบัญชีกลางแล้ว แจ้งว่าจะมีการพิจารณาประเด็นดังกล่าวช่วงปลายเดือนกันยายนนี้
ล่าสุด นายอนุทิน จะกลับมา นั่ง มท.1 อีกครั้ง คาดว่าจะกำกับ สถ. แถมยังพ่วง ตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" อีกด้วย.