วันนี้(22 ก.ย.) นายมารุต ชุ่มขุนทด คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ที่ปรึกษา) พร้อมด้วยนายอรรถวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 3 ซึ่งดูแลพื้นที่ จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และชัยภูมิ ลงพื้นที่หารือแนวทางการพัฒนา “โครงการประมงน้ำเค็ม” ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
โดยนายมารุต เปิดเผยว่า การทำประมงน้ำเค็มจำเป็นต้องอาศัยแหล่งน้ำที่มีการควบคุมอย่างถูกต้อง การบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมพัฒนาที่ดินและกรมประมงจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เกิดระบบที่สมบูรณ์ตั้งแต่การเตรียมดิน แหล่งน้ำ ไปจนถึงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งจะทำให้การพัฒนาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และสามารถผลักดันเป็นแผนงบประมาณที่ตอบโจทย์เกษตรกรในอนาคต
“หากทำงานแบบผิวเผิน เพียงแค่ส่งเสริมพันธุ์ปลาอย่างเดียวไม่พอ สุดท้ายหากไม่มีแหล่งน้ำหรือระบบควบคุมความเค็มที่ถูกต้อง ก็จะสร้างปัญหาในระยะยาว ทั้งการปล่อยน้ำลงสู่พื้นที่สาธารณะและการรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม ผลลัพธ์ของโครงการจะตกสู่พี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งเป้าครอบคลุมพื้นที่ 20 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา”นายมารุต กล่าว
นอกจากนี้ นายมารุต ยังได้หารือประเด็นปัญหาการเลี้ยงโค-กระบือ รวมถึงปัญหาดินชะล้างจากการเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น มันสำปะหลังและอ้อย ที่ทำให้ดินร่วนชั้นบนถูกชะล้างกลายเป็นชั้นหินแข็ง ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ส่งผลให้ผลผลิตตกต่ำ โดยย้ำถึงความจำเป็นของการปรับปรุงดินและการ “ระเบิดดิน” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเกษตรทั้งระยะสั้นและระยะยาว
“ผมขอขอบคุณทีมงานกรมพัฒนาที่ดิน โดยเฉพาะนักวิชาการรุ่นใหม่จำนวนมากที่จบจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และกลับมาปักหลักทำงานเพื่อชาวโคราช ถือเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยผลักดันการพัฒนาการเกษตรในภูมิภาค และขอขอบคุณรองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ที่ให้การสนับสนุนและไฟเขียวประสานงานเต็มที่”นายมารุต กล่าว