xs
xsm
sm
md
lg

เร่งซ่อมกลุ่มรั้วหลังตึกไทยคู่ฟ้า รอรับ "ครม. หนู" หลังครบ 1 ปี "ถอนต้นตีนเป็ด"ทำตึกทรุด ปลูกยุคลุง รื้อยุคมาดามแพร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เร่งซ่อมกลุ่มรั้วหลัง "ตึกไทยคู่ฟ้า-ภักดีบดินทร์ " รอรับ "รัฐบาลหนู" พบดำเนินการมาแล้วครบ 1 ปี เหตุมีรอยแตกร้าว ทรุดเอียง จากปัญหา “รากต้นตีนเป็ด” ที่ปลูกตลอดแนวริมรั้ว ตั้งแต่ "ยุครัฐบาลลุง" ก่อน "ยุคมาดามแพร" อนุมัติรื้อถอนออก ก่อนแผ่ขยาย ดันอิฐมอญแดงใต้แนวรั้ว ทําให้ผนังแตกร้าวทรุดเอียงตลอดแนว หวั่นเกิดการพังทลายในอนาคต เผยล่าสุด เจ้าของโครงการแก้ไขสัญญา "ถอน" สร้างอ่างไฟเบอร์กลาสเดิม (บ่อบัว) และงานก่อสร้างกระบะบัวใหม่ หลังไม่พบระบุในสัญญา

วันนี้ (25 ก.ย. 2568) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการซ่อมแซมปรับปรุง บริเวณรอบตึกไทยคู่ฟ้า และตึกภักดีบดินทร์ ก่อนรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะเริ่มเข้าปฏิบัติหน้าที่

หลังจาก ตึกไทยคู่ฟ้า ถูกขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน โดยเฉพาะโครงการจ้างปรับปรุงรั้วริมคลองหลังตึก จากได้ประกาศเชิญชวนทั่วไป ไปเมื่อเดือน เม.ย. 2567 และมีการดำเนินการปรับปรุงตลอด 1 ปีเศษ ในรัฐบาลที่ผ่านมา

ล่าสุดพบว่า กองสถานที่ ยานพาหนะ และรักษาความปลอดภัย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ได้เผยแพร่ บันทึกแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาจ้างก่อสร้างฯ ตามสัญญาเลขที่ 7/2568 ลงวันที่ 23 พ.ย. 2567 มี บริษัท เจ พี รุ่งเรือง คอนสตรัคชั่น จํากัด ดำเนินการ วงเงิน 1,980,000 บาท

"มีการเปลี่ยนแปลสัญญา เนื่องจาก คณะกรรมการจัดทําแบบรูปรายการงานก่อสร้าง ได้ปรับลดงานรื้ออ่างไฟเบอร์กลาสเดิม (บ่อบัว) และงานก่อสร้างกระบะบัว ออกจากแบบก่อสร้างในส่วนงานโครงสร้าง เนื่องจากหมดความจําเป็นในการใช้ในราชการแล้ว"

ที่ผ่านมา แม้ สลน. จะเห็นชอบโครงการนี้ แต่เนื่องจากด้วยความเร่งดําเนินการ จึงเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ไม่ได้ปรับแก้ไขในส่วนของงานสถาปัตยกรรมที่ปรากฏในแบบ ทําให้การปรับแก้ไขไม่ครอบคลุม

จึงปรากฏข้อความและภาพสัญลักษณ์ “งานรื้อถอน อ่างไฟเบอร์กลาสเดิม (บ่อบัว) และจัดทําขึ้นมาใหม่” ซึ่งไม่สอดคล้องกับหน้างานก่อสร้างจริง ที่ไม่พบอ่างบัวไฟเบอร์กลาสเติมดังกล่าว

ประกอบกับจํานวนลูกกรง ที่จัดเก็บหน้างานก่อสร้างจริงไม่ตรงกับรายการประมาณการราคา (BOQ) โดยมีจํานวนเนื้องานลดลง และ เนื่องจากหน้างานก่อสร้างจริง มีสภาพพื้นที่อิฐมีความกว้างไม่ตรงกันกับแบบก่อสร้าง

ทําให้หมวดงาน โครงสร้าง (ตึกไทยคู่ฟ้า) จําเป็นต้องใช้คอนกรีตเทคานรั้วและวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้ขนาดคาน ตาม SHOP DRAWING ตามหลักวิชาช่างและมีความคงทนถาวรมากยิ่งขึ้น

"โดยปรับเพิ่มเนื้องานหมวดงาน โครงสร้าง (ตึกไทยคู่ฟ้า) ซึ่งเป็นงาน งวดที่ 3 และปรับลดเนื้องาน จํานวน 5 รายการ ดังนั้น จึงได้มีการแก้ไข เปลี่ยนแปลงสัญญาให้ถูกต้อง ตรงกัน ซึ่งคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาจ้างก่อสร้าง"

มีรายงานว่า ที่ผ่านมา ประธานกรรมการตรวจรับพัสดุ สลน. ได้แจ้ง ขยายเวลาทําการตามสัญญา โดยได้มีหนังสือแจ้งหยุดดําเนินการก่อสร้างฯ เป็นการชั่วคราว เพื่อเตรียม ความพร้อมด้านสถานที่ในการรับรองแขกต่างประเทศ

สำหรับ TOR หรือขอบเขตงาน ซึ่ง สลน. ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง (ยธ.) กระทรวงมหาดไทย ดําเนินการ สํารวจแนวรั้วริมคลองด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า และตึกภักดีบดินทร์

พบว่า มีการแตกร้าวและทรุดเอียง โดยมีสาเหตุ เกิดจาก “รากของต้นตีนเป็ด” (ต้นตีนเป็ดทะเล) หรือ สัตบรรณ ซึ่งปลูกตลอดแนวริมรั้ว แผ่ขยายและดันอิฐมอญแดงใต้แนวรั้ว

“ทําให้ผนังแตกร้าวและทรุดเอียงตลอดแนว ซึ่งอาจเกิดการพังทลายในอนาคต”

ยธ.จึงมีข้อแนะนําให้ดําเนินการ “รื้อถอนรั้วและผนังริมคลอง” เพื่อก่อสร้างใหม่ให้แข็งแรงตามรูปแบบเดิม และนําต้นตีนเป็ดออกจากแนวรั้ว

ขณะที่แบบสรุปงาน แจ้งว่า เป็นงานด้านรั้ว 883,000 บาท รื้อถอน/ปรับโครงสร้างและงานสถาปัตยกรรม เช่น รื้อถอนเสา ลูกกรง บัวปูนปั้น กระถางบัวหัวเสา ฯลฯ

แยกเป็นงานปรับปรุงรั้วหลังตึกไทยคู่ฟ้า 395,935 บาท และ ปรับปรุงรั้วหลังภักดีบดินทร์ 279,361 บาท

ขณะที่ ระบุว่า เป็นค่าใช้จ่ายพิเศษ 1,301,722.41 บาท เช่น ค่านั่งร้านพิเศษปลอดภัย ระบบป้องกันฝุ่น เป็นต้น

สำหรับ ต้นตีนเป็ดทะเล ถูกนำมาปลูกตลอดแนวริมรั้วตึกไทยคู่ฟ้า และตึกภักดีบดินทร์ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ต้นปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกองโบราณคดี กรมศิลปากร เข้ามาตรวจสอบตึกไทยคู่ฟ้า ทั้งภายนอก และภายใน ก่อนจะมีการ "รีโนเวต" บางจุดมีความจำเป็น เช่น การยาแนว เนื่องจาก บางจุดเกิดรอยร้าว และเกิดน้ำซึม ซึ่งเป็นการตรวจสอบตามวงรอบ.


กำลังโหลดความคิดเห็น