รองโฆษกเพื่อไทย เรียกร้องรัฐบาล ต่ออายุโครงการนำร่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย (สายสีแดง-สายสีม่วง) ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน แนะอย่าคิดแค่รักษาหน้าตัวเอง จนลืมคิดถึงผลประโยชน์กับประชาชน
วันนี้ (21ก.ย.) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงกรณีที่โครงการนำร่อง รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ในสายสีแดง และสายสีม่วง ที่ดำเนินโครงการมาตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2566 หรือเกือบ 2 ปี และอาจจะต้องยุติลง แล้วกลับไปใช้ค่าโดยสารในราคาเดิมตามปกติซึ่งมีค่าโดยอัตรา สูงสุดอยู่ที่ 42 บาท เนื่องจากยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า รัฐบาลภูมิใจไทยจะพิจารณาต่ออายุให้กับโครงการนี้หรือไม่
.
พรรคเพื่อไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลใหม่จะสานต่อสิ่งดีๆ ที่รัฐบาลเพื่อไทยได้ทำไว้ เพราะเป็นประโยชน์กับประชาชน และเชื่อว่า รัฐบาลจะเลือกทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่าการปฏิเสธบางโครงการเพียงเพราะเคยเป็นโครงการของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย
จึงอยากเรียกร้องรัฐบาลใหม่ ให้มีมติในการประชุม ครม. นัดแรก เดินหน้าสานต่อโครงการนำร่องดังกล่าวต่อไป เนื่องจากโครงการนี้ มีประชาชนที่อาศัยอยู่ย่านเมือง ได้ประโยชน์จากโครงการนี้แสนกว่าคน และที่สำคัญเมื่อการดำเนินโครงการนี้ ไม่ได้ใช้งบประมาณมากมาย
อ้างอิงข้อมูลเมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา พบว่า รถไฟฟ้าสายสีม่วง มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยในวันธรรมดาประมาณ 8.1 - 8.8 หมื่นคน/วัน ส่วนรถไฟฟ้าสายสีแดง มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยในวันธรรมดา ประมาณ 4.1 - 4.5 หมื่นคน/วัน
ซึ่งเมื่อมีผู้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น ก็ยิ่งที่ให้รัฐจ่ายชดเชยลดลงไปเท่านั้น ดังเช่นเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา ท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เปิดเผยข้อมูลว่า หลังจากมีการดำเนินโครงการนี้ ทำให้รถไฟฟ้าทั้งสองสาย มีรายได้เพิ่มขึ้น 12.28% เพราะเมื่อจำนวนผู้โดยสารเพิ่ม รายได้ก็เพิ่มขึ้นด้วย หมายความว่ารัฐจะจ่ายค่าชดเชยน้อยลง หรืออาจจะไม่ต้องชดเชยเลย หากจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอีก
ดังนั้นหากรัฐบาลชุดนี้ไม่สานต่อนโยบาย 20 บาทตลอดสาย พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะกลับไปผลักดันนโยบายนี้เองให้สำเร็จ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการลดค่าใช้จ่ายและยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างแน่นอน